"เพราะว่า พระวจนะของพระเจ้านั้นไม่ตายและทรงพลานุภาพอยู่เสมอ คมยิ่งกว่าดาบสองคมใดๆ แทงทะลุกระทั่งจิตและวิญญาณ ตลอดข้อกระดูกและไขในกระดูก และสามารถวินิจฉัยความคิดและความมุ่งหมายในใจด้วย" (ฮีบรู 4:12)
พระวจนะที่เต็มไปด้วยฤทธิ์เดช เราสามารถค้นหาคำตอบได้ทุกเรื่อง หลายครั้งเราไม่พบคำตอบ ก็เพราะว่าเราไม่ได้เปิดพระคัมภีร์ พระคัมภีร์มีทางออก เพราะเป็นพระวจนะของพระเจ้า ถูกต้องอย่างแม่นยำ เพราะล้วนออกมาจากพระโอษฐ์ของพระเจ้า สามารถเปลี่ยนแปลงชีวิต เปลี่ยนแปลงสังคม เปลี่ยนแปลงประเทศ และเปลี่ยนแปลงโลกได้ พระวจนะคำของพระเจ้าไม่ตาย แต่เต็มไปด้วยฤทธิ์อำนาจ
1. พระวจนะเป็นดาบ
1.1 พระวจนะเป็นดาบที่ทิ่มแทงจิตวิญญาณของเรา
"เพราะว่า พระวจนะของพระเจ้านั้นไม่ตายและทรงพลานุภาพอยู่เสมอ คมยิ่งกว่าดาบสองคมใดๆ แทงทะลุกระทั่งจิตและวิญญาณ ตลอดข้อกระดูกและไขในกระดูก และสามารถวินิจฉัยความคิดและความมุ่งหมายในใจด้วย" (ฮีบรู 4:12)
เวลาเราคิดจะทำอะไรสักสิ่งหนึ่ง จะมี 2 ส่วนของความคิดที่ต่อสู้กันอยู่ คือ ฝ่ายเนื้อหนัง และฝ่ายวิญญาณ พระวจนะของพระเจ้าจะเปิดโปงว่าเรามีแรงจูงใจฝ่ายใดมากกว่ากัน
พระวจนะของพระเจ้าไชชอน ทิ่มแทงทะลุจิตและวิญญาณของเรา ไปสู่ส่วนลึกของร่างกาย และไม่เพียงเท่านั้น พระวจนะสามารถวินิจฉัยความคิดและความมุ่งหมายในใจด้วย
ในขณะที่เราทั้งหลายนั่งอยู่ที่นี่ ข้าพเจ้าไม่ทราบว่าในใจแต่ละคนเป็นเช่นไรบ้าง แต่พระเจ้าทรงทอดพระเนตรที่จิตใจ ทรงทราบจิตใจของเราว่าเรามีท่าทีเช่นไรในการมานมัสการ
พระคัมภีร์ตอนหนึ่ง สามารถที่จะสอนเราเป็นการส่วนตัวได้ แม้ว่าผู้เทศนาอาจไม่ทราบว่าแต่ละคนที่ฟังเป็นเช่นไร แต่บางคนที่ฟังรู้สึกโดนใจ ในขณะที่บางคนอาจรู้สึกว่ากำลังถูกตำหนิ
พระคัมภีร์มิได้มีไว้ใช้ในการด่าทอกัน แต่พระคัมภีร์สามารถใช้ในการสอนเปลี่ยนแปลงชีวิตของเรา
พระวจนะของพระเจ้า ถ้ายิ่งอ่าน ก็จะยิ่งทราบว่าสิ่งที่เราทำอยู่นั้น เป็นเช่นไร เป็นที่พอพระทัยของพระเจ้าหรือไม่
มีชาวจีนคนหนึ่ง ได้เลือกหญิงไทยผู้หนึ่ง และแต่งงานกับเขา หญิงคนนี้ดีทุกอย่าง ยกเว้นปากของเธอที่ชอบด่าชอบนินทาว่าร้าย ต่อมาทั้งครอบครัวกลับใจเป็นคริสเตียน เมื่อเป็นคริสเตียนใหม่ ๆ ก็ดูเหมือนจะดีทุกอย่าง ยกเว้นที่ปากของภรรยาของเขา ซึ่งแก้ไม่หาย ทุกครั้งที่อารมณ์ไม่ดี ภรรยาจะพูดหยาบคาย
วันหนึ่ง ภรรยาคนนี้อารมณ์เสีย จึงตะโกนด่าสามี เขาตั้งใจจะด่าเป็นสัตว์ชนิดหนึ่ง แต่เขาก็คิดได้ว่า พระคัมภีร์สอนไม่ให้ทำเช่นนั้น แต่ให้ภรรยาเชื่อฟังสามี เขาจึงไม่พูดเช่นนั้น แต่พูดดีกับสามีได้
"ฝ่ายภรรยา จงยอมฟังสามีของตน เหมือนยอมฟังองค์พระผู้เป็นเจ้า" (เอเฟซัส 5:22)
"อย่าประพฤติตามอย่างคนในยุคนี้ แต่จงรับการเปลี่ยนแปลงจิตใจ แล้วอุปนิสัยของท่านจึงจะเปลี่ยนใหม่ เพื่อท่านจะได้ทราบน้ำพระทัยของพระเจ้า จะได้รู้ว่าอะไรดี อะไรเป็นที่ชอบพระทัย และอะไรดียอดเยี่ยม" (โรม 12:2)
เราไม่สามารถเปลี่ยนชีวิตจิตใจของเราได้ แต่พระเจ้าทรงเปลี่ยนได้
ไม่เพียงแต่ได้รับการสอนถึงความผิดของเราเท่านั้น แต่ทุกสิ่งที่เรากระทำจะต้องถูกเปิดเผยด้วย เพราะพระเจ้าทรงทราบทุกสิ่ง เราไม่สามารถซ่อนความผิดของเราไว้จากพระองค์ได้เลย
"ไม่มีสิ่งหนึ่งสิ่งใดซ่อนไว้พ้นพระเนตรพระองค์ แต่ตรงข้ามทุกสิ่งปรากฏแจ้งต่อพระองค์ผู้ซึ่งเราต้องสัมพันธ์ด้วย" (ฮีบรู 4:13)
1.2 ดาบที่คอยต่อสู้กับมารซาตาน
ซาตานรู้จุดอ่อนของคริสเตียน ว่ามักจะพ่ายแพ้การทดลอง เพราะคริสเตียนส่วนใหญ่ไม่รู้พระคัมภีร์ ไม่รู้เนื้อหาของพระวจนะของพระเจ้า
คริสเตียนจำเป็นต้องอ่านพระคำ และท่องจดจำ ตรึกตรองสิ่งต่าง ๆ จากเรื่องราวในพระคัมภีร์
คริสเตียนบางคนไม่ชอบอ่านพระคัมภีร์ แม้ว่าจะมีพระคัมภีร์หลาย versions มีหลายเล่ม หลายรูปแบบ แต่ก็ไม่อ่าน เวลาเจอปัญหา หรือเมื่อเพื่อนมีปัญหาก็คิดไม่ออกว่าจะใช้พระคัมภีร์ตอนใดในการหนุนใจ
บางท่าน ใช้ดาบสั้น ใช้อาวุธเล็ก ๆ คือ มักจะต่อสู้ด้วยวิธีของตนเองในการต่อสู้มารซาตาน แต่ไม่ได้ใช้พระแสงแห่งพระวิญญาณ คือพระวจนะของพระเจ้า ถ้าเราไม่อ่านพระคัมภีร์ เราจะพ่ายแพ้ต่อมารซาตานแน่นอน
พระเยซูคริสต์ทรงใช้พระวจนะคำของพระเจ้าในการต่อสู้กับมารซาตาน
"1 ครั้งนั้น พระวิญญาณทรงนำพระเยซูเข้าไปในถิ่นทุรกันดาร เพื่อมารจะได้มาผจญ
2 และพระองค์ทรงอดพระกระยาหารสี่สิบวันสี่สิบคืน ภายหลังพระองค์ก็ทรงอยากพระกระยาหาร
3 ส่วนผู้ผจญมาหาพระองค์ทูลว่า 'ถ้าท่านเป็นพระบุตรของพระเจ้า จงสั่งก้อนหินเหล่านี้ให้กลายเป็นพระกระยาหาร'
4 ฝ่ายพระองค์ตรัสตอบว่า 'มีพระคัมภีร์เขียนไว้ว่า 'มนุษย์จะบำรุงชีวิตด้วยอาหารสิ่งเดียว หามิได้ แต่บำรุงด้วยพระวจนะทุกคำ ซึ่งออกมาจากพระโอษฐ์ของพระเจ้า' '
5 แล้วมารก็นำพระองค์ไปยังนครบริสุทธิ์ และให้พระองค์ประทับที่ยอดหลังคาพระวิหาร
6 แล้วทูลพระองค์ว่า 'ถ้าท่านเป็นพระบุตรของพระเจ้า จงโจนลงไปเถิด เพราะพระคัมภีร์มีเขียนไว้ว่า พระเจ้าจะรับสั่งให้เหล่าทูตสวรรค์ ของพระองค์รักษาท่าน และเหล่าทูตสวรรค์จะเอามือประคองชูท่านไว้ มิให้เท้าของท่านกระทบหิน'
7 พระเยซูจึงตรัสตอบว่า 'พระคัมภีร์มีเขียนไว้อีกว่า อย่าทดลองพระองค์ผู้เป็นพระเจ้าของท่าน'
8 อีกครั้งหนึ่งมารได้นำพระองค์ขึ้นไปบนภูเขาอันสูงยิ่งนัก และได้แสดงบรรดาราชอาณาจักรในโลก ทั้งความรุ่งเรืองของราชอาณาจักรเหล่านั้นให้พระองค์ทอดพระเนตร
9 แล้วได้ทูลพระองค์ว่า 'ถ้าท่านจะกราบลงนมัสการเรา เราจะให้สิ่งทั้งปวงเหล่านี้แก่ท่าน'
10 พระเยซูจึงตรัสตอบว่า 'อ้ายซาตาน จงไปเสียให้พ้น เพราะพระคัมภีร์มีเขียนไว้ว่า จงกราบนมัสการพระองค์ผู้เป็นพระเจ้าของท่าน และปรนนิบัติพระองค์แต่ผู้เดียว'
11 แล้วมารจึงละพระองค์ไป และมีเหล่าทูตสวรรค์มาปรนนิบัติพระองค์" (มัทธิว 4:1-11)
หลายครั้งเราไม่พึ่งพาพระวจนะคำของพระเจ้า จึงพ่ายแพ้มารซาตาน พ่ายแพ้การทดลอง จึงขอที่เราจะเริ่มกลับมาทบทวนว่าชีวิตส่วนใหญ่ของเราที่ล้มเหลวเพราะอะไร หลายครั้งความล้มเหลวของเราเป็นสัญญาณที่พระเจ้าทรงใช้เตือนเรา ให้เราลุกขึ้นต่อสู้กับปัญหา ต่อสู้กับการทดลอง เราทุกคนจะต้องเริ่มที่จะฝึกฝนใช้ดาบประจำตัว นำมาใช้ปฏิบัติจริงเสมอ
ศจ. ทิวาพร ราชรักษ์
สรุปคำเทศนาโบสถ์ไทย คริสตจักรสะพานเหลือง
เมื่อวันที่ 12/07/2009
เรื่อง ฤทธิ์เดชแห่งพระวจนะ
วินัยของน้องหมา (ข้างถนน)
-
วันที่ 18/8/2011
เช้านี้ขณะที่รถติดไฟแดงอยู่บริเวณสี่แยกสามย่าน
ซึ่งเบื้องหน้าเป็นจามจุรีสแควร์นั้น
พลันก็เหลือบเห็นน้องหมาตัวหนึ่งเดินข้ามทางม้าลายด้วยอ...
13 ปีที่ผ่านมา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น