1. ใช้วาจาของเราเป็นเกลือ
"จงให้วาจาของท่านประกอบด้วยเมตตาคุณเสมอ ปรุงด้วยเกลือให้มีรส เพื่อท่านจะได้รู้จักตอบให้จุใจแก่ทุกคน" (โคโลสี 4:6)
ให้วาจาเราจะเป็นเหมือนเกลือ ให้คำพูดของเราเป็นดังเกลือ หมายถึง ถ้อยคำของเราที่จะพูด จะต้องเป็นถ้อยคำที่มีรสชาด
ชีวิตคริสเตียนเป็นชีวิตที่มีรสชาติ ชื่นชมยินดี เปรมปรีดิ์ในพระเจ้าเสมอ ไม่ใช่ดำรงชีวิตอยู่ไปวัน ๆ เราจะต้องหาโอหาสที่จะให้ชีวิตของเรามีรสชาติ แตกต่าง ไม่จืดชืด แม้สถานการณ์รอบข้างของเราจะนำให้เราจืดชืด ดึงความเค็มของเราออกไป ทำให้เราเป็นไปตามสถานการณ์ ตามสิ่งที่เราได้พบเจอ
ขอที่คำพูดของเราจะเติมชีวิตที่กำลังตกต่ำ ให้ได้รับการหนุนใจ ได้รับการชูกำลังขึ้น ใช้วาจาเป็นเกลือ
หลายครั้ง ชีวิตของหลายคนอยู่ในความกลัว สิ่งเหล่านี้จะทำลายทัศนคติที่ดี ไม่ว่าเราไปที่ใด เราจะได้ยินแต่สิ่งที่แย่ ๆ อยู่เสมอ พูดถึงเหตุการณ์ที่แย่ ๆ ไม่ว่าจะเป็นภัยพิบัติที่กำลังเกิดขึ้น ได้แก่ โรคระบาด ภัยธรรมชาติ สงคราม (ความขัดแย้งต่าง ๆ) และการกันดารอาหาร (เศรษฐกิจตกต่ำ) แท้จริงแล้วสิ่งเหล่านี้ที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ไม่ใช่สิ่งแปลกใหม่ เพราะโลกของเรากำลังอยู่ในส่วนปลายยุค สิ่งเหล่านี้กำลังโจมตีชีวิตของเราให้เราคิดในทางที่ลบ แต่สำหรับคริสเตียน เราไม่ควรรับสิ่งเหล่านี้มากจนทำให้ความเชื่อสั่นคลอน ขอที่เราจะยึดความเชื่อ จะไม่กลัวต่อสถานการณ์ใด ๆ เพราะพระเจ้าจะนำเรา พระเจ้าจะทรงดูแลชีวิตเรา เราจะไม่หวั่นไหว
คำพูดของมนุษย์มีอิทธิพลทั้งทางด้านบวก (อวยพร) และทางด้านลบ (คำสาปแช่ง)
คำอธิษฐานของเรา เรากำลังพยายามที่จะเปลี่ยนสิ่งที่ลบให้เป็นบวก อาทิเช่น อธิษฐานให้คนหายจากโรคภัยไข้เจ็บ อธิษฐานอวยพรให้ลูก ๆ เชื่อฟัง เจริญก้าวหน้า ขอที่เราจะใช้คำพูดในการเสริมสร้าง ไม่ใช่ทำลาย
เมื่อชาวยิวเห็นคนที่ตาบอด ได้สงสัยไปก่อน ว่าเกิดจากความบาปของเขา หรือจากความผิดของพ่อแม่ของเขา แต่เมื่อพระเยซูคริสต์ได้ยิน พระองค์ตรัสตอบว่า
"พระเยซูตรัสตอบว่า 'มิใช่ว่าชายคนนี้หรือบิดามารดาของเขาได้ทำบาป แต่เขาเกิดมาตาบอด เพื่อให้พระราชกิจของพระเจ้าปรากฏในตัวเขา' " (ยอห์น 9:3)
นี่แหละ คำตรัสของพระเยซู พระองค์ทรงตรัสอวยพรเขา ว่าไม่ว่าเขาจะเป็นเช่นไร แต่ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับเขา กำลังจะทำให้พระราชกิจของพระเจ้าสำเร็จ พระองค์มิได้ทรงมองที่อดีต แต่ทรงอวยพรเพื่ออนาคตของเขา
พระเยซูคริสต์ทรงมีวาจาที่เป็นเกลือ ที่จะหนุนใจ ชูใจ อวยพร เช่นกัน ขอที่เราจะใช้วาจาในการหนุนใจ กล่าวพระวจนะของพระเจ้า ให้อนาคต ให้ความหวังกับเขา เพื่อที่เขาจะไม่คิดในสิ่งที่ตกต่ำ
พระเจ้าสร้างเรา และพระเจ้ามีแผนการในชีวิตของเราทุก ๆ คน
เมื่อครั้งที่มีคนนำเอาหญิงล่วงประเวณีมาให้พระเยซูคริสต์ตัดสินลงโทษ คนทั้งหลายต่างกล่าวโทษหญิงนี้ แต่พระองค์กลับมิได้ตรัสสิ่งใดเลยถึงความผิดของหญิงนี้ แต่กลับตรัสว่าพระองค์ทรงอภัย และตรัสสั่งหญิงนั่นมิให้ทำบาปอีก
ศัตรูของเรา คือมารซาตาน ไม่ใช่คน ขอที่เราจะไม่เข้าใจผิด ดังนั้น การที่เราด่าว่าใคร สาปแช่งใคร ย่อมไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้อง เพราะพระเจ้าทรงเรียกเราที่จะอวยพร เพื่อเราเองจะได้รับพระพร
"9 อย่าทำการร้ายตอบแทนการร้าย อย่าด่าตอบการด่า แต่ตรงกันข้ามจงอวยพรแก่เขา ด้วยว่าพระองค์ได้ทรงเรียกให้ท่านกระทำเช่นนั้น เพื่อท่านจะได้รับพระพร
10 เพราะว่าผู้ที่จะรักชีวิต และปรารถนาที่จะเห็นวันดี ก็ให้ผู้นั้นยั้งลิ้นของตนไม่พูดสิ่งชั่ว และห้ามปากไม่ให้พูดเป็นอุบายล่อลวง (1เปโตร 3:9)
ถ้าเราอยากให้ทุกวันเป็นวันดี ขอที่เราพูดเป็นคำอวยพร พูดเสริมสร้างผู้อื่น เพราะเราจะได้รับเช่นนั้นเหมือนกัน
"ผู้ที่กระทำบาปก็มาจากมาร เพราะว่ามารได้กระทำบาปตั้งแต่เริ่มแรก พระบุตรของพระเจ้าได้เสด็จมาปรากฏก็เพราะเหตุนี้ คือเพื่อทรงทำลายกิจการของมาร" (1ยอห์น 3:8)
มารมีแผนการ มีกิจการเยอะแยะมากมาย และหลายครั้งเราก็ตกอยู่ในแผนของมัน แต่พระเยซูคริสต์ทรงได้เสด็จมาเพื่อทำลายแผนการของมารซาตาน มันจึงไม่มีอำนาจที่จะวางแผนเหนือชีวิตของเรา
พระคัมภีร์จะเป็นจริงในชีวิตของเราได้ ผ่านทางความเชื่อ พระเยซูคริสต์ทรงสิ้นพระชนม์เพื่อเราแล้ว แต่ผู้ที่จะได้รับความรอดคือผู้ที่เชื่อในพระองค์เท่านั้น พระคัมภีร์มีพระสัญญามากมาย ถ้าเราเพียงแค่อ่าน แค่ท่อง แต่ไม่เชื่อ สิ่งเหล่านั้นก็จะไม่เกิดขึ้นในชีวิตของเรา เพราะวิญญาณจิตของเราจะติดต่อกับพระวจนะของพระเจ้าได้ ก็ผ่านทางความเชื่อ
"เพราะว่าในข่าวประเสริฐนั้น ความชอบธรรมของพระเจ้าก็ได้สำแดงออก โดยเริ่มต้นก็ความเชื่อ สุดท้ายก็ความเชื่อ ตามที่พระคัมภีร์มีเขียนไว้ว่า คนชอบธรรมจะมีชีวิตดำรงอยู่โดยความเชื่อ" (โรม 1:17)
ความเชื่อในที่นี้ ไม่ใช่เพียงแค่เชื่อว่ามีพระเจ้า แต่จะต้องเชื่อในถ้อยคำของพระองค์ด้วย ถ้าเรารับรู้แต่เราไม่เชื่อ ผลก็ไม่เกิดในชีวิตของเรา
มารซาตานก็เชื่อว่ามีพระเจ้า และมันก็รู้จักพระองค์ดี แต่ว่ามันไม่กระทำตามสิ่งที่พระองค์ตรัส
ทุกคนมีความเชื่อได้ แม้แต่คนที่ไม่รู้จักพระเจ้า เขาก็มีความเชื่อ
ถ้าอาหารที่เรารับประทานเข้าไป เป็นประโยชน์ เมื่อเรารับประทาน เราก็จะได้รับประโยชน์ เช่นเดียวกัน พระวจนะของพระเจ้าเป็นอาหารแห่งชีวิต เมื่อรับเข้าไป นั่นคือ เชื่อในถ้อยคำเหล่านั้น จิตวิญญาณก็จะเติบโต และได้รับชีวิต
"9 เราทั้งหลายสรรเสริญองค์พระผู้เป็นเจ้าและพระบิดาด้วยลิ้นนั้น และด้วยลิ้นนั้นเราก็แช่งด่ามนุษย์ ผู้ซึ่งพระเจ้าทรงสร้างไว้ตามพระฉายาของพระองค์
10 คำสรรเสริญและคำแช่งด่าก็ออกมาจากปากอันเดียวกัน ดูก่อนพี่น้องของข้าพเจ้า ไม่ควรให้เป็นเช่นนั้น
11 บ่อน้ำพุจะมีน้ำจืดและน้ำกร่อยพุ่งออกมาจากช่องเดียวกันได้หรือ (ยากอบ 3:9-11)
ผป. วิวัฒน์ วุฒิกุลเจริญวงศ์
คำแบ่งปันคณะเพื่อคุณ คริสตจักรสะพานเหลือง
เมื่อวันที่ 16/08/2009
เรื่อง Salt of The Earth
วินัยของน้องหมา (ข้างถนน)
-
วันที่ 18/8/2011
เช้านี้ขณะที่รถติดไฟแดงอยู่บริเวณสี่แยกสามย่าน
ซึ่งเบื้องหน้าเป็นจามจุรีสแควร์นั้น
พลันก็เหลือบเห็นน้องหมาตัวหนึ่งเดินข้ามทางม้าลายด้วยอ...
13 ปีที่ผ่านมา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น