เทศนา งานอิสเตอร์
เป้าหมาย ผู้เชื้อและผู้สนใจ
คำนำ เมล็ดข้าวที่ถูกหว่านออกไปและเน่าเปื่อยจึงเกิดเป็นต้นข้าวที่มีชีวิต
พระธรรม 1 โครินธ์ 15:3-5
ประโยคเชื่อม การตายและการเป็นขึ้นมาจากความตายของพระพระเยซูคริสต์เป็นหัวใจสำคัญของข่าวประเสริฐดังนั้น เราจึงต้องพูดเรื่องราวข่าวประเสริฐของพระองค์
ประการที่ 1 ตายเพื่อนเรา (3)
ในเบื้องหลังความคิดของชาวโครินธ์ พวกเขาคิดว่าพระเยซูไม่ฟื้นคืนพระชนม์ แต่หลังถูกตรึงพระเยซูคริสต์ถูกรับไปบนสวรรค์ เหมือนกับเอลียาห์ แต่ถ้าจะกล่าวถึงหลักฐานว่าพระเยซูคริสต์ สิ้นพระชนม์เรามีหลักฐานหลายประเด็น เช่น น้ำเลือดออกจากการที่ถูกแทงสีข้าง และการถูกผ้า พันไว้ทั้งตัว ก่นเอาไปฝังในอุโมงค์เป็นต้น ซึ่งเหตุผลทั้งสองบอกได้ชัดเจนว่าพระเยซูคริสต์ได้สิ้นพระชนม์จริงๆ
1. เหตุผลที่สิ้นพระชนม์
* เพราะเรามีเชื้อสายของความบาป เราเป็นคนบาปที่มีเชื้อแห่งบาปติดอยู่ในตัวเรา และเรามาสมารถช่วยเหลือตนเองให้หลุดพ้นสายเลือดแห่งความบาปเหล่านี้ได้ ด้วยวิธีของเราได้ และมนุษย์เราทุกคนต้องตาย ด้วยเหตุนี้พระเยซูคริสต์เองต้องเข้ามาในโลก และสิ้นพระชนม์บนไม่กางซึ่งเป็นหนทางแห่งความรอด
* เพื่อไถ่บาปเรา ในสมัยก่อนเมื่ออิสราเอลทำความบาป เขาต้องเอาสัตว์มาเป็นเครื่องบูชาไถ่บาป และตอนที่อับราฮัมจะถวาอิสอัสเป็นเครื่องบูชาแด่พระเจ้า เวลานั้นพระเจ้าก็ประทานแกะตัวหนึ่งเป็นเครื่องบูชาแทน พูดง่ายๆคือ พระเยซูคริสต์ก็เหมือนกับแพะรับบาปแทนเรานั้นเอง
*จะมีสักกี่คน ที่ยอมตายเพื่อคนอื่นได้ชีวิต เพราะว่าโดยนิสัยส่วนใหญ่ของมนุษย์จะเห็นก่ตัว ถ้าเราดูในทีวีเราจะเห็นถึงความรักที่ยอมตายเพื่อคนที่ตนเองรัก แต่อย่าลืมว่านั่นเป็นแค่ละครน้ำเน่า และเราจะเห็นความจริงอีกอย่างหนึ่งว่า ถ้าคนที่เรารักก็คงจะตายแทนกันได้ แต่ถ้าเป็นคนทั่วไปก็คงจะยาก ยิ่งคนที่ไม่น่ารัก เช่น คนพิการ คนปากแหว่งตาบอด คนชั่ว คนขี้โกงและอีกมากมายที่มาน่ารักก็ยิ่งหมดสิทธิ์
พี่น้องครับแล้วเราเป็นใครเป็นประเภทไหน พระเยซูรักเราถึงขนาดยอมตายเพื่อเราเพื่อไถ่ความผิดบาปของเรา พระองค์ไม่จดจำความผิดบาปของเรา เมื่อเราเชื่อในพระองค์ด้วยใจจริง พระองค์ทรงยกโทษความผิดบาปของเราแล้ว ขอเพียงอย่างหนึ่งคือเราอย่าเพิกเฉยพระคุณอันมีค่าที่พระคริสต์ให้กับเรา อย่าไปหมกหม่นในความบาปอีก ใช้ชีวิตที่พระเจ้าให้กับเราอย่างมีคุณค่าโดยการรับใช้พระองค์
ประการที่2 พระคริสต์ฟื้นคืนพระชนม์ (4)
หลังจากที่พระคริสต์สิ้นพระชนม์ แล้วพระศพของพระองค์ก็ถูกนำไปฝังไว้ในอุโมงค์และไม่ใช่ว่าจะถูกฝังไว้ตลอดไป จากพระคัมภีร์เราจะเห็นว่า ในวันที่3 พระองค์ได้เป็นขึ้นมาจากความตาย เมื่อเรากล่าวถึงการฟื้นขึ้นจากความตาย อาจเป็นเรื่องธรรมดาของคนทั่วไป เพราะมีเรื่องนี้ปรากฏเห็นอยู่บ่อยๆ แต่สำหรับพระเยซุแล้วเป็นสิ่งที่ไม่ธรรมดา เพราะพระองค์ฟื้นแล้วไม่ตายอีกและเสด็จขึ้นสู่สวรรค์ ในขณะเดียวกันถ้าพระเยซูไม่เป็นขึ้นมาจากความตาย แน่นอนความเชื่อของคริสเตียนก็คงน่าสมเพชที่สุดและไม่มีแก่น ไม่มีความหวังเพราะน่าถือคนที่ตายไปแล้ว แต่ความจริงคือ พระเยซูคริสต์ได้เป็นขึ้นมาจากความตายไม่ตายและเป็นอยู่ตลอดกาล และวันหนึ่งพระองค์จะเสด็จมารับผู้ที่เชื่อพระองค์อยู่กับพระองค์ ทำให้เราทั้งหลายมีความหวังในพระองค์เสมอ
2.1หลักฐานที่ยืนยันว่าพระเยซูคริสต์ทรงเป็นขึ้นมาขากความตาย
- อุโมงค์ว่างเปล่า ในขณะเดียวมีคนที่ไม่ยอมรับพระเยซูคริสต์เป็นขึ้นมาจากความตาย ดดยคนเหล่านั้นอ้างว่า ศพของพระองค์ถูกสาวกขโมยไป นั่นเป็นสิ่งที่ย่อมเป็นไปไม่เลย เพราะว่าสาวกเป็นเพียงคนกลุ่มน้อยและตอนนั้นก็กระจัดกระจายก็ไปหมด และก้ไม่มีกำลังที่จะไปปล้นเอาศพจากกำลังทหารที่กำลังเฝ้าอุดมงค์อยู่เป็นกอง
ดังนั้นไม่ใช่ว่าศพพระเยซูจะหายไป แต่ว่าพระองค์เป็นขึ้นมาจริงๆ โดยจากหลักฐานที่สามารถยืนยันได้ เช่น หลักฐานจากผู้ที่เห็นเหตุการณ์ในเวลานั้น
(1โครินธ์ 15:1-9) และจากการยืนยันของเปาโลที่ไม่ใช่สาวกวงในเป็นต้น
*พี่น้องครับพระเยซูคริสต์ที่เราเชื่อนั้น ยังทรงพระชนม์อยู่ และไม่ตายเหมือนกับพระทั่วไป ที่มามีชีวิตแต่คนก็ยังศรัทธาอันแรงกล้า ไปเซ่นไหว้ เอาของไปถวาย ในสิ่งที่เขากราบไหว้ ทั้งที่มามีชีวิตไม่มีความหวังที่ชัดเจน และเรามีพระเจ้าที่ทรงพระชนม์อยู่เรา ยิ่งต้อง ดำเนินชีวิตด้วยความเชื่อฟังและมีความหวังใจในพระเจ้าว่าในวันหนึ่งว่าพระคริสต์จะเสด็จกลับมารับเรา ดังนั้น อย่าใช้ชีวิตแบบคนที่มามีความหวังเหมือนคนที่ตายแล้ว อย่าลืมว่าพระองค์ทรงพระชนม์อยู่
ขอพระเจ้าจะอวยพรพี่น้องทุกท่าน
นาย สุขสันต์ สุเลิศดิลกกุล
วินัยของน้องหมา (ข้างถนน)
-
วันที่ 18/8/2011
เช้านี้ขณะที่รถติดไฟแดงอยู่บริเวณสี่แยกสามย่าน
ซึ่งเบื้องหน้าเป็นจามจุรีสแควร์นั้น
พลันก็เหลือบเห็นน้องหมาตัวหนึ่งเดินข้ามทางม้าลายด้วยอ...
13 ปีที่ผ่านมา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น