การฟื้นฟูหลังเฉลิมฉลอง
นพ.สุทิตต์ กุลสรรค์ศุภกิจ 200409
1. จุดประสงค์ของการฟื้นฟู = กลับคืนสู่ความสัมพันธ์อันดีกับพระเจ้า
· ในการจัดการฉลองหรือการจัดการฟื้นฟู ต้องมีผู้จัดกิจกรรมต่างๆ ทั้งการนมัสการ การสั่งสอน การเทศนา เป็นพยาน การตอนรับ การเตรียมสถานที่ ที่พัก อาหาร และอื่นอีกมากมาย
· งานเฉลิมฉลองจะไม่สามารถดำเนินการได้ หากไม่มีคนดำเนินกิจกรรมต่างๆเหล่านี้
· ในทุกการเฉลิมฉลอง เราคาดหวังการฟื้นฟูชีวิตจิตวิญญาณ และให้ทุกคนมีความสัมพันธ์กับพระเจ้าที่ใกล้ชิดพระองค์มากขึ้น ถวายตัวมากขึ้น
· ผู้ร่วมค่ายทุกคน ในทุกบทบาทหน้าที่ ควรได้รับการฟื้นฟู และกลับมีความสัมพันธ์อันดีกับพระองค์ผู้ทรงสร้าง อย่างแนบแน่นยิ่งขึ้น
· แต่หากหลังกลับจากการเฉลิมฉลอง เราไม่สามารถสัมพันธ์กับพระเจ้าได้ดีขึ้น เราก็พลาดการเฉลิมฉลองอย่างแท้จริง แม้ว่าเราจะไปปรากฏตัวในงานทุกวันก็ตาม
2. การฟื้นฟูในความสัมพันธ์กับพระเจ้า
· เกิดขึ้นในหลายลักษณะ ในหลายๆกิจกรรม เช่น
2.1 การนมัสการ การฟังคำเทศน์ คำสอน
· เป็นเนื้อหาหลักที่ให้คนสัมผัสพระเจ้า ผ่านการนมัสการ การฟังพระวจนะของพระเจ้า
· หากแต่การฟื้นฟูที่แท้จริงนั้นต้องมีผลแห่งการฟื้นฟูเกิดขึ้นเป็นตัวพิสูจน์
· นั่นคือการเติบโตขึ้นในสัมพันธภาพที่มีต่อพระเจ้า
o หากเราไม่ได้ใกล้ชิดพระเจ้ามากขึ้น
o หากเรามิได้ถวายตัวมากขึ้น
o หากเรามิได้รับใช้มากขึ้น
o การเฉลิมฉลองของเราก็เป็นเพียงการเข้าร่วมโปรแกรมตามผู้เชื่อท่านอื่นๆเท่านั้น
· เราจึงต้องกลับมาสำรวจชีวิตของเรา และตักตวงชีวิตฝ่ายวิญญาณหลังงานเฉลิมแลอง เพื่อให้เรามีความสัมพันธ์กับพระเจ้ามากขึ้นให้ได้
· มิเช่นนั้นการไปร่วมเฉลิมฉลองจะได้แต่ความสุขใจ แต่จิตวิญญาณยังคงเดิม ไม่มีอะไรที่มอบถวายแด่พระองค์มากขึ้น
· เราจึงควรคิดใคร่ครวญและประเมินตัวเราว่า เราได้อะไรจากการเฉลิมฉลองครั้งนี้บ้าง เราโตขึ้นในเรื่องใดบ้าง เพื่อมิให้การไปร่วมเฉลิมฉลองสูญเปล่า
2. 2 การรับใช้ในกิจกรรมต่างๆ
· ชีวิตแห่งการรับใช้ด้วยเต็มใจ เป็นชีวิตที่สำแดงออกว่าพระเจ้าทรงกระทำการในชีวิตของเราอยู่
· และที่เราสามารถรับใช้ได้ก็โดยกำลังของพระองค์
· เรายิ่งรับใช้อย่างจริงจังและจริงใจ เราจะยิ่งเข้าใกล้พระเจ้ามากขึ้น เพราะเราต้องพึ่งพระเจ้ามากขึ้น รับกำลังจากพระองค์ในการแก้ปัญหาข้อบอพร่องต่างๆในงานเฉลิมฉลองให้สามารถดำเนินไปให้ได้ และทุกคนได้รับพระพร มากที่สุดเท่าที่กำลังในการรับใช้จะทำได้
· และเราจะขอให้พระเจ้าทรงเป็นแหล่งกำลัง สติปัญญาในกิจการแห่งการเฉลิมฉลองนี้
· การรับใช้จึงทำให้เราต้องพึ่งพาพระองค์มากขึ้นในภาคปฏิบัติ
· หากพระเจ้าทรงเป็นคำตอบสุดท้าย เราจะเรียนรู้จากพระองค์ผู้ทรงเสริมกำลังของเรา
· ฮัดสัน เทเลอร์ ได้เดินทางไปเป็นมิชชั่นนารีที่ประเทศจีน และเป็นผู้รับใช้ที่ยิ่งใหญ่ที่นำจิตวิญญาณคนจำนวนมากได้รอด ได้กล่าวไว้ว่า เวลาที่เขาได้เข้าใกล้พระเจ้ามากที่สุด คือ เวลาที่เขาอยู่ในประเทศจีน ไม่ใช่เวลาที่เขากลับมาอยู่สุขสบายในบ้านเกิด
2.3 การทำสิ่งที่ดี
· สำแดงชีวิตของตนอย่างเหมาะสม
· ชีวิตไม่ได้จำกัดอยู่ที่หน้าที่ หรือ ตำแหน่ง หรือ บทบาทของเราเพียงอย่างเดียวเท่านั้น
· หากแต่ดำเนินชีวิตเหมือนดังว่า เมื่อเจอกับสิ่งต่างๆในชีวิต เราควรตอบสนองอย่างไรจึงเหมาะสมที่สุด
· หากไม่ได้ดำเนินชีวิตอย่างถูกต้องก็เท่ากับเราพลาด เราไม่ได้ยืนหยัดในสิ่งที่ถูกที่ควร พระคัมภีร์กล่าวว่ามันคือบาปชนิดหนึ่งนั่นเอง
ยากอบ 4:17 เหตุฉะนั้น..ผู้ใดรู้ว่าอะไรเป็นความดี และไม่ได้กระทำคนนั้นจึงมีบาป..
· ในกิจกรรมต่างๆของการฟื้นฟู จึงต้องมีคนอย่าง มารีย์ และ มารธา ทำหน้าที่ในบทบาทของตนเอง เพื่อทุกคนจะพบพระเจ้าในแต่ละบทบาทของตน
· นอกจากนี้ ทั้งมารีย์ และมารธา ต้องตอบสนองต่อกิจกรรมต่างๆอย่างสมควรด้วยเช่นกัน
· มิเช่นนั้นจะเป็นสิ่งบาปที่ถ่วงจิตวิญญาณมิให้เติบโต และ ไม่สามารถฟื้นพูอย่างแท้จริง
3. สิ่งที่ต่อสู้กับการฟื้นฟูฝ่ายวิญญาณ
· คริสเตียนต้องเป็นนักสู้เสมอ
· ไม่มีคริสเตียนคนใดที่เชื่อพระเจ้าแล้วไม่ต้องต่อสู้กับสิ่งใดๆ ไม่มีคริสเตียนคนใดที่ไม่ต้องเผชิญปัญหา ไม่ต้องเผชิญการตัดสินใจที่ท้าทายใดๆเลย
· หากคิดเช่นนั้นคงเป็นความเข้าใจผิดอย่างมาก
· คริสเตียนต้องต่อสู้กับ เนื้อหนังของตัวเอง ต่อสู้กับธรรมชาติของโลก ต่อสู้กับมาร และต่อสู้กับบาป
· หากคริสเตียนคนใดหลีกหนีได้ตลอดเวลา แสดงว่าราไม่ได้เป็นคริสเตียนที่แท้จริง
· หากเราเป็นคริสเตียนแท้ เราจะเผชิญแรงกดดันจากสิ่งต่างๆอย่างแน่นอน แต่เรามีพระเจ้าอยู่ฝ่ายเราที่จะให้เรามีชัยชนะได้เสมอ
· อีกทั้งยังเป็นตัวพิสูจน์ชีวิตแท้ดังพระคัมภีร์บอกว่าคนชอบธรรมที่ล้มลงจะลุกได้เสมอ
สุภาษิต24:16 เพราะคนชอบธรรมล้มลงเจ็ดครั้งแล้วก็ลุกขึ้นอีก
3.1 ต่อสู้กับเนื้อหนัง
· สะดวกสบาย เอาตัวเองรอด ไม่ทุบตีเนื้อหนัง ไม่มีทางมีชีวิตฝ่ายวิญญาณได้
· ต้องต่อสู้กับเนื้อหนังของตัวเอง
กท5:17 เพราะว่าความต้องการของเนื้อหนังต่อสู้พระวิญญาณ และพระวิญญาณก็ต่อสู้เนื้อหนัง เพราะทั้งสองฝ่ายเป็นศัตรูกัน ดังนั้นสิ่งที่ท่านทั้งหลายปรารถนาทำจึงกระทำไม่ได้
3.2 ต่อสู้กับวิถีของโลก
· วิถีของโลกเป็นวิถีที่ลวงตา เสื่อมสลาย และไม่จีรัง เป็นวิถีแห่ง เกียรติยศ เงินทอง ชื่อเสียง เนื้อหนัง ตัณหาต่างๆ
· คนที่รักพระเจ้า ก็เป็นศัตรูกับวิถีของโลกนี้ โลกจึงเกลียดชังท่าน
· เป็นคริสเตียนจึงต้องต่อสู้กับโลกและวิถีของโลก มิเช่นนั้นก็ไม่ใช่คริสเตียนจริง
ยน15:19 ถ้าท่านทั้งหลายเป็นของโลก โลกก็จะรักท่านซึ่งเป็นของโลก แต่เพราะท่านไม่ใช่ของโลก แต่เราได้เลือกท่านออกจากโลก เหตุฉะนั้นโลกจึงเกลียดชังท่าน
1ยน2:16 เพราะว่าสารพัดซึ่งมีอยู่ในโลก คือตัณหาของเนื้อหนัง และตัณหาของตา และความเย่อหยิ่งในชีวิตไม่ได้เกิดจากพระบิดา แต่เกิดจากโลก
3.3 ต่อสู้กับมาร
· คอยหาช่อง ล่อลวง ลัก ฆ่าและทำลาย
· มารคอยหาโอกาสทำลายจิตวิญญาณของเราไม่ให้เข้าใกล้พระเจ้า โดยทุกวิถีทาง
· เราจึงต้องต่อสู้กับมาร เพื่อมิให้มันฉวยโอกาส และพาเราออกนอกทางพระเจ้า
ยก 4:7 จงน้อมใจลงยอมฟังพระเจ้า จงต่อสู้กับมาร แล้วมันจะหนีไป
3.4 ต่อสู้กับบาป
โรม 4:23 เพราะว่าทุกคนทำบาป และเสื่อมจากพระสิริของพระเจ้า
· ทุกคนเป็นคนบาป จึงไม่สมบูรณ์ ไม่เข้าใจครบถ้วน แต่ยังต้องเดินกับพระเจ้าอย่างเต็มที่เต็มกำลัง
· ในความไม่ครบถ้วน ทำให้ผิดพลาด ทั้งจากตัวเรา และ จากคนอื่นๆ
· หลายๆคนล้มเหลว พลาดพลั้ง ผิดพลาด เสียท่า และล้มลง
· แต่เราไม่สามารถให้ความไม่สมบูรณ์มาล้มชีวิตในพระเจ้าของเราลง
· เรายังต้องต่อสู้กับความเสื่อมทั้งหลายอย่างมุ่งมั่น ไปต่อไป
· เรายังไม่ถึงกับตาย วันสุดท้ายยังมาไม่ถึง
ฮบ12:4 ในการต่อสู้กับบาปนั้น ท่านทั้งหลายยังไม่ได้สู้จนถึงกับต้องเสียโลหิตเลย
· ผู้ใดที่มีชีวิตสะดวกสบายได้ตลอด ต้องสำรวจตัวเองว่าเดินกับพระเจ้าจริงหรือไม่
4. หากไม่ฟื้นฟูต้องมีสาเหตุ
4.1 กำจัดจุดอ่อน..............เราโทษคนอื่นอยู่หรือเปล่า
· หลายครั้งเรามักโทษเหตุการณ์ สถานการณ์ คนที่เกี่ยวข้อง ว่าเป็นเหตุที่ทำให้เราไม่ได้ฟื้นฟู
· จึงมีคำถาม จริงไหม
· ถ้าคนใดคนหนึ่งเป็นเหตุให้เราฟื้นฟู แสดงว่าเราเรื่องความสัมพันธ์ของเรากับพระเจ้าไปฝากไว้กับเขา
· หากเราคิดเช่นนี้ คงคิดผิด เพราะความสัมพันธ์ของเรากับพระเจ้าไม่สามารถขึ้นอยู่กับใครคนใดคนหนึ่งได้ หากแต่ขึ้นอยู่กับชีวิตของเราเอง
o การโทษสิ่งต่างๆ จะทำให้เรามองข้ามส่วนที่ผิดพลาดของเราไป
o การโทษสิ่งต่างๆ จะทำให้เราไม่สามารถค้นพบส่วนที่ผิดพลาดที่แท้จริงของเรา
o การโทษสิ่งต่างๆ จะทำให้เราไม่สามารถแก้ไขข้อบกพร่องฝ่ายวิญญาณของเราได้
o ต้องเลิกโทษคนอื่นๆก่อน แล้วจะเห็นตัวเองชัดขึ้น
4.2 ขอพระเจ้าช่วย
· ขอพระเจ้าทรงสำรวจใจของเราว่า อะไรเป็นเหตุที่ทำให้เราไม่ฟื้นฟู
· หากเราไม่อยากเข้าหาพระเจ้า ยิ่งแสดงว่า ต้องมีบางอย่างที่ซ่อนอยู่ในชีวิตของเราที่เป็นอุปสรรคต่อความสัมพันธ์ของเรากับพระองค์
· ยิ่งต้องขอพระเจ้าช่วยให้เราหลุดจากพันธนาการอันนี้
· บางทีอาจเป็นเรื่อง ความสัมพันธ์หนุ่มสาว บางทีอาจเป็นเรื่องเงิน ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องทางโลก ตัณหาของเนื้อหนัง เกียรติ์ ลาภยศ ที่หลบซ่อนอยู่ และเป็นอุปสรรคในการแสวงหาพระเจ้าอย่างแท้จริง
· หลังการเฉลิมฉลอง จึงเป็นตัวตรวจสอบชีวิตฝ่ายวิญญาณอีกครั้งหนึ่ง ว่ามีอะไรเป็นอุปสรรคที่ซ่อนอยู่ในชีวิตของเรา จึงต้องทำการตรวจสอบเดี๋ยวนี้ อย่าละเลยปล่อยผ่านไป จะทำร้ายและทำลายชีวิตฝ่ายวิญญาณของเราให้แย่ลงเรื่อยๆ
4.3 ใคร่ครวญว่าพระเจ้าสอนอะไรเรา
· การเฉลิมฉลองในแต่ละปี ต้องโตขึ้นเรื่อยๆ
· ต้องสำรวจว่าปีนี้พระเจ้าบอกอะไรกับเราบ้าง
· เราเรียนรู้อะไรจากพระเจ้ามากขึ้นบ้าง
· ลองย้อนระลึกกลับไปดูวันเก่าๆ จะเห็นพระพรมากมาย
· หมั่นเก็บพระพรที่พระเจ้าให้แก่เราในแต่ละปี
· เรียบเรียงไว้ให้ชัดเจนในความคิด ในสมอง ในสมุดจด ในหนังสือ
· พระพรเหล่านี้จะช่วยชีวิตของเรา และ คนอื่นๆมากมายที่ได้ฟังคำพยานที่พระเจ้าทรงกระทำผ่านชีวิตของเราครับ
วินัยของน้องหมา (ข้างถนน)
-
วันที่ 18/8/2011
เช้านี้ขณะที่รถติดไฟแดงอยู่บริเวณสี่แยกสามย่าน
ซึ่งเบื้องหน้าเป็นจามจุรีสแควร์นั้น
พลันก็เหลือบเห็นน้องหมาตัวหนึ่งเดินข้ามทางม้าลายด้วยอ...
13 ปีที่ผ่านมา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น