เรื่องราวเกี่ยวกับแผ่นดินสวรรค์ ในมัทธิว จะมีทั้งหมด 12 เรื่องด้วยกัน วันนี้จะมาทบทวนร่วมกัน เพื่อจะเข้าใจภาพของแผ่นดินสวรรค์ได้ชัดเจน
เรื่องเกี่ยวกับผู้หว่านพืช (มัทธิว 13:1-8) มีเมล็ดพืชอยู่ 4 กลุ่ม แต่มีเพียงเมล็ดพืชที่ตกในดินดีเท่านั้นที่จะได้เข้าในแผ่นดินสวรรค์ และการเกิดผลในการหว่านพืชจะมีได้มีหลายระดับ ได้แก่ 30, 60 และ 100 เท่า ผู้ที่จะเข้าในแผ่นดินสวรรค์ได้นั้น จะต้องเป็นดินที่ดี และเมื่อพระวจนะได้รับการหว่านลงในดินนี้ ก็จะเกิดผล เพราะถ้าไม่เกิดผลจะไม่นับว่าเป็นดินดี ไม่สามารถเข้าในแผ่นดินสวรรค์ได้
ข้าวละมาน (มัทธิว 13:24-30) มีศัตรูแอบหว่านข้าวละมานในข้าวดีและเติบโตขึ้นมา ในที่สุดเมื่อเจ้าของทราบเรื่อง เจ้าของก็ให้ปล่อยเอาไว้ ให้ทั้งข้าวดีและข้าวละมานเติบโตด้วยกัน แล้วค่อยเก็บเกี่ยวทีเดียว คำอุปมาตอนนี้ เป็นเรื่องราวของแผ่นดินสวรรค์เช่นกัน เป็นแผ่นดินสวรรค์ในโลกนี้ ซึ่งยังเจือปนด้วยคนของมารร้ายซึ่ง ยังไม่ได้ถูกคัดสรร เราจำต้องอยู่ในโลกนี้จนถึงวันที่พระองค์จะทรงเสด็จกลับมาคัดสรร
เมล็ดพืช (มัทธิว 13:31-32) เมล็ดพืชเพียงเม็ดเล็ก ๆ เมื่อตกลงในดิน จะงอกขึ้นไป จนเป็นต้นไม้ใหญ่ จนนกมาพักพิงทำรังอาศัยอยู่ได้ เป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจมาก เพราะเป็นภาพให้เห็นว่าคนที่เป็นของแผ่นดินของพระเจ้า จะต้องเป็นเช่นนี้ สามารถมีประสิทธิภาพอย่างมาก สามารถเกิดผลได้อย่างมาก
เชื้อขนม (มัทธิว 13:33) เชื้อขนมเพียงเล็กน้อย เมื่อนำมาเจือในแป้งฟู 3 ถัง ก็สามารถทำให้แป้งทั้งหมดฟูขึ้นได้ มีความหมายเช่นเดียวกับเรื่องของเมล็ดพืช คือ คนของแผ่นดินสวรรค์ จะเกิดผลได้อย่างมาก
ขุมทรัพย์ (มัทธิว 13:44) เป็นเรื่องราวของผู้ที่พบขุมทรัพย์ซ่อนอยู่ในทุ่งนา เมื่อพบขุมทรัพย์แล้ว เขาก็ขายทรัพย์สมบัติทั้งหมดที่เขามี เพื่อมาซื้อที่ดินที่ขุมทรัพย์นั้นซ่อนไว้ แผ่นดินสวรรค์ จำเป็นต้องแลกด้วยสิ่งที่มีทั้งหมด จะต้องทุ่มเทเพื่อจะได้แผ่นดินสวรรค์ และถ้ามีท่าทีเช่นนี้ แสดงว่าเราเห็นถึงคุณค่าของแผ่นดินสวรรค์
ไข่มุก (มัทธิว 13:45-46) พ่อค้าผู้หนึ่ง เมื่อเจอไข่มุกที่มีค่าอย่างมาก เขาก็ขายสมบัติของตนเองเพื่อจะได้ครอบครองไข่มุกนั้น เป็นภาพของคนที่เห็นคุณค่าของแผ่นดินสวรรค์ เขาเห็นว่าแผ่นดินสวรรค์มีค่ามากกว่าทุกสิ่งที่เขามีเสียอีก เขายอมที่จะสละทุกสิ่ง เพราะต้องการที่จะครอบครองแผ่นดินสวรรค์นั้น
อวน (มัทธิว 13:47) เมื่อมีการจับปลาด้วยอวนในทะเล ทั้งปลาที่ดีและไม่ดีจะถูกลากติดอวนมาทั้งหมด แต่จะมีเฉพาะปลาที่ดีเท่านั้นที่จะถูกคัดเลือกไว้ในตะกร้า การคัดสรรเช่นนี้จะต้องเกิดขึ้น และจะเกิดขึ้นในวันพิพากษา (เช่นเดียวกับข้าวละมาน)
การคิดบัญชีกับทาสที่ไม่ให้อภัย (มัทธิว 18:23-35) เจ้าองค์หนึ่งได้ยกหนี้ให้กับทาสที่ติดหนี้อยู่หนึ่งหมื่นตะลันต์ แต่ทาสนี้กลับไม่ยอมยกหนี้ให้แก่ลูกหนี้ของเขา ซึ่งติดเขาเพียงเล็กน้อย คือเพียงหนึ่งร้อยเดนาริอัน ซึ่งน้อยมากเมื่อเทียบกับที่เจ้าองค์นั้นได้ยกให้แก่เขา เช่นเดียวกัน พระเจ้าทรงยกโทษให้แก่เราแล้ว เราจึงต้องยกโทษให้แก่ผู้อื่นด้วยเช่นกัน
เจ้าของสวน (มัทธิว 20:1-16) เป็นเรื่องราวที่มีคนมาทำงานตั้งแต่เช้า ตอนเที่ยง และตอนเย็น ทุกคนได้ค่าแรงเท่ากัน คำอุปมานี้ สอนให้เราเข้าใจว่าเจ้าของสวนมีสิทธิอำนาจ เช่นเดียวกัน เราต้องยอมรับว่าพระเจ้าทรงมีสิทธิอำนาจในการที่จะกำหนดเงื่อนไขต่าง ๆ พระองค์ทรงพอพระทัยผู้ใดและทรงไม่พอพระทัยผู้ใด ก็จะเป็นไปตามนั้น จะไม่มีผู้ใดที่จะสามารถแย้งได้เลย
กษัตริย์จัดเลี้ยงสมรส (มัทธิว 22:1-14) กษัตริย์ได้จัดงานสมรสใหญ่ขึ้นมา แต่ไม่มีผู้ที่มาร่วมงาน ท่านจึงได้เกณฑ์คนทั้งหลายให้มาร่วมงานงาน ปรากฎว่ามีผู้ที่ไม่ได้แต่งตัวสำหรับงานแต่งงานมา จึงถูกจับโยนทิ้งไป คนที่เหมาะกับแผ่นดินสวรรค์ จะต้องรู้คุณค่า ต้องให้เกียรติ และสวมใส่เสื้อให้ถูกต้อง
หญิงพรหมจารีย์ (มัทธิว 25:1-13) หญิง 10 คน รอคอยที่จะร่วมงานสมรส มี 5 คนที่มีน้ำมันเพียงพอ แต่อีก 5 คนมีน้ำมันไม่พอ ขณะที่ผู้ที่มีน้ำมันไม่พอไปซื้อน้ำมันอยู่เจ้าบ่าวก็เดินทางมาถึง หญิงที่มีน้ำมันไม่พอจึงไม่สามารถที่จะเข้าร่วมงานได้ การเข้าแผ่นดินสวรรค์ได้นั้น เราจำเป็นต้องพร้อมจนถึงวินาทีสุดท้าย
เงินตะลันต์ (มัทธิว 25:14-49) มีชายผู้หนึ่งซึ่งกำลังออกเดินทาง จึงได้มอบเงินตะลันต์ให้กับทาส 3 คน เป็นเงิน 5 ตะลันต์, 2 ตะลันต์ และ 1 ตะลันต์ ทาสที่ได้ 5 และ 2 ตะลันต์ก็ได้ใช้เงินนั้นและได้เงินเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว แต่คนที่ได้ 1 ตะลันต์กลับเอาไปฝังดิน เมื่อนายกลับมา ก็ชื่นชมคนที่ได้ 5 และ 2 ตะลันต์นั้น ว่าเป็นทาสผู้สัตย์ซื่อ จึงได้ดูแลทรัพย์สินของนาย แต่ส่วนคนที่ได้ 1 ตะลันต์ต้องถูกจับออกไปทิ้งในที่มืด ที่ที่มีการร้องไห้ขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน สิ่งที่สอนเราคือ อย่าเกียจคร้านในการที่เราจะใช้สิ่งที่พระเจ้าให้แก่เรา ทำงานเพื่อพระองค์ ให้เราทำกำไรตามตะลันต์ที่มีให้เกิดผล
สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่พระเจ้าสำแดงเกี่ยวกับธรรมิกชนของพระเจ้า ผู้ที่ติดตามพระองค์ เชื่อในนามของพระองค์ แสดงว่า ผู้ที่บอกว่าเชื่อพระองค์ ไม่ใช่จะสามารถเข้าแผ่นดินสวรรค์ได้ทุกคน ดังเช่น หญิงพรหมจารีย์ 10 คนนั้น ทั้งหมดได้รับการคัดเลือก เขาบริสุทธิ์ มีชีวิตที่ดี (เพราะเป็นสาวพรหมจารย์ หมายถึงบริสุทธิ์) ซึ่งถ้าเป็นคริสเตียนก็หมายถึงคริสเตียนที่ปฏิบัติตัวได้ดีแล้ว เป็นคริสเตียนที่ต่อสู้กับบาป จึงมีสิทธิที่จะครอบครอบแผ่นดินของพระเจ้าได้ แต่จะเห็นได้ว่ามีถึง 5 คนที่ไม่ได้เข้าในงานสมรสนั้น ดังนั้น เราจะต้องใส่ใจว่าพระเจ้าต้องการเห็นคนที่จะเข้าในแผ่นดินของพระองค์เป็นอย่างไรบ้าง
อ.ประดิษฐ์ พรกีรติกุล
คำแบ่งปันกลุ่มเซลล์เพื่อคุณ คริสตจักรสะพานเหลือง
เมื่อวันที่ 22/05/2009
เรื่อง ศึกษาพระกิตติคุณมัทธิว
วินัยของน้องหมา (ข้างถนน)
-
วันที่ 18/8/2011
เช้านี้ขณะที่รถติดไฟแดงอยู่บริเวณสี่แยกสามย่าน
ซึ่งเบื้องหน้าเป็นจามจุรีสแควร์นั้น
พลันก็เหลือบเห็นน้องหมาตัวหนึ่งเดินข้ามทางม้าลายด้วยอ...
13 ปีที่ผ่านมา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น