Custom Search By Google

Custom Search

วันพุธที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2553

พระเจ้าทรงกอบกู้กิจการของพระองค์...

From: Chairat Jitkaew [mailto:chairat@millealife.co.th]
Sent: Tuesday, December 19, 2006 9:58 AM
To: Undisclosed-Recipient:;
Subject: พระเจ้าทรงกอบกู้กิจการของพระองค์...



พระธรรมยอห์น

10 : 10 ขโมยนั้นย่อมมาเพื่อจะลักและฆ่าและทำลายเสียเราได้มาเพื่อเขาทั้งหลายจะได้ชีวิตและจะได้อย่างครบบริบูรณ์

10 : 11 เราเป็นผู้เลี้ยงที่ดีผู้เลี้ยงที่ดีนั้นย่อมสละชีวิตของตนเพื่อฝูงแกะ

10 : 12 ผู้ที่รับจ้างมิได้เป็นผู้เลี้ยงแกะและฝูงแกะไม่เป็นของเขาเมื่อเห็นสุนัขป่ามาเขาจึงละทิ้งฝูงแกะหนีไปสุนัขป่าก็ชิงเอาแกะไปเสียและทำให้ฝูงแกะกระจัดกระจายไป

10 : 13 เขาหนีเพราะเขาเป็นลูกจ้างและไม่เป็นห่วงแกะเลย

10 : 14 เราเป็นผู้เลี้ยงที่ดีเรารู้จักแกะของเราและแกะของเราก็รู้จักเรา

10 : 15 ดังที่พระบิดาทรงรู้จักเราและเรารู้จักพระบิดาและชีวิตของเราเราสละเพื่อแกะ




14 : 8 ฟีลิปทูลพระองค์ว่า"พระองค์เจ้าข้าขอสำแดงพระบิดาให้ข้าพระองค์ทั้งหลายได้เห็นก็พอใจข้าพระองค์แล้ว"

14 : 9 พระเยซูตรัสกับเขาว่า"ฟีลิปเอ๋ยเราได้อยู่กับท่านนานถึงเพียงนี้และท่านยังไม่รู้จักเราอีกหรือผู้ที่ได้เห็นเราก็ได้เห็นพระบิดาท่านจะพูดได้อย่างไรอีกว่าขอสำแดงพระบิดาให้ข้าพระองค์ทั้งหลายเห็น

14 : 10 ท่านไม่เชื่อหรือว่าเราอยู่ในพระบิดาและพระบิดาทรงอยู่ในเราคำซึ่งเรากล่าวแก่ท่านทั้งหลายนั้นเรามิได้กล่าวตามใจชอบแต่พระบิดาผู้ทรงสถิตอยู่ในเราได้ทรงกระทำพระราชกิจของพระองค์

14 : 11 จงเชื่อเราเถิดว่าเราอยู่ในพระบิดาและพระบิดาทรงอยู่ในเราหรือมิฉะนั้นก็จงเชื่อเพราะกิจการเหล่านั้นเถิด




ใกล้สิ้นปีแล้ว หลายๆคนกำลังเตรียมตัวปิดบัญชีประจำปีเพื่อสรุปผลประกอบการธุรกิจของปีที่กำลังจะผ่านไป ทำให้นึกถึงเรื่องของคนสองกลุ่มที่เกี่ยวพันอยู่กับกิจการธุรกิจ... เจ้าของกิจการ กับลูกจ้างของกิจการ...



คนที่เป็นเจ้าของกิจการกับคนที่ทำงานเป็นลูกจ้างของกิจการนั้นมีโลกทัศน์ที่แตกต่างกันอย่างสำคัญเรื่องหนึ่ง นั่นคือเรื่อง "สำนึกแห่งความเป็นเจ้าของ" หรือที่ภาษาอังกฤษใช้คำว่า "The Sense of Ownership"...



สำนึกแห่งความเป็นเจ้าของกิจการ ทำให้เจ้าของบริษัทหรือเจ้าของกิจการพยายามทำทุกอย่างเพื่อผดุงกิจการที่ตนเองก่อตั้งมากับมือให้อยู่รอดต่อไป ในเวลาที่กิจการตกต่ำเขาถึงขนาดยอมนำทรัพย์สินที่มีอยู่ทั้งหมดรวมกระทั่งบ้านที่อยู่อาศัยไปขายหรือจำนองกับธนาคารเพื่อนำเงินมากอบกู้กิจการ... บางกรณีก็ประสบความสำเร็จ แต่หลายๆกรณีก็ล้มเหลวจนกระทั่งหมดเนื้อหมดตัวย่อยยับตามกิจการของตนเองไป... ความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าของกิจการกับกิจการของเขานั้นผูกพันจริงจังขนาดยอมเอาชีวิตและอนาคตเข้าเสี่ยงหรือเข้าแลกเลยทีเดียว...



ลูกจ้างบริษัทหรือลูกจ้างของกิจการมองโลกไปอีกแบบหนึ่ง... ลูกจ้างมองแต่เพียงว่ากำลัง แรงงาน และเวลาที่เขาได้กระทำให้แก่กิจการจะต้องได้ผลตอบแทนที่คุ้มค่า... เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะยอมเอาชีวิตหรืออนาคตส่วนตัวเข้าช่วยค้ำจุนกิจการที่กำลังซวนเซให้กลับฟื้นขึ้นมา ทั้งนี้เพราะเขาไม่ได้มีสำนึกของความเป็นเจ้าของนั่นเอง ซึ่งนี่ไม่ใช่สิ่งที่จะตำหนิกันเพราะความจริงมันก็เป็นเช่นนั้นจริงคือเขาเป็นเพียงลูกจ้าง เขาหาได้เป็นเจ้าของกิจการไม่...



ดังนั้นมีแต่เจ้าของกิจการเท่านั้นที่จะรักและใส่ใจเป็นห่วงในกิจการของเขาขนาดยอมเอาชีวิตและอนาคตทั้งหมดของตนเข้าแลกเพื่อให้กิจการที่เขาก่อตั้งขึ้นได้คงอยู่และเติบโตต่อไปตามเจตนารมณ์ดั้งเดิมที่ตั้งไว้... การแสดงออกของคนผู้หนึ่งกับภาระกิจในความรับผิดชอบของเขาสามารถทำให้เราบอกได้ว่าใครเป็นเจ้าของกิจการ และใครเป็นเพียงลูกจ้าง...



มนุษย์แต่ละคนเป็นผลงานแห่งกิจการสร้างของพระเจ้า พระเจ้าทรงกำหนดแผนการณ์สำหรับมนุษย์ให้เป็นผู้ครอบครองโลกและสรรพสิ่งในโลกและดำรงชีวิตที่ครบถ้วนบริบูรณ์สุขสบาย โดยทรงปรารถนาว่ามนุษย์ที่มีชีวิตสุขสบายนั้นจะมีสามัคคีธรรมกับพระองค์อย่างใกล้ชิด ซึ่งนั่นก็คือสิ่งที่ชี้วัดถึงความรุ่งเรื่องไพบูลย์แห่งกิจการของพระเจ้านั่นเอง...



แต่เป็นที่น่าเสียใจว่ากิจการของพระเจ้าคือมนุษย์แต่ละคนนี้ได้ตกต่ำลงและโน้มไปสู่สภาพล้มละลายหายนะกันทั้งหมดไม่มีเว้น เนื่องจากบาปอันเล็ดลอดเข้ามาทำลายรากฐานของชีวิตที่ครบบริบูรณ์ของมนุษย์ตั้งแต่ครั้งพระเจ้าได้ทรงตั้งกิจการคือมนุษย์ขึ้นได้ไม่นานนัก...



ด้วยสำนึกแห่งความเป็นเจ้าของ...พระเจ้าผู้ทรงสร้างเราแต่ละคนขึ้นมา ทรงบำรุงเลี้ยงเรา และทรงรู้จักเราด้วยชื่อเป็นรายบุคคล พระองค์มิได้ทรงเพิกเฉยที่จะรอดูการล้มเหลวหายนะของกิจการของพระองค์ ตรงกันข้าม พระเจ้าได้ทรงกระทำทุกวิถีทางในการกอบกู้กิจการของพระองค์ขึ้นมาใหม่ ทั้งนี้เพราะเห็นแก่พระนามของพระองค์เอง... เดิมพันก้อนโตที่สุดที่พระเจ้าได้ทรงกระทำคือการแลกด้วย "ชีวิต" ของพระองค์... พระเจ้าได้เสด็จเข้ามาในโลกในรูปกายมนุษย์ทรงพระนามว่าเยซู เพื่อนำการไถ่กู้มนุษย์ให้พ้นจากฤทธิ์ของบาปด้วยการสละชีวิตของพระองค์เองบนไม้กางเขน...



พระเยซูคริสต์คือพระเจ้าผู้ทรงเข้ามาในโลกและกอบกู้กิจการของพระองค์คือวิญญาณจิตแห่งมนุษย์ทั้งหลายด้วยเลือดเนื้อและชีวิตของพระองค์เอง ... สิ่งที่พระองค์ได้กระทำคือการยอมตายแทนมนุษย์เพื่อช่วยไถ่มนุษย์ให้พ้นจากบาปนั้น มีแต่ผู้ที่เป็นเจ้าของกิจการจะกระทำได้ด้วยสำนึกแห่งเจ้าของกิจการเท่านั้น...



พระเจ้าทรงมีสำนึกตลอดเวลาว่าเราแต่ละคนเป็นกิจการของพระองค์ที่พระองค์ทรงสร้างและทรงรัก... เราแต่ละคนเป็นฝีพระหัตถ์ของพระเจ้า เราแต่ละคนต้องเป็นกิจการที่รุ่งเรืองของพระองค์ และพระองค์จะไม่ยอมให้กิจการของพระองค์ล้มเหลวหรือหายนะ... พระองค์ทรงกอบกู้เราด้วยชีวิตของพระองค์เองเมื่อพระองค์เห็นว่าเราตกต่ำลงในบาปและจะเอาตัวไม่รอดในที่สุด... ขอให้เราตราความจริงนี้ไว้ในใจและขอให้เราได้ตอบสนองการช่วยกู้ของพระองค์ให้ทันเวลาในชีวิตของแต่ละคน...



อันตรายอันน่ากลัวและสยดสยองในชีวิตมนุษย์มีเพียงอย่างเดียว คือเมื่อมนุษย์เต็มไปด้วยสำนึกแห่งความเป็นเจ้าของในตนเอง ! นั่นคือเมื่อมนุษย์ไม่สามารถเชื่อว่าแท้จริงพระเจ้าทรงเป็นเจ้าของและตัวเราเป็นกิจการของพระเจ้า... สำนึกแห่งความเป็นเจ้าของในตนเองโดยไม่รับรู้พระเจ้าเป็นสำนึกของลัทธิมนุษยนิยม (Humanism) ซึ่งได้แพร่หลายกันอยู่ในปัจจุบัน...



วันคริสต์มาสของทุกปีได้เตือนเราว่าพระเจ้าได้เข้ามาในโลกในพระนามของพระเยซูคริสต์เพื่อกอบกู้กิจการของพระองค์ขึ้นมาใหม่... ผู้ที่ยอมรับการกอบกู้จากพระเจ้าล้วนแต่กลับสภาพจากสภาวะเตรียมล้มละลายหายนะมาเป็นกิจการที่รุ่งเรื่องอีกครั้งของพระเจ้ากันทั้งนั้น... ท่านผู้อ่านล่ะ...?

วันพุธที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2553

พระองค์ทรงสมควร

วันเวลาที่เปลี่ยนไป พระองค์ไม่เปลี่ยนแปลง มีความรักและเมตตาอยู่เสมอ

ตัวเราอาจจะหวั่นไหว พระองค์ยังเหมือนเดิม เป็นพระเจ้าของเราอยู่เรื่อยไป

พระองค์ทรงสมควรที่จะรับการสรรเสริญ พระองค์ทรงสมควรที่จะรับการโมทนา

เพราะพระองค์แสนดี และไม่มีใครจะเหมือน พระองค์ทรงสมควรที่จะรับการสรรเสริญ

วันที่แดดจะแผดเผาทรงเป็นเงาร่มเย็น เป็นความหวังเป็นทางรอดอยู่เสมอ

คืนและวันที่เหน็บหนาวพระองค์อยู่ข้างเรา เป็นพระเจ้าของเราอยู่เรื่อยไป

พระองค์ทรงสมควรที่จะรับการสรรเสริญ พระองค์ทรงสมควรที่จะรับการโมทนา

เพราะพระองค์แสนดี และไม่มีใครจะเหมือน พระองค์ทรงสมควรที่จะรับการสรรเสริญ



สวัสดีค่ะพี่น้องที่รักในองค์พระเยซูคริสต์เจ้าทุกๆท่าน

ขอบพระคุณพระเจ้าสำหรับบทเพลงข้างบน ชื่อเพลงว่า "พระองค์ทรงสมควร" ไม่ทราบเหมือนกันค่ะว่าใครเป็นผู้แต่งและไม่ทราบที่มาที่ไป แต่ทราบแค่เพียงว่าเพลงนี้แตะต้องและสัมผัสจิตใจโอปอเป็นอย่างมาก และก็เชื่อว่าจะสัมผัสแตะต้องจิตใจพี่น้องแต่ละท่านด้วยเช่นเดียวกัน ช่างเป็นบทเพลงที่ไพเราะเหลือเกินค่ะ ถ้าพี่น้องท่านใดไม่รู้จักเพลงนี้ว่าร้องอย่างไร โอปอยินดีร้องให้ฟัง (แต่ไม่ทราบว่าจะไพเราะหรือเปล่านะคะ ต้องลองฟังดู) พระเจ้าทรงเป็นผู้ที่สมควรอย่างยิ่งที่เราจะต้องสรรเสริญ ความรักของพระองค์นั้นไม่สามารถวัดได้ว่าแค่ไหน แต่ที่แน่ก็คือความรักของพระองค์ยิ่งใหญ่ถึงขนาดว่าไม่มีสิ่งใดที่เปรียบเทียบได้ ไม่มีแน่นอน ขอพระเกียรติทั้งสิ้นเป็นของพระองค์แต่เพียงผู้เดียวสืบไปเป็นนิตย์ค่ะ



ในพระธรรมยอห์น 3:16 (คริสเตียนส่วนใหญ่ท่องได้) บอกไว้ว่า "เพราะว่าพระเจ้าทรงรักโลก จนได้ทรงประทานพระบุตรองค์เดียวของพระองค์ เพื่อทุกคนที่วางใจในพระบุตรนั้นจะไม่พินาศ แต่มีชีวิตนิรันดร์" อาจจะรู้สึกว่าเราท่องข้อพระคัมภีร์นี้ได้แล้ว แต่เมื่อได้ใคร่ครวญให้ดี จะเห็นได้ถึงความพิเศษของข้อพระคัมภีร์ข้อนี้ หากไม่ใช่เพราะว่าความรักของพระเจ้าที่มีต่อเรา ไม่ใช่เพราะการทรงยอมเสียสละของพระเยซู ชีวิตของเราก็จะไม่ได้รับความรอด เราเองก็ต้องได้รับผลจากการกระทำของเราเองเมื่อจากโลกนี้ไป ต้องยอมรับชะตากรรมอย่างที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ แต่โดยความรัก โดยพระโลหิตขององค์พระเยซู เราผู้ที่เชื่อในพระองค์จึงได้รับชีวิตใหม่



"เพราะว่าพระเจ้าทรงให้พระบุตรเข้ามาในโลก มิใช่เพื่อพิพากษาลงโทษโลก แต่เพื่อช่วยกู้โลกให้รอดโดยพระบุตรนั้น" ยอห์น 3:17 พระองค์ทรงรักเรามากมายขนาดนี้ ใครที่คิดที่จะหันหลังกลับไปจากพระองค์ ขอให้ดูให้ดีๆเลยนะคะ แต่ถ้าหากว่าพระเจ้าทรงโปรด ขอให้พี่น้องทุกๆท่านจะได้สัมผัสถึงความรักที่แสนยิ่งใหญ่ของพระองค์และติดตามพระองค์ไปตลอดจนชั่วชีวิต โอปอก็เช่นกัน ถ้าหากว่าพระเจ้าทรงโปรด ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม ขอติดตามพระองค์ แม้ว่าหนทางเดินกับพระเจ้านั้นจะไม่ได้ราบเรียบเหมือนพรมแดงที่เต็มไปด้วยกลีบกุหลาบ และถึงแม้ว่าจะมีอุปสรรค ต้องพบเจอกับการทดสอบหรือว่าการทดลอง แต่ขอพระเจ้าทรงโปรดเมตตาช่วยให้ก้าวเดินไปกับพระองค์ได้วันต่อวันอย่างมั่นคงให้สมความรักที่พระองค์ทรงมี และทรงประทานให้อย่างล้นเหลือโดยที่ไม่เคยมีเงื่อนไขค่ะ



พี่น้องที่รักทุกท่านคะ ได้โปรดเถอะค่ะ ขอให้ทุกท่านรักองค์พระผู้เป็นเจ้าของเราให้มากๆนะคะ อย่าหันหลังกลับจากพระองค์เลย ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม ความรักของพระองค์นั้นไม่เคยเปลี่ยนแปลง พระองค์ทรงพระเมตตาต่อเราทุกคนอยู่เสมอ แม้ว่าเราทุกคนจะมีข้อผิดพลาดแต่ก็ไม่ใช่อุปสรรคที่จะกลับมาหาพระองค์นี่คะ กลับมาเถิดค่ะ โอปอและพี่น้องทุกท่านคือสุดที่รัก คือแก้วตาดวงใจของพระองค์นะคะ



สุดท้ายนี้อยากจะฝากข้อพระคัมภีร์อยู่ในพระธรรม 1 เปโตร 4:7-8 "อวสานของสิ่งทั้งปวงก็ใกล้จะมาถึงแล้ว เหตุฉะนั้นท่านทั้งหลายจงมีสติสัมปชัญญะ และจงรู้จักสงบใจเพื่อแก่การอธิษฐาน ที่สำคัญยิ่งกว่าอะไรหมดก็คือจงรักซึ่งกันและกันให้มาก เพราะว่าความรักลบล้างความผิดมากมายได้" โอปอรักพี่น้องทุกๆท่านนะคะ รักมาก และหากว่าพระเจ้าทรงโปรดก็ขอให้รักมากยิ่งๆขึ้นไปด้วย พี่น้องคะได้โปรดอย่าทำร้ายกันเลยนะคะ ไม่ว่าจะโดยคำพูด ความคิดหรือแม้แต่การกระทำ เพราะว่า "ความรักไม่ทำอันตรายเพื่อนบ้านเลย เหตุฉะนั้นความรักจึงเป็นการปฏิบัติตามธรรมบัญญัติอย่างครบถ้วน" โรม 13:10



ขอความรักขององค์พระผู้เป็นเจ้าจะอยู่กับพี่น้องทุกท่านค่ะ

โอปอ

My Blog

  • วินัยของน้องหมา (ข้างถนน) - วันที่ 18/8/2011 เช้านี้ขณะที่รถติดไฟแดงอยู่บริเวณสี่แยกสามย่าน ซึ่งเบื้องหน้าเป็นจามจุรีสแควร์นั้น พลันก็เหลือบเห็นน้องหมาตัวหนึ่งเดินข้ามทางม้าลายด้วยอ...
    12 ปีที่ผ่านมา
  • บทความคริสเตียน - บทความคริสเตียน http://www.gracezone.org/index.php/christian-articles บทความทางด้านจิตวิญญาณ หลักข้อเชื่อ พระเจ้า พระคัมภีร์ พระเจ้า พระคัมภีร์ แนวทางในการ...
    15 ปีที่ผ่านมา
  • คริสเตียนกับการรับใช้พระเยซู - คริสเตียนกับการรับใช้พระเยซู วัน พุธ 08 ต.ค. 08@ 17:47:37 ICT หัวข้อ: สรุปคำเทศนาประจำอาทิตย์ ดร.ทะนุ วงค์ธนานุกุล วัน อาทิตย์ ที่ 21 กันยายน 2008 พระธร...
    15 ปีที่ผ่านมา
  • - แต่วาระนั้นใกล้เข้ามาแล้ว และบัดนี้ก็ถึงแล้ว คือเมื่อผู้ที่นมัสการอย่างถูกต้องจะนมัสการพระบิดา ด้วยจิตวิญญาณและความจริง เพราะว่าพระบิดาทรงแสวงหาคนเช่นนั้...
    15 ปีที่ผ่านมา

Christian Blog

บล็อกวาไรตี้

เทคโนโลยี

ดาวน์โหลดโปรแกรมมาใหม่ล่าสุด |

วาไรตี้

ข่าวประจำวัน

สารบัญเว็บไทย

กินลม ชมทะเล ที่มาร์คเฮ้าส์บังกะโล เกาะกูด จ.ตราด

Thailand Map