Custom Search By Google

Custom Search

วันเสาร์ที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2551

คำหนุนใจจาก นคร เวชสุภาพร


การดำเนินชีวิตของคริสเตียนเราอยู่ในโลกใบนี้ พระคัมภีร์บอกว่าอยู่บนโลกนี้อย่างที่โลกนี้ ไม่ใช่บ้านเกิดเมืองนอนของเรา ไม่ใช่เราจะอยู่ที่นี่ตลอดไป ดังนั้น เป้าหมายชีวิตของคริสเตียนคือการอยู่เพื่อสวรรค์ ทำอะไรก็ตามคิดอยู่ในใจตลอดเวลาว่าเพื่อสวรรค์ ในที่ที่มองไม่เห็น เพราะสิ่งที่มองไม่เห็นถาวรนิรันดร์ แต่สิ่งที่มองเห็นในโลกใบนี้ ลาภ ยศ สรรเสริญ อยู่เพียงชั่วคราวเท่านั้นเอง สักวันหนึ่งมันก็เปลี่ยนแปลงไป แต่สิ่งที่เรามองไม่เห็น คือสวรรค์ที่พระเจ้าทรงจัดเตรียมไว้ให้กับเรา คือร่างกายใหม่ ที่พระองค์ทรงจัดเตรียมไว้ให้กับเรา อันนี้มองไม่เห็น แต่มีอยู่ นี่คือความหวังใจนิรันดร์ คือเป้าหมายชีวิตของคริสเตียนทุกคน ที่จะดำเนินชีวิตอย่างนี้ ดังนั้น ความทุกข์ยากลำบากที่เข้ามาในชีวิตของเรา เราก็อดทนและผ่านไป ถ้าจะผ่านไปได้ง่ายดายมากขึ้น ก็ต่อเมื่อเรามองไปที่สวรรค์เบื้องบน มองไปที่สถานที่ที่พระคริสต์ทรงสถิตอยู่ มองไปที่ร่างกายใหม่ที่เราจะได้รับ ตามพระสัญญาที่พระเจ้าทรงสัญญาไว้ในพระคัมภีร์ มองไปที่พระเจ้าตลอดเวลา นึกตลอดเวลา นี่คือคำอธิษฐาน คือเฝ้าระลึกตลอดเวลาว่า เราไม่ได้อยู่เพื่อที่จะตั้งรกรากบนโลกใบนี้ เราไม่ได้มีความหวังใจบนโลกใบนี้เลย เราดำเนินชีวิตไม่ได้เป็นไปด้วยกันกับโลกใบนี้ โลกใบนี้ไม่ได้เป็นบ้านเกิดเมืองนอนของเรา แต่บ้านเกิดเมืองนอนของเราอยู่ที่สวรรค์สถาน เราจะอยู่ในสวรรค์สถานกับพระบิดาของเรา กับพระเยซูคริสต์ของเราตลอดชั่วนิจนิรันดร์กาล


โดยความเชื่อเท่านั้นที่จะทำให้พระเจ้าพอพระทัยได้

ต้องคิดอย่างนี้ตลอดเวลา เป้าหมายเราไม่ได้อยู่บนโลกใบนี้ โลกใบนี้ที่บางครั้งเราอธิษฐานขอพระเจ้าให้ช่วย ตรงโน้น ตรงนี้บ้าง เป็นเพียงแค่ของแถม หรือเมื่อเราทุกข์ยากลำบากเราก็ทูลขอต่อพระเจ้าได้ ส่วนจะเกิดขึ้นเป็นอย่างไร ก็ขอให้เป็นไปตามน้ำพระทัยพระเจ้า เราไม่สามารถที่จะเข้าใจพระเจ้าหมดทุกอย่าง เพราะว่าเราไม่ใช่พระเจ้า และการที่จะเข้ามาหาพระเจ้าได้ ก็ต้องใช้ความเชื่อฟังและความไว้วางใจในพระเจ้า ใช้ความเชื่อเอา โดยความเชื่อเท่านั้นที่จะทำให้พระเจ้าพอพระทัยได้ เพราะพระเจ้าของเรา เรามองไม่เห็นด้วยตา แต่พระองค์มีชีวิตอยู่จริง สัมผัสได้โดยจิตวิญญาณของเรา สัมผัสได้โดยการอ่านพระคัมภีร์ โดยความรู้เรื่องราวแท้ๆ ของพระองค์ในพระคัมภีร์ว่าพระองค์ทรงพระชนม์อยู่ พระองค์มีชีวิตอยู่จริงๆ และดำเนินชีวิตไปกับพระองค์ ด้วยความเชื่อ เชื่อฟังและไว้วางใจ


ดังนั้น เป้าหมายชีวิตของคริสเตียนจึงต้องอยู่บนพื้นฐานที่ถูกต้อง คือที่สวรรค์ นี่คือการรับใช้พระเจ้า นี่คือการเป็นคริสเตียนอย่างที่พระเจ้าพอพระทัย ไม่ได้ดำเนินชีวิตด้วยกิเลสตัณหาทางฝ่ายเนื้อหนัง แต่ดำเนินชีวิตด้วยจิตวิญญาณและความจริง และด้วยถ้อยคำของพระเจ้าในแต่ละวันๆ ทุกอย่างใช้ถ้อยคำของพระเจ้า เป็นตัววัด เป็นโคมส่องนำทางชีวิตของเรา ไม่ว่าเจออะไร นึกถึงถ้อยคำของพระเจ้า ถ้อยคำพระเจ้าว่าอย่างไร เจอความทุกข์ยากลำบาก ถ้อยคำพระเจ้าบอกว่าเป็นเรื่องธรรมดา เพราะว่าโลกใบนี้เสียหายไปแล้ว บิดเบี้ยวไปแล้ว แต่พระเจ้าทรงสัญญาว่าจะให้โลกใหม่กับเรา โลกใบนี้รวมไปถึงเนื้อหนังร่างกายของเราด้วย เพราะโลกใบนี้ประกอบไปด้วย ดิน น้ำ ลม ไฟ ร่างกายของเราก็ประกอบไปด้วยดิน น้ำ ลม ไฟ เมื่อสูญสิ้นจากร่างกายนี้ ในพระคัมภีร์ก็บอกว่ากลับไปเป็นดิน คำว่า “เป็นดิน” ในพระคัมภีร์หมายถึงกลับไปสู่โลก กลับไปสู่ที่ที่เป็นอยู่ ก็คือดินกลับไปสู่ดิน น้ำกลับไปสู่น้ำ ไฟก็กลับไปสู่ไฟ ลมก็กลับไปสู่ลม คนที่ตายปุ๊บ ร่างกายก็จะค่อยๆ กลับไปตามสถานที่ตำแหน่ง 4 อย่างที่ร่างกายเป็นอยู่ นั่นคือโลก


แต่ตัวจริงของเราคือวิญญาณของเรา จะอยู่เป็นนิจนิรันดร์

ในพระคัมภีร์บอกว่าเราจะไม่เปื่อยเน่า แต่เราจะได้รับร่างกายใหม่ ซึ่งเป็นร่างกายที่เหมือนพระเยซูคริสต์ นี่คือความหวังใจของคริสเตียน เราจึงสามารถปีติยินดี สามารถมีสันติสุขในองค์พระเยซูคริสต์ได้ ก็เพราะเป้าหมายชีวิตของเราเปลี่ยนแปลงไปแล้ว ไม่ได้ขึ้นอยู่กับลาภ ยศ สรรเสริญบนโลกใบนี้อีกต่อไป เพราะเราได้รับชีวิตนิรันดร์จากพระเจ้าแล้ว

ถึงแม้ว่าเรามีความหวังใจในชีวิตนิรันดร์ที่เราได้รับแล้ว แต่เรายังอยู่ในร่างกายเก่า ซึ่งเป็นร่างกายของเนื้อหนังที่เป็นดิน ที่ตกอยู่ในความบาป ตกอยู่ในกิเลสตัณหาทางฝ่ายเนื้อหนัง ต้องทนทุกข์ทรมานอยู่ในร่างกายเก่านี้ไปชั่วคราว จนกว่าจะเสร็จสิ้นภาระกิจ ที่พระเจ้าทรงจัดเตรียมไว้ให้กับเราแต่ละคน กำหนดให้กับเราแต่ละคนบนโลกใบนี้ ว่าจะต้องทำงานอยู่อีกนานเท่าไหร่ อยู่ถึงอายุเท่าไหร่ถึงจะหมดสิ้นการงานของเรา เราก็มีความหวังว่าเมื่อหมดสิ้นการงานนั้นแล้ว เราก็จะได้รับร่างกายใหม่ ที่พระเจ้าสัญญาไว้ว่า จัดเตรียมไว้ให้กับเราเรียบร้อยแล้ว อันนี้ยังไม่ได้รับ ซึ่งเป็นร่างกายที่เหมือนกับพระเยซูคริสต์ ที่เต็มไปด้วยพระสิริของพระเจ้า


เพราะเรามีเป้าหมายชีวิตที่แน่นอน ชีวิตเราจึงแตกต่างกว่าคนที่ไม่มีพระเจ้า

ชีวิตจึงเต็มไปด้วยสันติสุขในองค์พระเยซูคริสต์เจ้า เต็มไปด้วยความชื่นชมยินดี เต็มไปด้วยความปลาบปลื้มใจ เต็มไปด้วยความอดทน อุตสาหะ ซึ่งไม่มีใครจะเข้าใจ เพราะเข้าใจไม่ได้เลย อะไร มีความทุกข์ยากลำบากเข้ามา เขาก็ยังสามารถสงบนิ่งอยู่ได้ ไม่หวั่นไหวต่อเหตุการณ์ต่างๆ รอบข้างที่เกิดขึ้น ชีวิตไม่ได้ขึ้นอยู่กับสิ่งแวดล้อมรอบกายอีกต่อไป แต่ชีวิตขึ้นตรงต่อถ้อยคำพระเจ้า และความหวังใจในชีวิตนิรันดร์ ที่พระเจ้าได้ทรงจัดเตรียมและสัญญาไว้ให้ ในพระคัมภีร์ได้บันทึกเอาไว้แล้ว และบันทึกอีก และตอกย้ำประทับตรา มัดจำไว้อย่างแน่นหนาในจิตวิญญาณของเรา โดยพระวิญญาณบริสุทธิ์ของพระเจ้า ผู้ทรงสถิตอยู่กับเรา ย้ำยืนยันให้กับเราทุกครั้งที่เราระลึกถึงถ้อยคำตรงนี้ เอเมน

ไม่มีความคิดเห็น:

My Blog

  • วินัยของน้องหมา (ข้างถนน) - วันที่ 18/8/2011 เช้านี้ขณะที่รถติดไฟแดงอยู่บริเวณสี่แยกสามย่าน ซึ่งเบื้องหน้าเป็นจามจุรีสแควร์นั้น พลันก็เหลือบเห็นน้องหมาตัวหนึ่งเดินข้ามทางม้าลายด้วยอ...
    12 ปีที่ผ่านมา
  • บทความคริสเตียน - บทความคริสเตียน http://www.gracezone.org/index.php/christian-articles บทความทางด้านจิตวิญญาณ หลักข้อเชื่อ พระเจ้า พระคัมภีร์ พระเจ้า พระคัมภีร์ แนวทางในการ...
    15 ปีที่ผ่านมา
  • คริสเตียนกับการรับใช้พระเยซู - คริสเตียนกับการรับใช้พระเยซู วัน พุธ 08 ต.ค. 08@ 17:47:37 ICT หัวข้อ: สรุปคำเทศนาประจำอาทิตย์ ดร.ทะนุ วงค์ธนานุกุล วัน อาทิตย์ ที่ 21 กันยายน 2008 พระธร...
    15 ปีที่ผ่านมา
  • - แต่วาระนั้นใกล้เข้ามาแล้ว และบัดนี้ก็ถึงแล้ว คือเมื่อผู้ที่นมัสการอย่างถูกต้องจะนมัสการพระบิดา ด้วยจิตวิญญาณและความจริง เพราะว่าพระบิดาทรงแสวงหาคนเช่นนั้...
    15 ปีที่ผ่านมา

Christian Blog

บล็อกวาไรตี้

เทคโนโลยี

ดาวน์โหลดโปรแกรมมาใหม่ล่าสุด |

วาไรตี้

ข่าวประจำวัน

สารบัญเว็บไทย

กินลม ชมทะเล ที่มาร์คเฮ้าส์บังกะโล เกาะกูด จ.ตราด

Thailand Map