Custom Search By Google

Custom Search

วันพฤหัสบดีที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2552

How To Be Like Jesus (2)‏

การแข็งกร้าวกับความบาปของพระเยซูคริสต์ (con’t)

2. ความบาปของคนรอบข้าง

สิ่งนี้เกี่ยวข้องกับคนรอบข้างที่ใกล้ชิดกับเรา เราจำเป็นต้องกล้าที่จะเผชิญหน้า และบางครั้งจะต้องวางขอบเขตสำหรับความสัมพันธ์

"31 ตั้งแต่เวลานั้นมา พระองค์กล่าวสอนสาวกว่า บุตรมนุษย์จะต้องทนทุกข์ทรมานหลายประการ พวกผู้ใหญ่ พวกมหาปุโรหิต และพวกธรรมาจารย์จะไม่ยอมรับพระองค์ ในที่สุดพระองค์จะต้องถึงถูกประหารชีวิต แต่ในวันที่สามพระองค์จะทรงเป็นขึ้นมาใหม่
32 คำเหล่านี้พระองค์ตรัสโดยเปิดเผย ฝ่ายเปโตรเอามือจับพระองค์แล้วก็ทูลท้วง
33 พระองค์จึงทรงหันพระพักตร์ดูเหล่าสาวกแล้วติเปโตรว่า 'อ้ายซาตาน จงไปให้พ้น เพราะเจ้าคิดอย่างคน มิได้คิดอย่างพระเจ้า' " (มัทธิว 8:31-33)

พระเยซูทรงรักเปโตร และพระองค์ก็ไม่สามารถเพิกเฉยต่อความบาปในชีวิตของเปโตรได้ พระองค์ตรัสกับเปโตรในเรื่องนี้อย่างเผชิญหน้า เกี่ยวกับความบาปของท่าน ซึ่งการที่พระเยซูทรงกระทำเช่นนั้น เป็นสิ่งที่ดีสำหรับชีวิตของเปโตร และดีสำหรับสาวกคนอื่น ๆ ด้วย

การที่จะแข็งกร้าวกับความบาป ไม่ได้หมายความว่าจะตำหนิวิจารณ์ตลอดเวลา แต่หมายความว่า เราไม่สามารถเพิกเฉยหรือมองข้ามความบาปของคนรอบข้างของเรา เพราะความบาปของเขาก็มีผลต่อชีวิตเราและคนรอบข้างเช่นกัน

การที่จะได้รับการเปลี่ยนใหม่ให้เป็นเหมือนพระเยซูคริสต์ เราจำเป็นต้องทำตามอย่างพระองค์ด้วย ถ้าคนที่เรารักได้ทำความผิดบาป ก็เป็นหน้าที่ของเราที่เราจะต้องเผชิญหน้าอย่างตรงไปตรงมา และคาดหวังด้วยว่าเขาจะทำเช่นเดียวกัน

อาจจะเป็นสิ่งที่ไม่สบายใจเท่าไรนัก เพราะผู้ที่เราเผชิญหน้าอาจจะไม่พอใจ โกรธ หรือทำให้ความสัมพันธ์แย่ลง แต่ในฐานะที่เป็นผู้เชื่อ เราไม่สามารถเลือกได้ว่าส่วนใดที่เราอยากเชื่อฟัง และส่วนใดที่เราเลือกที่จะไม่ทำ แต่เราจะต้องบริสุทธิ์เพราะพระองค์ทรงบริสุทธิ์ เราจะต้องทำเช่นเดียวกับที่พระเยซูคริสต์ทรงปฏิบัติกับเปโตร

ต้นปีนี้ มีสุภาพสตรีสองท่านได้มาคุยกับข้าพเจ้าโดยตรงเกี่ยวกับความบาปของข้าพเจ้า เขาได้กล่าวว่าการกระทำบางอย่างของข้าพเจ้าที่ทำให้เขารู้สึกสะดุด แรก ๆ ข้าพเจ้ารับไม่ได้ หลังจากนั้นก็เริ่มเปลี่ยนเป็นโกรธ แต่เมื่อพระเจ้าตรัสในจิตใจของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าก็พบว่าสิ่งที่เขาพูดนั้นเป็นความจริง ก็เลยเปลี่ยนจากความโกรธเป็นความเศร้า รู้สึกเสียใจว่าได้ทำสิ่งที่ไม่ดีต่อเขา และพระเจ้าทรงนำให้ข้าพเจ้าได้ไปขอโทษเขา และได้เปลี่ยนแปลงชีวิต ทำให้รู้สึกสบายใจขึ้น เพราะพระเจ้าได้รับเกียรติจากสิ่งที่เกิดขึ้น และข้าพเจ้าได้เติบโตในความรู้สึก และข้าพเจ้าก็เข้าใจว่าสุภาพสตรีทั้งคนทั้งสองนั้น ได้มีความรักต่อข้าพเจ้า จึงกล้าที่จะกล่าวกับข้าพเจ้าโดยตรง

แต่ตรงกันข้าม ถ้าหากว่าคนที่เราเผชิญหน้าด้วยปฏิเสธที่จะเปลี่ยนแปลง เราก็จำเป็นจะต้องวางขอบเขตของเราด้วย โดยจำกัดขอบเขตความสัมพันธ์ระหว่างเรากับเขา ทั้งอาจจะต้องเลิกติดต่อกับเขาโดยเด็ดขาด หรือจำกัดความสัมพันธ์นั้น

พระเยซูทรงทราบว่ายูดาสวางแผนทรยศ และพระองค์ทรงให้โอกาสยูดาสในการกลับใจใหม่ แต่เมื่อเขาไม่กลับใจไม่ พระองค์ก็ผลักไสเขาออกไป

"แต่ข้าพเจ้าเขียนบอกท่านว่า ถ้าผู้ใดได้ชื่อว่าเป็นพี่น้องแล้ว แต่ยังล่วงประเวณี เป็นคนโลภ เป็นคนถือรูปเคารพ เป็นคนปากร้าย เป็นคนขี้เมา หรือเป็นคนฉ้อโกง อย่าคบคนอย่างนั้น แม้จะกินด้วยกันก็อย่าเลย" (1โครินธ์ 5:11)

การสานความสัมพันธ์กับคนที่เมื่อทำผิดแล้วไม่ยอมรับการเปลี่ยนแปลง มักจะนำความเสียหายมาสู่เราและคนรอบข้าง การที่จะแข็งกร้าวกับความบาปเราจำเป็นต้องจำกัดขอบเขตความสัมพันธ์ เพื่อที่จะปกป้องตัวเราและคนรอบข้าง ที่จะปิดกั้นผลของความบาปของเขา ไม่ให้มาถึงเราและคนใกล้ชิด การจำกัดความสัมพันธ์นี้ เราอาจจำเป็นต้องจำกัดการติดต่อให้อยู่เฉพาะในที่สาธารณะ หรือกลุ่มคนที่มีความเชื่อ

ถ้ามีใครที่ชอบกระแนะกระแหน ชอบวิจารณ์เราเสมอ หรือมักจะขอให้เราทำนู่นทำนี่ให้อยู่เรื่อย และทำให้เรารู้สึกผิดเมื่อเราไม่สามารถตอบสนอง เมื่อเราปฏิเสธเขา อาจดูเหมือนการไม่มีความรัก ไม่ให้อภัย แต่คนที่ไม่ยอมเปลี่ยนนั้น จะยอมรับการเปลี่ยนแปลงเมื่อผลของความบาปนำผลเสียอย่างร้ายแรง จนกระทั้งต้องเลือกระหว่างความบาปและความสัมพันธ์ และจุดมุ่งหมายที่เราจำกัดความสัมพันธ์กับเขา ก็เพื่อที่จะให้เขาเลิกทำบาป ไม่ใช่ให้เขาเลิกความสัมพันธ์

เราไม่สามารถช่วยให้ใครรอดได้ แต่พระเจ้าทรงเรียกให้รักคนเหล่านั้น และการจะรักได้ก็จำเป็นต้องทำสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับคนนั้น ไม่ใช่สิ่งที่ง่ายที่สุดสำหรับเรา

ถ้าเพื่อนของเรามีพฤติกรรมบางอย่างที่ไม่ถูกต้อง เราจะยอมที่จะมีความสัมพันธ์กับเขาต่อไปหรือไม่? หรือเราจะขอพระเจ้าที่จะให้มีคำพูดที่ถูกต้อง และรู้ว่าจะมีระดับความสัมพันธ์มากเพียงใดเพื่อช่วยให้เขาเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม?



อ. Melinda Burnette

คำแบ่งปันคณะเพื่อคุณ คริสตจักรสะพานเหลือง เมื่อวันที่ 09/08/2009

เรื่อง How To Be Like Jesus

แปลโดย มน.นิลุบล วงศ์วรเศรษฐ์

ไม่มีความคิดเห็น:

My Blog

  • วินัยของน้องหมา (ข้างถนน) - วันที่ 18/8/2011 เช้านี้ขณะที่รถติดไฟแดงอยู่บริเวณสี่แยกสามย่าน ซึ่งเบื้องหน้าเป็นจามจุรีสแควร์นั้น พลันก็เหลือบเห็นน้องหมาตัวหนึ่งเดินข้ามทางม้าลายด้วยอ...
    12 ปีที่ผ่านมา
  • บทความคริสเตียน - บทความคริสเตียน http://www.gracezone.org/index.php/christian-articles บทความทางด้านจิตวิญญาณ หลักข้อเชื่อ พระเจ้า พระคัมภีร์ พระเจ้า พระคัมภีร์ แนวทางในการ...
    15 ปีที่ผ่านมา
  • คริสเตียนกับการรับใช้พระเยซู - คริสเตียนกับการรับใช้พระเยซู วัน พุธ 08 ต.ค. 08@ 17:47:37 ICT หัวข้อ: สรุปคำเทศนาประจำอาทิตย์ ดร.ทะนุ วงค์ธนานุกุล วัน อาทิตย์ ที่ 21 กันยายน 2008 พระธร...
    15 ปีที่ผ่านมา
  • - แต่วาระนั้นใกล้เข้ามาแล้ว และบัดนี้ก็ถึงแล้ว คือเมื่อผู้ที่นมัสการอย่างถูกต้องจะนมัสการพระบิดา ด้วยจิตวิญญาณและความจริง เพราะว่าพระบิดาทรงแสวงหาคนเช่นนั้...
    15 ปีที่ผ่านมา

Christian Blog

บล็อกวาไรตี้

เทคโนโลยี

ดาวน์โหลดโปรแกรมมาใหม่ล่าสุด |

วาไรตี้

ข่าวประจำวัน

สารบัญเว็บไทย

กินลม ชมทะเล ที่มาร์คเฮ้าส์บังกะโล เกาะกูด จ.ตราด

Thailand Map