Custom Search By Google

Custom Search

วันอาทิตย์ที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2552

ต่อสู้กับบาป

30 เมษายน 2007
ฉันยอมแพ้แล้ว
I GIVE UP
เขียนโดย แมรี่ ซุทเธอร์แลนด์ www.marysoutherland.com
แปลโดย ศิริพร จงสถิตย์วัฒนา sp@dortmuendshoe.com

ข้อวจนะวันนี้
2เพราะว่ากฎของพระวิญญาณแห่งชีวิตในพระเยซูคริสต์ ได้ทำให้ข้าพเจ้าพ้นจากกฎแห่งบาปและความตาย (โรม 8:2)

จากเพื่อนถึงเพื่อน
ฉันไม่มีวันลืม วันที่ฉันค้นพบว่าลูกชายของฉันเป็นคนนอกศาสนา, เป็นคนบาป!
เมื่อตอน “แจเร็ด” อายุได้ 6เดือน และกำลังคลานไปทั่วทั้งบ้าน, ฉันเองก็พึ่งกลับจากความวุ่นวายที่ต้องไปโน้นไปนี้ และก็ฺยุ่งอยู่กับการเก็บเอาอาหารเข้าครัว ซึ่งมีทางเข้าเปิดโล่ง ทำให้ฉันสามารถจับตาดูแจเรดได้ิขณะที่ฉันทำงานอยู่, เขาดูมีความสุขกับการเล่นอยู่กับของเล่นต่างๆ ของเขา, และเขาก็หยุดเล่นเป็นครั้งคราวเพื่อไปแกล้งแมว 2ตัวของเรา

เมื่อตอนแจเรดเริ่มคลานได้ใหม่, เราย้ายข้าวของทุกอย่างที่อาจทำให้เขาบาดเจ็บได้
ส่วนใหญ่ก็เป็นของที่แตกได้ง่าย หรือเป็นของที่มีคุณค่าทางจิตใจ. อย่างไรก็ตาม เราได้เหลือเปลือกหอยสังข์ที่สวยงามมากชิ้นหนึ่งไว้บนโต๊ะกาแฟในห้องนั่งเล่น เพื่อที่ใช้มันในการเริ่มต้นงานที่ยากลำบากและจำเป็นอย่างมากที่จะให้แจเรดรู้จักความหมายของคำว่า “ไม่”

เราชี้ไปที่เปลือกหอย จับมันขึ้นมา และพูดว่า “ไม่นะ อย่านะ” ทำอย่างนี้ซ้ำแล้วซ้ำอีก. แน่นอนเขาเป็นเด็กที่ฉลาดแต่ฉันก็ไม่แน่ใจว่า เขาจะเข้าใจเรื่องนี้จริงๆไหม จนกระทั่งถึงวันสำคัญวันนั้น.

ขณะที่หยิบเอาอาหารชิ้นสุดท้ายขึ้นเก็บ ฉันเอาถุงมันฝรั่งใส่ลงในอ่างล้างจานและเริ่มปอกเปลือกสำหรับเป็นอาหารมื้อเย็น. ฉันเหลือบตาไปเห็น แจเรด กำลังจ้องดูที่เปลือกหอย, รอยยิงฟันยิ้มอย่างมาดหมายปรากฎขึ้นบนใบหน้าเขา. ในทันใดนั้น เขาคลานอย่างรวดเร็วตรงไปยังเปลือกหอยต้องห้าม, ฉันสะดุ้งโหยงเมื่อคิดถึงว่า เขากำลังจะทำอะไรกับเปลือกหอยนั้น และเปลือกหอยนั้นจะทำอะไรกับมือเล็กๆของแก.

ฉันตะโกนออกมาด้วยเสียงดังจริงอย่างจังว่า “แจเรด ไม่นะ อย่าจับเปลือกหอยนั้น” ทันทีทันใดนั้น, ขณะที่คลานอยู่ เขาหยุด หันหลังกลับมา และมองกลับมายังฉัน พร้อมกับทำท่าพิจารณาถึงทางเลือกของเขาและชั่งน้ำหนักถึงผลที่จะตามมา. ในขณะที่ฉันกำลังเตือนเขาซ้ำอยู่นั้น, เขาได้ปรบมืออย่างร่าเริง ส่งรอยยิ้มที่น่าหลงไหลนั้นให้กับฉันอย่างน่ารักที่สุด. โอ้ เขาช่างเป็นเด็กที่แสนจะวิเศษเสียนี่กระไร! เขาเข้าใจมันแล้ว ฉันเดินอ้อมมุมห้องไปกอดเขาและชมเชยเขาสำหรับการเชื่อฟัง.

แต่ทันใดนั้นเอง เขาก็ทะลึ่งตัวออกอย่างรวดเร็วคลานเร็วที่สุดเท่าที่มือและหัวเข่าอันจ้ำม่ำจะพาเขาไปได้. เมื่อถึงโต๊ะกาแฟ แจเรด คว้าเปลือกหอยขึ้นมา แล้ววางขึ้นลงบนตักของเขา ราวกับเป็นถ้วยรางวัลที่ได้มาด้วยความยากเย็น. ฉันอ้าปากค้างด้วยความไม่เชื่อสายตาของตนเอง เมื่อเห็นใบหน้าของเขาแสดงถึงชัยชนะที่ยิ่งใหญ่้ของเขา! เด็กชายที่น่ารักสมบูรณ์แบบตัวเล็กๆ ของฉันได้กลายเป็นคนนอกศาสนาผู้ทรยศเหมือนเช่นแม่ของเขา.

พวกเราเองแต่ละคนและทุกๆคน ล้วนแล้วเกิดมาพร้อมกับธรรมชาติที่รักการขบถ และเฝ้าบำรุงเลี้ยงดูธรรมชาติฝ่ายบาป ที่ชักนำเราเข้าหาความเห็นแก่ตัว, การเลือกเดินในทางที่ผิด อย่างไรก็ตาม, เมื่อเราได้กลับใจ ต้อนรับพระเยซูคริสต์แล้ว เราก็ได้รับธรรมชาติอันใหม่ที่ปราถนาอยากจะเชื่อฟังพระเจ้า ผลลัพธ์ก็คือ, เกิดสงครามกลางเมืองภายในจิตใจของเรา. อัครสาวกเปาโลได้ต่อสู้กับบาปเช่นเดียวกับเราในทุกวันนี้, ในจดหมายที่เขียนไปถึงคริสตจักรในโรม อาจารย์เปาโลได้บรรยายถึงความสมเพชและสิ้นหวังในบาปของตัวเอง “ข้าพเจ้าไม่เข้าใจการกระทำของข้าพเจ้าเอง เพราะว่าข้าพเจ้าไม่ทำสิ่งที่ข้าพเจ้าปรารถนาที่จะทำ แต่กลับทำสิ่งที่ข้าพเจ้าเกลียดชังนั้น” (โรม7: 15)
ฟังดูคุ้นๆใช่มั้ย?.

ฉันไม่มีวันลืม ถึงครั้งแรกที่ฉันได้อ่านถ้อยคำที่ร้อนรนเหล่านี้, ถ้อยคำซึ่งเขียนขึ้นโดยคนของพระเจ้าคนนี้ ฉันรู้สึกผ่อนคลาย! ฉันมักจะรู้สึกว่าเสมอว่า ตัวฉันเองนั้นคงเป็นผู้เชื่อเพียงคนเดียวกระมัง ที่ยังคงต่อสู้ดิ้นรนกับความบาป. ฉันรู้สึกตื่นเต้นและได้รับแรงหนุนใจที่ได้รู้ว่าฉันไม่ได้ตกอยู่ในสภาวะการต่อสู้แบบนี้แต่เพียงลำพัง ความเป็นจริงก็คือตราบนานเท่าที่เราอยู่ในโลกที่แบ่งแยกและล้มเหลวนี้ ธรรมชาติบาปของเราและธรรมชาติของพระเจ้าในตัวเรานั้น จะยังคงดำเนินการต่อสู้กันต่อไป.

แล้วเราจะชนะสงครามนี้ได้อย่างไร? วิธีการนั้นง่ายมาก แต่ก็แพงมากเช่นกัน. ความเป็นจริงก็คือ คุณต้องจ่ายทุกอย่าง เริ่มด้วยการควบคุมชีวิตของคุณทั้งหมด. การจะเอาชนะสงครามระหว่างธรรมชาติเก่าและใหม่นั้น เราต้องยอมจำนนต่อพระเจ้าอย่างหมดสิ้น ยินยอมให้พระองค์นำพาเราและให้พระองค์นำเราให้ดำเนินชีวิตอยู่เพื่อพระองค์.

ฉันชอบวิธีของคนคนหนึ่ง ที่อธิบายถึงสงครามของเขาเองที่เขาต่อสู้กับบาปในตัวเขา
“มันเหมือนกับว่ามีสุนัข 2ตัวต่อสู้อยู่ภายในตัวของฉัน หมาตัวเก่ากับหมาตัวใหม่ ตัวที่จะชนะนั้ิน มักเป็นตัวที่ฉันคอยปรนเปรอให้กับมันมากที่สุดนั้นเอง”

ธรรมชาติเก่า นิสัยเก่า ถูกบำรุงบำเรอด้วยทางโลก และถูกเย้ายวนให้สนุกสนานกับความบาปที่หยิบยื่นมาให้อย่างเสรี. แต่พระเจ้าได้เตือนเราด้วยความรัก ให้เรามีพละกำลังในธรรมชาติใหม่ที่พระองค์ได้มองให้โดยการอ่านและศึกษาพระคัมภีร์ โดยการอธิษฐาน และใช้เวลาร่วมกับผู้เชื่อคนอื่นๆ และด้วยการรับใช้พระองค์. ชัยชนะที่แน่นอนจะเป็นของเราเมื่อเรายืนยันที่จะเลือกต่อต้านนิสัยเก่า ยอมจำนนต่อฤทธานุภาพของพระวิญญาณบริสุทธิ์
มาร่วมมือกับฉันในการยอมพ่ายแพ้เถอะ! ชัยชนะกำลังจะมาถึง!

ให้เราอธิษฐานด้วยกัน
ข้าแต่พระเจ้า ข้าพระองค์ปรารถนาที่จะให้พระองค์พึงพอใจและเชื่อฟังพระองค์.
ในหลายๆครั้ง ข้าพระองค์ ได้เลือกทางที่ผิดและพ่ายแพ้ต่อความบาปที่คอยล่อลวงข้าพระองค์อยู่เสมอ. วันนี้ ข้าพระองค์ ขอเลือกที่จะต่อต้านกับความบาปนั้น และมอบตัวข้าพระองค์เองแด่พระองค์.
ขอบพระคุณ สำหรับพระวจนะอันทรงพลังของพระองค์และสำหรับคำอธิษฐานที่เป็นพระพรล้ำค่า ซึ่งข้าพระองค์ได้พบความเข้มแข็งในการที่จะยืนหยัดได้อย่างมั่นคง.
อธิษฐานในนามพระเยซูคริสต์ อาเมน

ถึงคราวของคุณบ้าง
อธิษฐานและร้องขอพระวิญญาณบริสุทธิ์ให้เปิดเผยถึงบาปในชีวิตของคุณ ซึ่งคุณเคยปฏิเสธที่จะยอมรับ. เขียนความบาปนั้นออกมา สารภาพบาป และร้องขอพระเจ้าให้อภัยแก่คุณ. เอาล่ะ ทำลายกระดาษที่คุณเขียนความบาปอันนั้นซะ และขอบพระคุณพระองค์สำหรับการให้อภัยของพระองค์

ข้อใตร่ตรอง
อะไรคือบาปที่มีอำนาจมากที่สุดในชีวิตของฉัน ? ทำไม?
บาปอันนี้มีอิทธิพลต่อชีวิตประจำวันของฉันอย่างไรบ้าง?
บาปอันนี้ เป็นอุปสรรคต่อความสัมพันธ์ ของฉันกับพระเจ้าหรือไม่? ในทางใดบ้าง?
อะไรคือขั้นตอนแรก ที่จะทำให้ฉันหลุดพ้นจากบาปนี้?
ฉันต้องทำอะไรเป็นพิเศษบ้าง ที่จะเสริมกำลังให้ฉันทำในสิ่งที่ฉันตั้งใจให้หลุดพ้นจากบาปนี้ได้สำเร็จ?


April 30, 2007
I Give Up!
Mary Southerland
Today’s truth
Therefore, there is now no condemnation for those who are in Christ Jesus, because through Christ Jesus the law of the Spirit of life set me free from the law of sin and death. (NIV)
Friend to friend
I will never forget the day I discovered that my son was a pagan, a sinner! Jered was about six months old and crawling everywhere. I had just come back from running errands and was busy putting groceries away in the kitchen, which had a pass-through opening that enabled me to keep an eye on Jered while I worked. He seemed contented as he played with his toys, occasionally taking a break to terrorize our two cats.
When Jered first began to crawl, we had moved anything that could hurt him, most of our breakables and everything of sentimental value. We had, however, left a beautiful conch seashell on the living room coffee table and used it to begin the arduous but vital task of teaching Jered the meaning of “no”. Repeatedly we would point to the shell, touch it and say, “No, no!” Of course, he was a brilliant child, but I was not sure if he had really grasped the whole concept – until that momentous day.
With the last of the groceries put away, I dumped a bag of potatoes into the kitchen sink and began peeling them for dinner. Glancing up I saw Jered staring at the shell, a grin of anticipation on his face. All of a sudden, he broke out in a fast crawl straight toward the forbidden shell. I winced as the thought of what he could do to that shell and what that shell could do to his small hands. I called out in a firm, confident voice, “Jered, no. Do not touch that shell!” Immediately, in mid-crawl, he stopped, sat up and looked back at me while seeming to consider his options and weigh the consequences. As I repeated the warning, he joyfully clapped his hands, flashing me the most adorable smile. What a great kid! He’s got it! I started around the corner to give him a hug and praise him for his obedience when he took off like a shot, crawling as fast as his chubby little hands and knees would carry him. Reaching the coffee table, Jered grabbed the shell and plopped it in his lap like a hard-earned trophy. I gasped in disbelief as his face reflected total triumph! He knew exactly what he was doing and he was not one bit sorry! My perfect little boy was a rebellious pagan, just like his mother.
Each and every one of us was born with a nature that loves to rebel and feeds a natural “bent” toward selfish, wrong choices. However, when we come to Christ we receive a new nature that naturally desires to obey God. The result is internal civil war. The Apostle Paul struggled with sin just like we do today. In his letter to the church at Rome Paul describes his frustration with his own sin: “I don’t understand myself at all, for I really want to do what is right, but I don’t do it. Instead, I do the very thing I hate.” (NLT) Sound familiar? I will never forget the first time I read those fervent words written by this man of God. I was so relieved! It often seemed to me that I was the only believer who still engaged in major battles with sin. I was thrilled and encouraged to know that I was not in this battle alone. The reality is that as long as we live in this broken and fallen world our sinful nature and our God nature will constantly be at war.
How do we win that war? The solution is very simple, but very expensive. In fact, it will cost you everything, beginning with the total control of your life. To win this war between the old and new nature we must constantly surrender to God, allowing Him to guide, direct and empower us to live for Him. I love how one man described his own war against sin. “It is like there are two dogs fighting within me, an old dog and a new dog. The one who will win is the one I feed the most.”
The old nature is fed by the world and encouraged to enjoy the sin it so freely offers. But God lovingly urges us to strengthen the new nature He has given us by reading and studying the Bible, by praying and spending time with other believers and by serving Him. Certain victory is ours when we constantly choose against the old nature while surrendering to the power of the Holy Spirit. Join me in giving up! Victory is on the way!
Let’s pray
Lord, I want to please you and obey you. So many times, I make the wrong choice and give in to the sin that constantly draws me. Today, I choose against that sin and give myself to you. Thank you for the power of your word and for the precious gift of prayer, through which I find the strength to stand firm. In Jesus’ name. Amen.
Now it’s your turn
Pray and ask the Holy Spirit to reveal the sin in your life that you have refused to face. Write that sin down, confess it and ask Him to forgive you. Now destroy the paper on which you wrote the sin and thank God for His forgiving power.
Reflection points:
What is the most powerful sin in my life? Why?
How does this sin influence my everyday life?
Does this sin affect my relationship with God? In what way?
What is the first step I need to take in order to free my life from this sin?
What specific actions can I take to strengthen the choice I have made to turn from this sin?

Girlfriends in God
P.O. Box 725
Matthews, NC 28106
www.girlfriendsingod.com
Click here to learn more about hosting a Girlfriends in God conference in your area.

ไม่มีความคิดเห็น:

My Blog

  • วินัยของน้องหมา (ข้างถนน) - วันที่ 18/8/2011 เช้านี้ขณะที่รถติดไฟแดงอยู่บริเวณสี่แยกสามย่าน ซึ่งเบื้องหน้าเป็นจามจุรีสแควร์นั้น พลันก็เหลือบเห็นน้องหมาตัวหนึ่งเดินข้ามทางม้าลายด้วยอ...
    12 ปีที่ผ่านมา
  • บทความคริสเตียน - บทความคริสเตียน http://www.gracezone.org/index.php/christian-articles บทความทางด้านจิตวิญญาณ หลักข้อเชื่อ พระเจ้า พระคัมภีร์ พระเจ้า พระคัมภีร์ แนวทางในการ...
    15 ปีที่ผ่านมา
  • คริสเตียนกับการรับใช้พระเยซู - คริสเตียนกับการรับใช้พระเยซู วัน พุธ 08 ต.ค. 08@ 17:47:37 ICT หัวข้อ: สรุปคำเทศนาประจำอาทิตย์ ดร.ทะนุ วงค์ธนานุกุล วัน อาทิตย์ ที่ 21 กันยายน 2008 พระธร...
    15 ปีที่ผ่านมา
  • - แต่วาระนั้นใกล้เข้ามาแล้ว และบัดนี้ก็ถึงแล้ว คือเมื่อผู้ที่นมัสการอย่างถูกต้องจะนมัสการพระบิดา ด้วยจิตวิญญาณและความจริง เพราะว่าพระบิดาทรงแสวงหาคนเช่นนั้...
    15 ปีที่ผ่านมา

Christian Blog

บล็อกวาไรตี้

เทคโนโลยี

ดาวน์โหลดโปรแกรมมาใหม่ล่าสุด |

วาไรตี้

ข่าวประจำวัน

สารบัญเว็บไทย

กินลม ชมทะเล ที่มาร์คเฮ้าส์บังกะโล เกาะกูด จ.ตราด

Thailand Map