Custom Search By Google

Custom Search

วันจันทร์ที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

การสร้างพระวิหาร

การสร้างพระวิหารหลังที่ 1 (Solomon Temple)

บทความคริสเตียน - เกร็ดความรู้ เรื่องน่าสนใจ ของคริสเตียน
Wednesday, 17 December 2008 00:52

ในครั้งที่ผ่านได้นำเรื่อง “ใครคือ Anti-Christ” มานำเสนอซึ่งเป็นแนวคิดและเหตุผลที่เป็นตามที่พระคัมภีร์ได้บันทึกไว้ ครั้งนี้จะขอนำเสนอเรื่องเกี่ยวกับ “การสร้างพระวิหาร” ซึ่งเรื่องนี้เนื้อหานั้นจะสอดคล้องต่อจากเรื่อง “ใครคือ Anti-Christ” เพราะถ้า “ดาน” หรือ พงศ์พันธ์ของ “เผ่าดาน” เป็น Anti Christ ในการสร้างพระวิหารครั้งที่ 1 นั้นเกี่ยวข้องกับคนของเผ่าดานโดยตรงอย่างเลี่ยงไม่ได้ พระคัมภีร์ได้บันทึกไว้อย่าง ชัดเจนว่า กษัตริย์เมืองไทระได้ส่งช่างฝีมือคนหนึ่งมาให้โซโลมอน เพื่อทำการสร้างพระวิหาร“ช่างฝีมือคนหนึ่ง กอปรด้วยความเข้าใจ คือหุราม ที่ปรึกษาอาวุโส บุตรชายของหญิงคนเผ่าดาน บิดาของเขาเป็นชาวเมืองไทระ เขาชำนาญงานช่างทองคำ เงิน ทองสัมฤทธิ์ เหล็ก หินและไม้ และทำงานช่างผ้าสีม่วง สีฟ้า ผ้าป่าน และผ้าสีแดงเข้ม และทำการแกะสลักทุกชนิดและสร้างตามแบบลวดลายใดๆ ที่จะกำหนดให้แก่เขา” (2 พงศาวดาร 2:13-14)

*หมายเหตุ: หุรามหรือฮีรามคนนี้ไม่ใช่คนเดียวกับหุราม หรือ ฮีรามที่เป็นกษัตริย์เมืองไทระ แต่เป็นที่ปรึกษาอาวุโสของคนเผ่าดานที่มีความชำนาญเรื่องงานช่าง...


ประมาณ 960 ปี ก่อนคริสตกาล พระวิหารหลังแรกถูกสร้างขึ้นโดยกษัตริย์ซาโลมอน โดยก่อนที่จะสร้างพระวิหารหลังที่ 1 นั้น ซาโลมอนได้มีการตกลง
ทำพันธสัญญาร่วมกันกับกษัตริย์เมืองไทระ คือ “ฮีราม” หรือ “หุราม” นั้นเอง โดยทั้งสองได้มีการตกลงทำพันธสัญญาในลักษณะของ “สัญญาสันติภาพ” ระหว่างอิสราเอลและเมืองไทระ พระคัมภีร์ได้กล่าวไว้ว่า “ฮีรามจึงได้จัดส่งไม้สนสีดาร์ และไม้สนสามใบให้แก่ซาโลมอน ตามที่พระองค์มีพระประสงค์ ..


มีสันติภาพระหว่าง “ฮีราม” และ “ซาโลมอน” ทั้งสองก็ทรงกระทำสนธิสัญญากัน” (1 พงศ์กษัตริย์ 5:11-12), และพระเยโฮวาห์พระราชทานสติปัญญาแก่ซาโลมอน ดังที่พระองค์ทรงสัญญาไว้ และมีสันติภาพระหว่างฮีรามและซาโลมอน และทั้งสองก็ทรงกระทำสนธิสัญญากัน (2 พงศาวดาร. 2:13)



การสร้างพระวิหารหลังแรกนี้ถูกสร้างขึ้นบน “ภูเขาโมริยาห์” ซึ่งเป็นสถานที่เดียวกับที่อับบราฮัมได้ถวายอิสอัคต่อพระเจ้า พระองค์ตรัสว่า "จงพาบุตรชายของเจ้าคืออิสอัค บุตรชายคนเดียวของเจ้าผู้ที่เจ้ารัก ไปยังแผ่นดินโมริยาห์ และถวายเขาที่นั่นเป็นเครื่องเผาบูชา บนภูเขาลูกหนึ่งซึ่งเราจะบอกแก่เจ้า" (ปฐมกาล 22:2)




รูปนี้เป็นภาพของสถานที่สร้างพระวิหารหลังที่ 1 โดยจะสังเกตว่า เนินเขาลูกนี้จะลักษณะเหมือนอักษรหนึ่งในภาษาฮีบูร คือ


(Shin) หรือ เชม แปลความหมาย คือ “นามของเราจะอยู่ที่นั้น”


ปัจจุบันเป็นที่ตั้งของสถานที่หนึ่งที่สำคัญของประเทศอิสราเอลนั้นคือ “Dome of the Rock” และเหตุผลที่สำคัญที่น่าสนใจเกี่ยวกับการสร้าง พระวิหารบนภูเขาลูกนี้ ในพระคัมภีร์ได้บันทึกเกี่ยวกับคำอธิษฐานของโซโลมอนไว้ว่า “เพื่อว่าพระเนตรของพระองค์จะทรงลืมอยู่เหนือพระนิเวศนี้ ทั้งกลางคืนและกลางวัน คือสถานที่ซึ่งพระองค์ได้ตรัสว่า `นามของเราจะอยู่ที่นั่น' เพื่อว่าพระองค์จะทรงสดับคำอธิษฐาน ซึ่งผู้รับใช้ของพระองค์จะได้อธิษฐาน ตรงต่อสถานที่นี้ (1 พงศ์กษัตริย์ 1:29) จากคำอธิษฐานของโซโลมอน ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาจึงมีความจำเป็นที่พระวิหารจะต้องถูกสร้างบนภูเขาแห่งนี้ เพื่อ “นามของเรา (พระเจ้า) จะอยู่ที่นั้น”
*หมายเหตุ: พระวิหารหลังที่สองที่ถูกสร้างขึ้นโดย “กษัตริย์เฮโรด” ก็ยังถูกสร้างอยู่บนภูเขาแห่งนี้ และยังคงสืบเนื่องต่อไปในการสร้างพระวิหารหลังที่ 3 ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตด้วยเช่นกันก็ยังคงอยู่บนภูเขาโมริยาห์แห่งนี้ต่อไป


สรุป การสร้างพระวิหารครั้งที่ 1 นี้จึงไม่ได้ถูกสร้างโดยชนชาติอิสราเอลอย่างแท้จริง แต่ถูกสร้างโดยคนต่างชาติ นั้นก็คือ ฮีรามหรือหุราม(คนเผ่าดาน) ที่ชำนาญเรื่องการช่าง โดยมีโซโลมอนเป็นกษัตริย์ผู้ควบคุมดูแลอีกต่อหนึ่งจนพระวิหารหลังแรกถูกสร้างสำเร็จในที่สุด


ต่อมาอาณาจักรถูกแบ่งเป็นสองส่วน หลังจากซาโลมอนสิ้นพระชนม์ "พระเยโฮวาห์ทรงกริ้วต่อซาโลมอน เพราะพระทัยของท่านได้หันไปเสียจากพระเยโฮวาห์พระเจ้าแห่งอิสราเอล ผู้ได้ทรงปรากฏแก่ท่านสองครั้งแล้ว และได้ทรงบัญชาท่านเกี่ยวกับเรื่องนี้ ว่าท่านไม่ควรไปติดตามพระอื่น แต่ท่านมิได้รักษาพระบัญชาของพระเยโฮวาห์ 11เพราะฉะนั้นพระเยโฮวาห์ตรัสกับซาโลมอนว่า "เนื่องด้วยเจ้าได้กระทำเช่นนี้ และเจ้ามิได้รักษาพันธสัญญาของเรา และกฎเกณฑ์ของเรา ซึ่งเราได้บัญชาเจ้าไว้ เราจะฉีกอาณาจักรเสียจากเจ้าเป็นแน่และให้แก่ข้าราชการของเจ้า 12กระนั้นก็ดี เพราะเห็นแก่ดาวิดบิดาของเจ้าเราจะไม่กระทำในวันเวลาของเจ้า แต่เราจะฉีกออกจากมือบุตรชายของเจ้า 13อย่างไรก็ดี เราจะไม่ฉีกเสียหมดอาณาจักร แต่เราจะให้ตระกูลหนึ่งแก่บุตรชายของเจ้า เพื่อเห็นแก่ดาวิดผู้รับใช้ของเรา และเพื่อเห็นแก่เยรูซาเล็มซึ่งเราได้เลือกไว้" (1 พงศ์กษัตริย์ 11:9-13)


ประมาณ 722-720 ปี ก่อนคริสตกาล - อิสราเอล (10 เผ่า) ถูกโจมตีและอัสซีเรียกวาดต้อนไปเป็นเชลย “ในรัชกาลของเปคาห์พระราชาแห่งอิสราเอล ทิกลัทปิเลเสอร์พระราชาแห่งอัสซีเรียได้ยกมา และยึดเมืองอิโยน เอเบล-เบธมาอาคาห์ ยาโนอาห์ คาเดช ฮาโซร์ กิเลอาด กาลิลี แผ่นดินนัฟทาลีทั้งหมด และกวาดต้อนประชาชนเป็นเชลยไปยังอัสซีเรีย” (2 พงศ์กษัตริย์ 15:29)


586 ปี ก่อนคริสตกาล - อาณาจักรยูดาห์ ถูกโจมตีโดยบาบิโลน และพระวิหารหลังแรกถูกทำลาย “อยู่มาเนบูคัดเนสซาร์พระราชาแห่งบาบิโลน ได้ยกมาพร้อมกับกองทัพทั้งสิ้นของพระองค์เข้าสู้รบ กรุงเยรูซาเล็ม และล้อมกรุงนั้นไว้ และเขาทั้งหลายได้สร้างเครื่องล้อมไว้รอบ.. ท่านได้เผาพระนิเวศของพระเจ้าเสีย และเผาพระราชวัง และเผาบ้านเรือนทั้งหมดของเยรูซาเล็ม ท่านเผาบ้านใหญ่ทุกหลังลงหมด ..ได้ทลายกำแพงรอบเยรูซาเล็มลง” (2 พงศ์กษัตริย์ 25:1), (9-10)


538-515 ปี ก่อนคริสตกาล - “กษัตริย์ไซรัส” ออกพระราชกฤษฎีกาอนุญาตให้ชาวยิว 50,000 คนกลับอิสราเอลได้ ซึ่งนำโดย “เศรุบบาเบล” และครั้งที่สอง นำโดย “เอสรา” แล้วดาริอัสทรงออกกฤษฎีกา และทรงให้ค้นดูในบาบิโลน ในหอเก็บหนังสือที่คลังราชทรัพย์ และในเอกบาทานาเมืองป้อมซึ่งอยู่ในมณฑลมีเดีย ได้พบหนังสือม้วนหนึ่งซึ่งมีข้อความเขียนอยู่ต่อไปนี้ “บันทึกในปีต้นแห่งรัชกาลไซรัสพระราชาทรงออกกฤษฎีกาว่า เรื่องพระนิเวศของพระเจ้าที่เยรูซาเล็ม ให้สร้างพระนิเวศนั้นขึ้นใหม่” (เอสรา 6:1-3)


166-160 ปี ก่อนคริสตกาล - อิสราเอลถูกปกครองด้วยชาวกรีก และได้ทำให้ พระวิหารเต็มไปด้วยสิ่งที่น่าสะอิดสะเอียน ในสมัยของอันทิโอกัส เอพิฟาเนส (ปี 167 ก่อน ค.ศ.) ท่านได้สร้างแท่นกราบไหว้บูชาพระซูสแห่งภูเขาโอลิมปัส ที่พระวิหารในกรุงเยรูซาเล็ม และใช้หมูเป็นเครื่องบูชา (ดาเนียล.9:27; 11:31; 12:11) ทั้งพระซูสและหมูเป็นสิ่งสะอิดสะเอียนในสายพระเนตรพระเจ้า เหตุการณ์ในทำนองเดียวกันนี้ได้เกิดขึ้นอีกเมื่อพวกโรมันได้นำเอารูปปั้นของจักรพรรดิคาลิกูล่าเข้าไปในพระวิหารในปี ค.ศ.38 หลังจากนั้นไม่นาน ก็เกิดการปฏิวัติโดย “ยูดาส แมคคาบีน” และเกิดราชวงศ์ “ฮัชโมเนียน” และพระวิหารได้รับการชำระ


ปล. ข้อมูลทั้งหมดนี้เป็นส่วนหนึ่งของการสัมมนายุคสุดท้ายในกลุ่ม endtime ซึ่งผมได้มีโอกาสไปฟัง และรวบรวมข้อมูลเบื้องต้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ขอขอบคุณ คุณอภิรักษ์ สอนพรินทร์ ผู้บรรยาย ที่ได้เอื้อเฟื้อข้อมูล


การสร้างพระวิหารหลังที่ 2 (Herod's Temple)
Wednesday, 17 December 2008 01:28

ในปัจจุบันความรู้และข้อมูลเกี่ยวกับพระวิหารหลังที่สองในปัจจุบันนั้นมีน้อยมาก เหตุการณ์อันระทึกใจเล่านั้นเกิดขึ้นเมื่อกษัตริย์ของ Seleucid ที่มีพระนามว่า Antiochus IV Epiphanes มีพระบัญชาออกคำสั่งต่อต้านการปฏิบัติตามหลักข้อเชื่อของยิว ทั้งในยูเดีย และ ที่อื่นๆ การกระทำเหล่านี่นำไปสู่การปฏิวัติ Hasmonean และเป็นจุดที่ทำให้Judas Maccabeus ได้ครอบครอง ชำระล้าง และทำพิธีถวายพระวิหารอีกครังหนึ่งในวันที่ 25 เดือน Kislev ปี 164 BCE.



Herod's Temple


เมื่อกษัตริย์เฮโรดก้าวเข้ามาสู่อำนาจ และเป็นกษัตรแห่งยูเดีย พระองค์ทรงตัดสินพระทัยที่จะขยายอาณาเขตของเนินเขาพระวิหาร รวมถึงถึงตัวอาคารพระวิหารด้วย ลองดูในภาพประกอบจากคัมภีร์โบราณของยิว ในหนังสือ 15 บทที่ 11 ข้อ 382-387


โครงการก่อสร้างขนาดมหึมา ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์แห่งดินแดนอิสราเอลและของโลกนี้ ประกอบด้วยองค์ประกอบหลัก หลายประการ เช่น การสร้างพระวิหารใหม่แทนที่อันเดินที่ถูกสร้างขึ้นโดยกลุ่มผู้เดินทางกลับ ถิ่น การขยายอาณาบริเวณของเนินเขาพระวิหารให้มีพื้นที่ยาว 480 เมตร และกว้าง 280เมตร การสร้างเฉลียงกษัตริย์ (Royal Stoa) การออกแบบต่อเติมและสร้างบริเวณเนินเขาพระวิหารทั้งหมดใหม่ซึ่งรวมถึง ประตูทางเข้า ขั้นบันได ท้องถนน ระบบระบายน้ำ plaza สาธารณะ และ ที่ทำพิธีชำระล้างตัวขนาดใหญ่สำหรับผู้ที่เข้ามานมัสการก่อนที่จะเข้ามาในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์



ในหนังสือ Josepus บรรยายไว้ว่า เฮโรดได้ใช้เวลาสร้างกำแพงล้อมรอบพระวิหารถึงแปดปี (8 ปี) ส่วนตัวพระวิหารใช้เวลาหนึ่งปีกับอีกห้าเดือน (1 ปี ห้าเดือน) คนงานหลายเหมือนคนถูกว่าจ้างและรถเข็นปูนหลายคันถูกนำมาขนย้ายอิฐและวัสดุก่อ สร้างอื่นๆที่แสดงถึงมาตรฐานการก่อสร้างที่เป็นที่ยอมรับตามมาตรฐาน


เฮโรดได้สร้างเฉลียงกษัตริย์ (Royal Stoa) ขึ้นจรดด้านในสุดของกำแพงใต้ของพระวิหาร (ปัจจุบันตั้งอยู่ในAlaqsa Mosque) ในปัจจุบันไม่มีสิ่งก่อสร้างเหล่านี้หลงเหลืออยู่อีกแล้ว เพาระถูกกองกำลังทหารโรมรื้อถอนและทำลายในเวลาเดียวกับเยรูซาเล็ม แต่มันได้ถูกบรรยายไว้ว่าเป็นสิ่งก่อสร้างที่งดงามที่สุดที่เคยมีมาในแผ่นดินอิสราเอล และใหญ่ที่สุดในยุคสมัยนั้น (แหล่งที่มาจาก คัมภีร์ยิวโบราณ หนังสือ Josephus เล่มที่ 15 บททที่ 11 ข้อ 410)



เฉลียงกษัตริย์มีความยาวประมาณ 180 เมตร ความยาวทั้งหมดใกล้เคียงกับลานของเนินเขาพระวิหาร หลังคาวางบน 4 แนวตั้ง 5 แถว วัสดุหินถูกนำมาแกะสลักเป็นรูปดอกไม้ ใบไม้ และเลขาคณิตรูปทรงต่างๆ มีก้อนหินเล่านั้นเพียงไม่กี่ก้อนที่ถูกค้นพบในทางใต้ของกำแพงในเนินเขา พระวิหาร เป็นหลักฐานแห่งการเคยมีอยู่ของพระวิหารที่งดงามวิจิตรตระการตา


เฉลียงกษัตริย์นั้นถูกใช้เพื่อจุดประสงค์ทางโลกอย่างเช่น การซื้อขายสัตว์เป็นเครื่องสัตว์บูชา และการแลกเปลี่ยนเหรียญสำหรับครึ่งเชเคล Tyrian โดยส่วนใหญ่ผู้แสวงบุญมักจะจ่ายเพื่อเป็นค่าบำรุงรักษาพระวิหาร (อพยพ 30:11-16) โดยส่วนใหญ่เรามักจะคุ้นหูว่าพระเยซูได้คว่ำโต๊ะของพวกพ่อค้าแลกเปลี่ยนเงิน (มัทธิว 21:12) ซึ่งโดยทั่วไปเฉลียงใช้สำหรับการประกอบพิธีทางศาสนาและการปรึกษาหารือในประเด็นทางสังคมมากมาย


หลังจากการโอบล้อมสี่เดือนของทหารโรม ในวันที่ 9 และ 10 ของเดือน Av ในปี 70 CE กอง กำลังโรมได้ทะลวงผ่านเนินพระวิหารและเผ่ามันทิ้ง โดยที่ไม่มีร่องรอยของพระวิหารทั้งหลังที่1และ2อยู่เลย สิ่งหลงเหลืออยู่ทุกวันนี้ก็มีแค่พระคัมภีร์ การบันทึกใน Josephus และหนังสือบันทึกของนักบวช ถึงแม้ว่าจะเป็นเช่นนั้นก็ตาม ก็ยังมีบางส่วนของกำแพงเนินพระวิหารหลงเหลืออยู่ ทำให้เราสามารถเห็นหลักฐานที่จับต้องและแลเห็นได้ถึงความวิจิตรและสง่างาม ของอาณาบริเวณนั้น

แปลโดย: Pigazzo

อ้างอิง: http://www.bibletopics.com/biblestudy/115.htm

ไม่มีความคิดเห็น:

My Blog

  • วินัยของน้องหมา (ข้างถนน) - วันที่ 18/8/2011 เช้านี้ขณะที่รถติดไฟแดงอยู่บริเวณสี่แยกสามย่าน ซึ่งเบื้องหน้าเป็นจามจุรีสแควร์นั้น พลันก็เหลือบเห็นน้องหมาตัวหนึ่งเดินข้ามทางม้าลายด้วยอ...
    12 ปีที่ผ่านมา
  • บทความคริสเตียน - บทความคริสเตียน http://www.gracezone.org/index.php/christian-articles บทความทางด้านจิตวิญญาณ หลักข้อเชื่อ พระเจ้า พระคัมภีร์ พระเจ้า พระคัมภีร์ แนวทางในการ...
    15 ปีที่ผ่านมา
  • คริสเตียนกับการรับใช้พระเยซู - คริสเตียนกับการรับใช้พระเยซู วัน พุธ 08 ต.ค. 08@ 17:47:37 ICT หัวข้อ: สรุปคำเทศนาประจำอาทิตย์ ดร.ทะนุ วงค์ธนานุกุล วัน อาทิตย์ ที่ 21 กันยายน 2008 พระธร...
    15 ปีที่ผ่านมา
  • - แต่วาระนั้นใกล้เข้ามาแล้ว และบัดนี้ก็ถึงแล้ว คือเมื่อผู้ที่นมัสการอย่างถูกต้องจะนมัสการพระบิดา ด้วยจิตวิญญาณและความจริง เพราะว่าพระบิดาทรงแสวงหาคนเช่นนั้...
    15 ปีที่ผ่านมา

Christian Blog

บล็อกวาไรตี้

เทคโนโลยี

ดาวน์โหลดโปรแกรมมาใหม่ล่าสุด |

วาไรตี้

ข่าวประจำวัน

สารบัญเว็บไทย

กินลม ชมทะเล ที่มาร์คเฮ้าส์บังกะโล เกาะกูด จ.ตราด

Thailand Map