Custom Search By Google

Custom Search

วันอังคารที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2552

จงเลือกชีวิต

"11 เพราะว่าพระบัญญัติซึ่งข้าพเจ้าบัญชาท่านในวันนี้ สำหรับท่านไม่ยากเกินไป และไม่ห่างเหินเกินไปด้วย
12 มิใช่พระบัญญัตินั้นอยู่บนสวรรค์ แล้วท่านจะกล่าวว่า 'ใครจะแทนเราขึ้นไปบนสวรรค์และนำมาให้เรา และกระทำให้เราได้ฟังและประพฤติตาม'
13 มิใช่อยู่พ้นทะเล ซึ่งท่านจะกล่าวว่า 'ใครจะข้ามทะเลไปแทนเราและนำมาให้เรา และกระทำให้เราได้ฟังและประพฤติตาม'
14 แต่ถ้อยคำนั้นอยู่ใกล้ท่านทั้งหลายมาก อยู่ในปากของท่าน และอยู่ในใจของท่าน ฉะนั้นท่านจึงกระทำตามได้
15 จงดูเถิด ในวันนี้ข้าพเจ้าได้วางชีวิตและสิ่งดี ความตายและสิ่งร้ายไว้ต่อหน้าท่าน
16 คือในการที่ข้าพเจ้าได้บัญชาท่านในวันนี้ ให้รักพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน ให้ดำเนินในพระมรรคาทั้งหลายของพระองค์และให้รักษาพระบัญญัติ และกฎเกณฑ์และกฎหมายของพระองค์ แล้วท่านจะมีชีวิตอยู่และทวีมากขึ้น และพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านจะอำนวยพระพรแก่ท่านในแผ่นดินซึ่งท่านเข้าไปยึดครองนั้น
17 ถ้าใจของท่านหันเหไปและท่านมิได้เชื่อฟัง แต่ถูกลวงให้ไปนมัสการพระอื่นและปรนนิบัติพระนั้น
18 ข้าพเจ้าขอประกาศแก่ท่านทั้งหลายในวันนี้ว่า ท่านทั้งหลายจะพินาศเป็นแน่ ท่านจะไม่มีชีวิตอยู่นานในแผ่นดินซึ่งท่านกำลังจะยกข้ามแม่น้ำจอร์แดนเข้าไปยึดครองนั้น
19 ข้าพเจ้าขออัญเชิญสวรรค์และโลกให้เป็นพยานต่อท่านในวันนี้ว่า ข้าพเจ้าตั้งชีวิตและความตาย พระพรและคำสาปแช่งไว้ต่อหน้าท่าน เพราะฉะนั้นท่านจงเลือกเอาข้างชีวิตเพื่อท่านและลูกหลานของท่านจะได้มีชีวิตอยู่
20 ด้วยมีความรักต่อพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน เชื่อฟังพระสุรเสียงของพระองค์ และติดพันอยู่กับพระองค์ กระทำเช่นนั้นจะได้ชีวิตและความยืนนาน เพื่อท่านจะได้อยู่ในแผ่นดินซึ่งพระเจ้าปฏิญาณแก่บรรพบุรุษของท่าน คือแก่อับราฮัม แก่อิสอัค และแก่ยาโคบ ว่าจะประทานแก่ท่านเหล่านั้น" (เฉลยธรรมบัญญัติ 30:11-20)


--------------------------------------------------------------------------------

พระเจ้าองค์เที่ยงแท้องค์นี้ ทรงเปิดเผยพระองค์เอง ทรงเปิดเผยแก่มนุษย์ผ่านทางธรรมชาติ ผ่านทางพระคัมภีร์ ทำให้เรารู้ถึงความรอด และชีวิตในองค์พระเยซูคริสต์เจ้า

วันนี้มีการมอบประกาศนียบัตรให้แก่ผู้ที่เรียนจบชั้นรวีวารศึกษา ผู้เรียนควรภูมิใจ ที่เขาได้ใช้เวลาใส่ใจในชีวิตของเขา ตั้งแต่เด็กจนถึงมัธยม ได้ใส่ใจในพระวจนะคำของพระเจ้า เมื่อเวลาผ่านไป และย้อนคิดดู จะรู้ว่าสิ่งที่เขาได้รับนี้มีคุณค่ามากเพียงใด ส่วนครูรวีก็ได้ภูมิใจที่ได้ลงแรง ถวายแรงกาย ถวายแรงทรัพย์ เพื่อที่จะสอนเด็กเหล่านี้ให้เติบโตในทางของพระเจ้า

พระวจนะคำของพระเจ้า มิได้เพียงให้ความรู้เท่านั้น แต่ความรู้และข้อมูลเหล่านี้จะทำให้ผู้เรียนได้พบกับ 3 "ร" ได้แก่ รู้จักพระเจ้า รักพระเจ้า และรับใช้พระเจ้า ข้อมูลจากพระคัมภีร์จะนำชีวิตให้สามารถตัดสินใจเลือกสิ่งที่ถูกต้อง ตัดสินใจรักสิ่งที่ถูกต้อง ตัดสินใจตั้งใจที่จะทำสิ่งที่ถูกต้อง ดังนั้น การสอนคริสเตียนศึกษาจะต้องเชิญชวนให้ผู้เรียนถึงจุดที่ตัดสินใจด้วย คือ ตัดสินใจที่จะเลือกชีวิต ซึ่งได้แก่ การเลือกที่จะเชื่อฟังพระเจ้า

ในชีวิตของเรามีการเลือกตลอดเวลา บางสิ่งเลือกแล้วมีนัยสำคัญ แต่บางอย่างก็ไม่มี มีผลแตกต่างกันไปแล้วแต่กรณี เช่น การเลือกกินไอศกรีมรสใด คงจะไม่ส่งผลด้านจริยธรรมใด ๆ แต่บางเรื่องมีผลระยะยาว เช่น การเลือกเรียนสายวิทย์หรือสายศิลป์ บางครั้งเลือกไปแล้วยังไม่รู้ว่าตัวเองชอบหรือไม่

การเลือกบางครั้งยังเปลี่ยนได้ เช่น บางคนเรียนหมอแต่ไม่ได้ทำอาชีพแพทย์ ซึ่งถ้าหากเป็นการเลือกผิดก็ยังแก้ไขเปลี่ยนแปลงได้ เรื่องคู่ครอง ตอนจีบกันก็ยังสามารถเปลี่ยนได้ แต่ถ้าแต่งงานแล้วจะเปลี่ยนไม่ได้ การเลือกมีความสำคัญต่อชีวิต

ในธุรกิจการค้าก็มีการตัดสินใจทั้งสิ้น ยิ่งบางครั้งการเลือกเกี่ยวกับศีลธรรม จะเลือกโกหก หรือเลือกที่จะพูดความจริง จะเลือกที่จะขโมยหรือจะซื่อสัตย์

ในชีวิตของเราจะต้องเผชิญการเลือกเสมอ และการเลือกบางครั้งเกี่ยวข้องกับชีวิตหรือความตาย มีผลต่อชีวิตนิรันดร์ และการเลือกผิดจะนำมาสู่ความเสียใจอย่างมาก

เราจะเลือกได้ดีก็ต่อเมื่อ เรามีข้อมูลที่จะใช้ในการตัดสินใจเลือก ประสบการณ์จะทำให้เราสามารถตัดสินใจได้ดีขึ้น แต่จะพบว่าบางครั้งแม้ข้อมูลเพียงพอแล้วแต่ก็ยังไม่ตัดสินใจเลือก เพราะอคติ ไม่กล้า ดังนั้น การสอนพระวจนะคำของพระเจ้า จะต้องสอนให้คนเลือกสิ่งที่ถูก คือ ที่จะกระทำตามพระคำของพระเจ้า

อาดัมและเอวา พระเจ้าทรงประทานบัญญัติให้แก่เขาว่าห้ามรับประทานต้นไม้กลางสวน แต่ในที่สุดทั้งคู่ก็พ่ายแพ้ และละเมิด ไม่เชื่อฟังพระเจ้า การไม่เชื่อฟังของเขาได้ส่งผลกระทบอย่างมากมาย

เฉลยธรรมบัญญัติ เป็นพระธรรมที่เขียนโดยโมเสส ก่อนที่ท่านจะเสียชีวิต พระเจ้าได้ทรงใช้โมเสสให้นำอิสราเอลออกจากอียิปต์ ต้องผ่านในถิ่นธุรกันดาร 40 ปี โมเสสได้เตือนย้ำให้อิสราเอลเชื่อฟังพระเจ้าเสมอ และในบทที่ 30 โมเสสได้พูดชัดเจนว่า

"ข้าพเจ้าขออัญเชิญสวรรค์และโลกให้เป็นพยานต่อท่านในวันนี้ว่า ข้าพเจ้าตั้งชีวิตและความตาย พระพรและคำสาปแช่งไว้ต่อหน้าท่าน เพราะฉะนั้นท่านจงเลือกเอาข้างชีวิตเพื่อท่านและลูกหลานของท่านจะได้มีชีวิตอยู่" (เฉลยธรรมบัญญัติ 30:19)

โมเสสเน้นชัดเจน ว่าให้อิสราเอลเลือกในข้างชีวิต การสอนรวีวารศึกษาก็เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นการสอนระดับใดก็ตาม จะต้องหนุนใจให้ผู้เรียนเลือกที่จะเชื่อฟังพระเจ้า เลือกเอาข้างชีวิต



"11 เพราะว่าพระบัญญัติซึ่งข้าพเจ้าบัญชาท่านในวันนี้ สำหรับท่านไม่ยากเกินไป และไม่ห่างเหินเกินไปด้วย
12 มิใช่พระบัญญัตินั้นอยู่บนสวรรค์ แล้วท่านจะกล่าวว่า 'ใครจะแทนเราขึ้นไปบนสวรรค์และนำมาให้เรา และกระทำให้เราได้ฟังและประพฤติตาม'
13 มิใช่อยู่พ้นทะเล ซึ่งท่านจะกล่าวว่า 'ใครจะข้ามทะเลไปแทนเราและนำมาให้เรา และกระทำให้เราได้ฟังและประพฤติตาม' " (เฉลยธรรมบัญญัติ 30:11-13)

พระบัญญัติของพระเจ้า ไม่ได้ยากจนเกินไป เราสามารถเข้าใจได้ แม้จะเข้าใจได้ยากในบางตอน แต่โดยรวมแล้ว เป็นสิ่งที่ไม่ได้ยากเกินกว่าที่เราจะเข้าใจ ไม่ได้ห่างไกลเกินไป เราสามารถทำได้ การเชื่อฟังพระบัญญัติของพระเจ้าแล้ว แท้จริงไม่ใช่สิ่งที่ยากเลย

การเชื่อฟัง จะว่าง่ายก็ง่าย จะว่ายากก็ยาก

อาดัมตอนที่อยู่ในสวนเอเดน จะพบว่า เพียงแค่ห้ามกินผลไม้กลางสวนเท่านั้น ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่ยากเลย แต่เพราะเขาชอบลอง ชอบสิ่งใหม่ ๆ จึงได้พลาดพลั้ง

ครั้งหนึ่งพระเยซูทรงสอนในเรือของเปโตร เมื่อสอนเสร็จแล้วพระองค์ทรงบอกเปโตรให้หว่านแหลงในน้ำ เปโตรก็ทูลต่อพระองค์ว่าพวกเขาได้จับปลาทั้งคืนยังไม่ได้ปลาเลย และแท้จริงแล้วเปโตรก็เป็นชาวประมง เชี่ยวชาญอย่างดี ตามสามัญสำนึกของเปโตรก็คือ คงจะจับไม่ได้หรอก แต่เปโตรก็ได้กระทำตามคำสั่งของพระเยซูคริสต์ และในที่สุดก็ได้ปลามากมาย

การเชื่อฟังนั้นง่ายหรือยาก? ถ้าหากขัดแย้งกับสามัญสำนึกก็อาจทำให้รู้สึกว่ายาก แต่ถ้าสอดคล้องกับสามัญสำนึกก็คงจะคิดว่าง่าย แต่เราจะต้องสลัดเอาสามัญสำนึกของเราออกไป เพื่อที่เราจะเชื่อฟังพระเจ้า



"แต่ถ้อยคำนั้นอยู่ใกล้ท่านทั้งหลายมาก อยู่ในปากของท่าน และอยู่ในใจของท่าน ฉะนั้นท่านจึงกระทำตามได้" (เฉลยธรรมบัญญัติ 30:14)

ถ้อยคำอยู่ในปาก หมายถึงว่า ได้ท่องพระคำของพระเจ้า ดังนั้น เราจึงควรที่จะให้เด็ก ๆ ท่องจำพระคัมภีร์ แม้ในระยะแรกจะดูเหมือนเป็นการท่องแบบนกแก้วนกขุนทอง แต่แท้จริงแล้วสิ่งเหล่านี้จะค่อย ๆ สะสมเข้าในใจของเขา สักวันหนึ่งเขาก็จะนำมาใช้ประโยชน์ได้

เมื่อเราใช้ปากพูดบ่อย ๆ ท่องบ่อย ๆ ก็จะเป็นการภาวนาพระวจนะคำของพระเจ้า และพระคำจะไม่ไกลจากปากของเราเลย

"แต่นี่จะเป็นพันธสัญญาซึ่งเราจะกระทำกับประชาอิสราเอลภายหลังสมัยนั้น พระเจ้าตรัสดังนี้แหละ เราจะบรรจุพระธรรมไว้ในเขาทั้งหลาย และเราจะจารึกมันไว้บนดวงใจของเขาทั้งหลายและเราจะเป็นพระเจ้าของเขา และเขาจะเป็นประชากรของเรา" (เยเรมีย์ 31:33)

พระธรรมของพระเจ้า ไม่ใช่เป็นเพียงกฎหมายหรือกฎเกณฑ์ ไม่ใช่คำสั่งหรือข้อห้าม แต่เป็นสิ่งที่ทำให้เรารู้ว่าสิ่งใดควรทำและสิ่งใดไม่ควรทำ พระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงอยู่ในเราและจะชี้นำชีวิตของเรา

"ถ้าท่านทั้งหลายเข้าสนิทอยู่ในเรา และถ้อยคำของเราฝังอยู่ในท่านแล้ว ท่านจะขอสิ่งใด ซึ่งท่านปรารถนาก็จะได้สิ่งนั้น" (ยอห์น 15:7)

นี่เป็นหลักการของคริสเตียนศึกษา ที่จะให้พระคำของพระเจ้าฝังอยู่ในใจของผู้เรียน ซึ่งเมื่อเป็นเช่นนี้ ก็จะทำให้ผู้เรียนสามารถกระทำตามได้

ดาวิดถูกกษัตริย์ซาอูลแกล้งบ่อย ๆ แต่ดาวิดก็เลือกที่จะเชื่อฟังพระเจ้า ซึ่งถ้าตามสามัญสำนึก เขาสามารถฆ่าซาอูลได้หลายครั้ง และก็เป็นการสมเหตุผลหากท่านจะทำเช่นนั้น แต่ดาวิดเลือกที่จะเชื่อฟังพระเจ้า เพราะเขาคิดว่า ซาอูลเป็นผู้ที่พระเจ้าทรงเจิมไว้ และท่านก็รู้ว่าเวลาที่ท่านจะเป็นกษัตริย์ยังมาไม่ถึง นี่เป็นตัวอย่างของการที่พระคำของพระเจ้าอยู่ที่ปาก และเข้าในใจ จนสามารถทำตามได้



"15 จงดูเถิด ในวันนี้ข้าพเจ้าได้วางชีวิตและสิ่งดี ความตายและสิ่งร้ายไว้ต่อหน้าท่าน
16 คือในการที่ข้าพเจ้าได้บัญชาท่านในวันนี้ ให้รักพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน ให้ดำเนินในพระมรรคาทั้งหลายของพระองค์และให้รักษาพระบัญญัติ และกฎเกณฑ์และกฎหมายของพระองค์ แล้วท่านจะมีชีวิตอยู่และทวีมากขึ้น และพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านจะอำนวยพระพรแก่ท่านในแผ่นดินซึ่งท่านเข้าไปยึดครองนั้น" (เฉลยธรรมบัญญัติ 30:15-16)

โมเสสไม่ได้ให้เราเลือกศาสนา แต่ให้เลือกความสัมพันธ์ระหว่างเรากับพระเจ้า ไม่ใช่เป็นพิธีกรรม ไม่ใช่เป็นเพียงการมาโบสถ์ แต่เป็นการมาเพื่ออยากฟังพระคำของพระเจ้า เราเลือกพระเจ้า เลือกชีวิต เลือกความสัมพันธ์

"นี่แน่ะ เรายืนเคาะอยู่ที่ประตู ถ้าผู้ใดได้ยินเสียงของเราและเปิดประตู เราจะเข้าไปหาผู้นั้นและจะรับประทานอาหารร่วมกับเขา และเขาจะรับประทานอาหารร่วมกับเรา" (วิวรณ์ 3:20)

การเลือกที่จะมีชีวิต ก็คือ เลือกที่จะมีความสัมพันธ์กับพระเจ้า



"17 ถ้าใจของท่านหันเหไปและท่านมิได้เชื่อฟัง แต่ถูกลวงให้ไปนมัสการพระอื่นและปรนนิบัติพระนั้น
18 ข้าพเจ้าขอประกาศแก่ท่านทั้งหลายในวันนี้ว่า ท่านทั้งหลายจะพินาศเป็นแน่ ท่านจะไม่มีชีวิตอยู่นานในแผ่นดินซึ่งท่านกำลังจะยกข้ามแม่น้ำจอร์แดนเข้าไปยึดครองนั้น" (เฉลยธรรมบัญญัติ 30:17-18)

โมเสสได้สอนชัดเจน ตรงประเด็นมาก เพราะเป็นการเลือกระหว่างชีวิตและความตาย พระพรและคำสาปแช่ง และข้อมูลของโมเสสที่มอบให้มีชัดเจน และสิ่งที่อิสราเอลต้องทำ คือ "เลือก"



"19 ข้าพเจ้าขออัญเชิญสวรรค์และโลกให้เป็นพยานต่อท่านในวันนี้ว่า ข้าพเจ้าตั้งชีวิตและความตาย พระพรและคำสาปแช่งไว้ต่อหน้าท่าน เพราะฉะนั้นท่านจงเลือกเอาข้างชีวิตเพื่อท่านและลูกหลานของท่านจะได้มีชีวิตอยู่
20 ด้วยมีความรักต่อพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน เชื่อฟังพระสุรเสียงของพระองค์ และติดพันอยู่กับพระองค์ กระทำเช่นนั้นจะได้ชีวิตและความยืนนาน เพื่อท่านจะได้อยู่ในแผ่นดินซึ่งพระเจ้าปฏิญาณแก่บรรพบุรุษของท่าน คือแก่อับราฮัม แก่อิสอัค และแก่ยาโคบ ว่าจะประทานแก่ท่านเหล่านั้น" (เฉลยธรรมบัญญัติ 30:19-20)

การเลือกพระเจ้า คือ เชื่อฟังพระองค์ และติดพันกับพระองค์ แล้วผลที่จะได้ก็คือ ชีวิต

ชีวิตของเราต้องปรารถนาที่จะติดสนิทกับพระเจ้า เราผู้เป็นผู้ใหญ่จะต้องสอนลูกหลานของเราให้เลือกพระเจ้า

เด็ก ๆ อาจได้ผ่านการบัพติสมาตั้งแต่เด็ก แต่เมื่อเขาโตขึ้นเขาจะต้องผ่านพิธีประกาศความเชื่อ เขาจะต้องเชื่อจริง ๆ

การเชื่อฟังอาจดูขัดแย้งกับสามัญสำนึกและเหตุผลของเรา

พี่น้องท่านหนึ่ง เขารักแฟนคนเดิมของเขามาก แต่เนื่องจากแฟนคนนั้นไม่เชื่อพระเจ้า หญิงคนนี้เลยมาปรึกษา ผู้ให้คำปรึกษาจะต้องให้ข้อมูลชัดเจน ว่าพระเจ้าทรงมีความปรารถนาเช่นไร หญิงคนนั้นก็พยายามต่อรอง ลองพยายามคบต่อไป แต่ผู้ให้ปรึกษาก็ได้บอกว่า หญิงคนนี้กำลังเล่นกับไฟ ถ้ายิ่งถลำลึกจะยิ่งเจ็บมาก สุดท้ายเขาก็เลือกที่จะเชื่อฟังพระเจ้า คือเลิกคบกับแฟนคนนี้ และในที่สุดเขาก็ได้แฟนคนใหม่ซึ่งเป็นคริสเตียน หญิงคนนี้ได้ขอบคุณพระเจ้า ว่าเขาได้เลือกสิ่งที่ถูกต้อง

คริสตจักรแห่งหนึ่ง สมาชิกคนหนึ่งได้มาบอกกับศิษยาภิบาลว่า เขาลำบากใจที่จะเลิกทำงานวันอาทิตย์มาก เพราะเป็นวันที่ลูกค้าเยอะ ศิษยาภิบาลก็ได้ท้าทายเชิญชวน เขาก็เชื่อฟัง และในที่สุดเขาก็ปิดวันอาทิตย์ ในที่สุด เขาก็ได้พบว่า พระเจ้าทรงอวยพร ให้เขามีลูกค้าจำนวนเพิ่มขึ้นในวันอื่น ลูกค้าไม่ได้ลดลงเลย

และการสอนที่สำคัญที่สุด คือ แบบอย่างของชีวิต ผู้ใหญ่ทำอย่างไร เด็กจะเรียนรู้ทำตาม เลียนแบบเช่นนั้น ถ้าเราเชื่อฟัง ลูกหลานของเราก็จะเชื่อฟังพระเจ้า



ศจ.ดร. อภิชาติ พูลศักดิ์วรสาร

สรุปคำเทศนาโบสถ์จีน คริสตจักรสะพานเหลือง

เมื่อวันที่ 24/05/2009

เรื่อง จงเลือกชีวิต

ไม่มีความคิดเห็น:

My Blog

  • วินัยของน้องหมา (ข้างถนน) - วันที่ 18/8/2011 เช้านี้ขณะที่รถติดไฟแดงอยู่บริเวณสี่แยกสามย่าน ซึ่งเบื้องหน้าเป็นจามจุรีสแควร์นั้น พลันก็เหลือบเห็นน้องหมาตัวหนึ่งเดินข้ามทางม้าลายด้วยอ...
    12 ปีที่ผ่านมา
  • บทความคริสเตียน - บทความคริสเตียน http://www.gracezone.org/index.php/christian-articles บทความทางด้านจิตวิญญาณ หลักข้อเชื่อ พระเจ้า พระคัมภีร์ พระเจ้า พระคัมภีร์ แนวทางในการ...
    15 ปีที่ผ่านมา
  • คริสเตียนกับการรับใช้พระเยซู - คริสเตียนกับการรับใช้พระเยซู วัน พุธ 08 ต.ค. 08@ 17:47:37 ICT หัวข้อ: สรุปคำเทศนาประจำอาทิตย์ ดร.ทะนุ วงค์ธนานุกุล วัน อาทิตย์ ที่ 21 กันยายน 2008 พระธร...
    15 ปีที่ผ่านมา
  • - แต่วาระนั้นใกล้เข้ามาแล้ว และบัดนี้ก็ถึงแล้ว คือเมื่อผู้ที่นมัสการอย่างถูกต้องจะนมัสการพระบิดา ด้วยจิตวิญญาณและความจริง เพราะว่าพระบิดาทรงแสวงหาคนเช่นนั้...
    15 ปีที่ผ่านมา

Christian Blog

บล็อกวาไรตี้

เทคโนโลยี

ดาวน์โหลดโปรแกรมมาใหม่ล่าสุด |

วาไรตี้

ข่าวประจำวัน

สารบัญเว็บไทย

กินลม ชมทะเล ที่มาร์คเฮ้าส์บังกะโล เกาะกูด จ.ตราด

Thailand Map