Custom Search By Google

Custom Search

วันอังคารที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

3. พี่เลี้ยง-น้องเลี้ยงฝ่ายวิญญาณ (ค่าย 3 in 1 คริสตจักรสะพานเหลือง)‏

เมื่อคืน ตอนที่ได้ชมการแสดงในคืน fun night ได้พบว่าน้อง ๆ มีศักยภาพเยอะแยะมาก สามารถทำอะไรได้มากมาย ทำให้นึกถึงพระคัมภีร์ข้อหนึ่ง คือ

"แล้วพระเจ้าตรัสว่า 'ดูเถิด คนเหล่านี้เป็นชนชาติเดียว มีภาษาเดียว นี่เป็นเพียงเบื้องต้นของสิ่งที่เขาจะทำ และเขาตั้งใจจะทำอะไรก็ทำได้ทั้งนั้น' " (ปฐมกาล 11:6)

แต่อยากจะขอเน้นว่า ศักยภาพของเรา จะต้องใช้เพื่อแผ่นดินของพระเจ้า อย่าใช้ไปกับกิจการงานของโลกนี้จนละเลยที่จะใช้ในแผ่นดินของพระเจ้า เช่นเดียวกับพลังงานปรมาณู ถ้าใช้ในทางที่ดี สามารถทำประโยชน์ได้มหาศาลมากทีเดียว สามารถใช้เพื่อสร้างไฟฟ้าได้ ใช้เป็นแหล่งพลังงานได้ แต่เมื่อนำไปใช้ในทางที่ผิด ก็จะสามารถทำอันตรายอย่างมากได้เช่นกัน

"1 ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงพิทักษ์ข้าพระองค์ไว้ เพราะข้าพระองค์ลี้ภัยอยู่ในพระองค์
2 ข้าพเจ้าทูลพระเจ้าว่า 'พระองค์ทรงเป็นองค์พระผู้เป็นเจ้าของข้าพระองค์ นอกเหนือพระองค์แล้ว ข้าพระองค์ไม่มีดีเลย' " (สดุดี 16:1-2)

เมื่อเวลามีปัญหา ขอที่เราจะเพ่งดูที่พระเจ้า แล้วเราจะได้รับสันติสุขที่พระเจ้าเท่านั้นที่สามารถให้เราได้ และโลกก็ไม่สามารถแย่งไปจากเราได้ พระวิญญาณของพระเจ้าอยู่ท่ามกลางเรา ทรงเคลื่อนไหว ทำงานในจิตใจของพวกเราที่นี่

วันนี้ อยากจะให้เราได้เห็นภาพของ พี่เลี้ยงน้องเลี้ยง และ เพื่อนฝ่ายวิญญาณ

สมัยที่ข้าพเจ้าเป็นอนุชน ก็มีเพื่อนฝ่ายวิญญาณ เวลามีปัญหาก็จะโทรหาเพื่อน ให้เพื่อนช่วยอธิษฐานเผื่อ คุยกับเขา ปรึกษากัน ซึ่งจะได้เห็นภาพของ "เตี้ยอุ้มค่อม" แต่ทำให้ได้ข้อคิดที่ดี ได้รับการอธิษฐานเผื่อ ได้กำลังใจมากขึ้น แต่ส่วนที่จะช่วยเราจริง ๆ ในการที่จะเติบโตกับพระเจ้า ก็คือ ส่วนของ "พี่เลี้ยง"

แม้ว่าในตอนนั้นข้าพเจ้าไม่มีพี่เลี้ยงเป็นตัวเป็นตน แต่มีพี่ ๆ หลายคนที่ให้คำปรึกษาที่ดี และทำให้ข้าพเจ้าได้เติบโตมาถึงจนทุกวันนี้ พี่เหล่านี้ มีใจอยากเห็นข้าพเจ้าเติบโตขึ้นกับพระเจ้า เขาช่วยข้าพเจ้าได้อย่างมากให้ผ่านเหตุการณ์ต่าง ๆ ในชีวิตมาได้

ครั้งหนึ่ง มีรุ่นพี่ท่านหนึ่ง ขับรถมาแต่ไกล เพียงเพื่อแค่เพื่อเอาการ์ดหนุนใจมาให้ข้าพเจ้า สิ่งที่เขาทำเป็นกำลังใจให้ข้าพเจ้าอย่างมาก แม้ว่าข้าพเจ้าจะจำไม่ได้ว่าข้อความนั้นกล่าวว่าอย่างไร แต่สิ่งที่เขาได้ทำนั้น ข้าพเจ้าไม่มีทางลืมได้เลย

แท้จริงแล้ว บทบาทของการเป็นพี่เลี้ยงเป็นสิ่งที่เข้มข้น เรามีความจำเป็นที่จะต้องมีพี่เลี้ยงแม้ว่าเราจะโตแล้ว ข้าพเจ้าเองก็ยังมีพี่เลี้ยง

ตอนที่ข้าพเจ้ากำลังจะไปเรียนต่อที่ประเทศแคนาดา แม้ว่าพี่เลี้ยงของข้าพเจ้าไม่ได้เป็นคนที่มีฐานะร่ำรวย แต่เขาก็ได้ทำงานพิเศษเพื่อที่จะหาเงินทุนให้ข้าพเจ้าในการไปเรียนต่อ เขามีอิทธิผลฝ่ายวิญญาณแก่ข้าพเจ้า ข้าพเจ้าเรียนรู้การอดอาหารอธิษฐานจากเขา เขาสอนข้าพเจ้าเสมอว่า เราจะต้องลงทุน เพราะเราลงทุนในสิ่งใด เราก็จะได้เก็บเกี่ยวในสิ่งนั้น ดังนั้น ถ้าหากเราต้องการเติบโตฝ่ายวิญญาณ เราก็ต้องลงทุนในด้านฝ่ายวิญญาณ

เมื่อข้าพเจ้ามีปัญหาอะไร จะเล่าให้เขาฟังเสมอ และเขาก็จะอธิษฐานเผื่อเสมอ แม้แต่ตอนที่ข้าพเจ้ากำลังจะเลือกคู่ครอง ข้าพเจ้าก็พาแฟนไปรู้จักกับเขา ไปคุยกับเขา และเวลาที่เขาห้ามอะไรข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจะฟังเสมอ จะเชื่อฟัง และเมื่อเขาทักท้วงในสิ่งใด ข้าพเจ้าจะพิจารณาอย่างจริงจัง ข้าพเจ้าต้องการเติบโตฝ่ายวิญญาณโดยผ่านทางชีวิตของเขา ทุกครั้งที่ข้าพเจ้าต้องการเวลา เขาก็พร้อมที่จะให้เขาเสมอ เขาเป็นแบบอย่างที่สามารถเห็นได้จากชีวิตของเขา ทำให้เห็นภาพของพี่เลี้ยงน้องเลี้ยงได้อย่างดี

บางครั้งเพื่อนไม่สามารถช่วยเราได้ เพราะว่าจิตวิญญาณระดับเดียวกัน ความรู้ในพระคัมภีร์เท่ากัน ถ้าหากเราต้องการพัฒนาในฝ่ายวิญญาณ เราจำเป็นต้องหาคนที่มีประสบการณ์มากกว่าเรา มีความเป็นผู้ใหญ่ทางฝ่ายวิญญาณมากกว่าเรา เป็นผู้ที่จะสามารถช่วยเราให้เติบโตขึ้นได้ ช่วยในปัญหาของเราได้ แม้เป็นปัญหาที่เราไม่สามารถบอกใครได้

บทบาทของการเป็นพี่เลี้ยงน้องเลี้ยง เป็นบทบาทของการฟูมฟัก เลี้ยงดู เพื่อที่น้องเลี้ยงจะเติบโต และในที่สุดแล้ว น้องเลี้ยงเองก็จะมีประสบการณ์มากกว่าพี่เลียง มีความรู้ทางพระคัมภีร์มกากว่าพี่ และเติบโต มีอิทธิพลต่อคนรอบข้างมากพี่เลี้ยงเสียอีก เพราะพี่เลี้ยงทุกคนย่อมอยากจะเห็นน้องเลี้ยงเป็นเช่นนั้น อยากเห็นน้องเลี้ยงได้เติบโตมากกว่าพี่เลี้ยงอย่างแน่นอน

พระคัมภีร์ได้ให้ภาพของการเป็นพี่เลี้ยงน้องเลี้ยงอย่างมากมาย เช่น เอลียาห์และเอลีชา และในพระคัมภีร์ใหม่ ก็ได้ให้ภาพที่ชัดเจน คือ บารนาบัส และเปาโล

แม้ว่าเซาโลจะมีชื่อเสียงในเรื่องการข่มเหงคริสเตียนอย่างมาก แต่เขาก็ได้มีประสบการณ์กับพระเจ้า ได้กลับใจเป็นคริสเตียน ได้รับการเปลี่ยนชื่อเป็นเปาโล หลังจากเปาโลกลับใจเป็นคริสเตียน เขากระตือรือร้นอย่างมาก แต่ว่าก็ไม่มีใครไว้ใจเขา อย่างไรก็ตาม มีผู้หนึ่งที่วางใจเขา และรับรองของเขา นั่นก็คือ บารนาบัส

บารนาบัสเป็นคนที่กอปรด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์ เป็นคนที่ใกล้ชิดพระเจ้า เขามีลักษณะบางอย่างที่ทำให้คนรอบข้างสัมผัสได้

ช่วงหนึ่งที่อันทิโอก บารนาบัสพาเปาโลไปด้วย และรับใช้ด้วยกัน เวลานั้นเป็นช่วงเวลาที่บารนาบัสสร้างเปาโล และหลังจากนั้น เปาโลก็ได้มีโอกาสที่ได้เลี้ยงดูผู้อื่นเช่นกันในบริบทของการรับใช้

การที่เรามีโอกาสได้ออกไปรับใช้ด้วยกัน โดยเฉพาะถ้าได้ไปกับพี่เลี้ยง จะเป็นโอกาสที่เราจะได้สร้างชีวิตอย่างมากมาย ช่วงเวลาเหล่านั้นจะเป็นช่วงเวลาที่สนุกมาก แม้อาจจะยากลำบาก แต่ก็ได้รับใช้ และได้เห็นถึงการอัศจรรย์ของพระเจ้า ได้เห็นคนกลับใจมารู้จักกับพระเจ้า ได้เห็นคนรับการรักษาโรค ทำให้เราได้รับกำลังอย่างมากมาย ได้เรียนรู้สิ่งต่าง ๆ จากพี่เลี้ยงอย่างมาก ได้เห็นถึงการตอบสนองต่อเหตุการณ์ต่าง ๆ ได้เห็นการตอบคำถาม การแก้ปัญหาต่าง ๆ ซึ่งสิ่งเหล่านี้เราสามารถเรียนรู้ได้ผ่านทางการรับใช้

ในพระธรรมกิจการ จะเห็นได้ว่า นอกจากจะมีการอธิษฐาน นมัสการร่วมกันแล้ว เรายังได้เห็นภาพของการร่วมกันออกไปรับใช้ด้วย และได้เห็นภาพของพี่เลี้ยงน้องเลี้ยงอย่างชัดเจน

เอลียาห์และเอลีชา เป็นพี่เลี้ยงน้องเลี้ยงกัน เอลีชารับใช้เอลียาห์ เอลีชาติดตามเอลียาห์ เรียนรู้จากชีวิตของท่าน รับใช้ร่วมกัน จนกระทั่งวันที่เอลียาห์จะถูกรับขึ้นไป เอลีชาได้ขอสิ่งหนึ่งจากเอลียาห์

"และอยู่มาเมื่อท่านทั้งสองข้ามไปแล้ว เอลียาห์จึงพูดกับเอลีชาว่า 'จงขอสิ่งที่อยากให้ข้าพเจ้าทำเพื่อท่านก่อนที่ข้าพเจ้าจะถูกรับไปจากท่าน' และเอลีชาตอบว่า 'ขอให้ฤทธิ์เดชของท่านอยู่กับข้าพเจ้าตามส่วนสิทธิบุตรหัวปี' " (2พงษ์กษัตริย์ 2:9)

สิทธิบุตรหัวปี หมายถึงพรที่เป็นสองเท่า แล้วในที่สุดเขาก็ได้ตามที่ปรารถนา

เช่นเดียวกัน น้องเลี้ยง ถ้าหากอยากจะได้เติบโต จะต้องทำอะไรบางอย่าง จะต้องยอมรับใช้พี่เลี้ยง จะต้องติดตามพี่เลี้ยงไปตลอด

ถ้าหากเราไม่อยากได้ ถ้าหากเราไม่ลงทุน เราก็จะไม่ได้รับในสิ่งที่ต้องการ แม้ว่าเราจะได้พี่เลี้ยงที่ดีขนาดไหนก็ตาม น้องเลี้ยงก็จะไม่ได้เติบโตถ้าหากไม่มีใจที่จะเรียนรู้และลงทุนในทางฝ่ายวิญญาณ

ชีวิตของน้องเลี้ยงจะได้รับพรอย่างมากมาย จะได้เติบโตขึ้นทางฝ่ายวิญญาณ จะไม่จำเป็นต้องเรียนในหลายสิ่งที่พี่เลี้ยงของเราเรียนมาแล้ว แต่จะได้เรียนรู้สิ่งต่าง ๆ มากขึ้น มีประสบการณ์ที่ลึกซึ้งมากกว่าพี่ เพื่อแผ่นดินของพระเจ้าจะได้ขยายออก

พระเยซูคริสต์ทรงอธิษฐานเพื่อสาวกของพระองค์ ในช่วงที่ใกล้ที่พระองค์จะต้องถูกตรึงที่กางเขน

"บัดนี้ข้าพระองค์จะไม่อยู่ในโลกนี้อีก แต่พวกเขายังอยู่ในโลกนี้ และข้าพระองค์กำลังจะไปหาพระองค์ ข้าแต่พระบิดาผู้บริสุทธิ์ ขอพระองค์ทรงโปรดพิทักษ์รักษาบรรดาผู้ที่พระองค์ได้ประทานแก่ข้าพระองค์ไว้โดยพระนามของพระองค์ เพื่อเขาจะได้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน เหมือนดังข้าพระองค์กับพระองค์" (ยอห์น 17:11)

พระเยซูคริสต์ทรงห่วงเราทั้งหลาย ทรงอธิษฐานเพื่อเราทั้งหลาย เพื่อที่เราจะเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน เพื่อที่เราจะรักกัน ซึ่งไม่ได้หมายความว่าจะต้องคิดเหมือนกันทุกอย่าง ทำอะไรเหมือนกันทุกอย่าง เราสามารถที่จะมีความแตกต่างกันได้ แต่อยู่ร่วมกัน เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ในความแตกต่างของเรา เราจะรู้ว่าเราเป็นกายเดียวกัน อวัยวะแต่ละส่วนก็รับใช้ซึ่งกันและกัน

โดยปกติแล้ว อวัยวะแต่ละส่วนจะไม่มีการอิจฉาซึ่งกันและกัน เพราะเมื่ออวัยวะส่วนใดได้ดี ทั้งร่างกายก็ชื่นชมยินดี เพราะเราเป็นกายเดียวกัน

คริสตจักรไม่ใช่อาคาร แค่คริสตจักรคือเราทั้งหลายซึ่งเป็นผู้เชื่อ

เมื่อเราเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน เราจะมีพลังที่จะต่อต้านกระแสของโลกนี้ จะเป็นภาพของคริสตจักรที่พระเจ้าใฝ่ฝันให้เราเป็น เป็นสิ่งที่จะทำให้เราปลอดภัย

เราไม่ใช่ของโลกนี้ เราแตกต่างจากโลก กระแสของโลกนี้แรงมาก และเราจะต้องต้านกระแสโลก ถ้าหากเราดำเนินตามกระแสโลก เราจะไม่สามารถที่จะมีอิทธิพลที่จะนำแผ่นดินของพระเจ้ามาในโลกนี้ได้

เปรียบเทียบกับฝูงสัตว์และกอหญ้า คือ บรรดาสิงโตจะล่าเหยื่อที่หลงออกจากฝูง และกอหญ้าที่เมื่ออยู่ด้วยกันในแม่น้ำ มันจะมีแรงที่จะยึดกันและกัน และสามารถอยู่ต้านกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวได้

เราทุกคนเป็นส่วนของกันและกัน มีกายเดียวกัน ที่มีพระเยซูคริสต์เป็นศีรษะ ขอที่เราจะพิจารณาคำอธิษฐานของพระเยซูคริสต์ เพื่อที่เราจะเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน เพื่อที่เราจะมีชีวิตที่เป็นแบบอย่าง มีอิทธิพล เป็นพรแก่สังคมไทย

อยากให้เรามีภาพที่ไกล มีผลต่อการขยายของแผ่นดินของพระเจ้า อยากให้เราเอาตัวของเราเข้ามาในพระกายที่มีพระคริสต์เป็นศีรษะ

คนที่อยากมีพี่เลี้ยง ก็ขอหนุนใจที่จะอธิษฐานขอพระเจ้าที่จะจัดเตรียม ส่วนคนที่จะต้องเป็นพี่เลี้ยงก็ขอให้อธิษฐานที่จะมีกำลัง

สิ่งที่งดงามที่สุด คือ การทำงานในชีวิตของคน ทำให้คนได้เกิดผล ได้รับการเปลี่ยนแปลง ชีวิตของเขางดงาม มีผลกระทบที่ยิ่งใหญ่ต่อสังคม แม้จะเป็นงานที่ไม่มีใครเห็น แต่มนุษย์เป็นทรัพยากรที่มีคุณค่ามากที่สุด

ถ้าเราเติบโตขึ้นกับพระเจ้า ได้รับการแนะนำในทิศทางที่ถูกต้อง ในทางที่เป็นประโยชน์ เราก็จะได้เห็นภาพอันยิ่งใหญ่เกิดในท่ามกลางเรา



อ. ตรูจิตต์ นีเดอร์เรอร์

สรุปคำเทศนาในค่ายสามคณะ "3 in 1" คริสตจักรสะพานเหลือง

ที่บ้านไร่ริมแควรีสอร์ท

เมื่อวันที่ 10/05/2009

เรื่อง พี่เลี้ยง-น้องเลี้ยงฝ่ายวิญญาณ

ไม่มีความคิดเห็น:

My Blog

  • วินัยของน้องหมา (ข้างถนน) - วันที่ 18/8/2011 เช้านี้ขณะที่รถติดไฟแดงอยู่บริเวณสี่แยกสามย่าน ซึ่งเบื้องหน้าเป็นจามจุรีสแควร์นั้น พลันก็เหลือบเห็นน้องหมาตัวหนึ่งเดินข้ามทางม้าลายด้วยอ...
    12 ปีที่ผ่านมา
  • บทความคริสเตียน - บทความคริสเตียน http://www.gracezone.org/index.php/christian-articles บทความทางด้านจิตวิญญาณ หลักข้อเชื่อ พระเจ้า พระคัมภีร์ พระเจ้า พระคัมภีร์ แนวทางในการ...
    15 ปีที่ผ่านมา
  • คริสเตียนกับการรับใช้พระเยซู - คริสเตียนกับการรับใช้พระเยซู วัน พุธ 08 ต.ค. 08@ 17:47:37 ICT หัวข้อ: สรุปคำเทศนาประจำอาทิตย์ ดร.ทะนุ วงค์ธนานุกุล วัน อาทิตย์ ที่ 21 กันยายน 2008 พระธร...
    15 ปีที่ผ่านมา
  • - แต่วาระนั้นใกล้เข้ามาแล้ว และบัดนี้ก็ถึงแล้ว คือเมื่อผู้ที่นมัสการอย่างถูกต้องจะนมัสการพระบิดา ด้วยจิตวิญญาณและความจริง เพราะว่าพระบิดาทรงแสวงหาคนเช่นนั้...
    15 ปีที่ผ่านมา

Christian Blog

บล็อกวาไรตี้

เทคโนโลยี

ดาวน์โหลดโปรแกรมมาใหม่ล่าสุด |

วาไรตี้

ข่าวประจำวัน

สารบัญเว็บไทย

กินลม ชมทะเล ที่มาร์คเฮ้าส์บังกะโล เกาะกูด จ.ตราด

Thailand Map