Custom Search By Google

Custom Search

วันศุกร์ที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

มิตรภาพกับคนรอบกาย

มิตรภาพกับคนรอบกาย
draft2 นพ.สุทิตต์ กุลสรรค์ศุภกิจ 250509

• ความสัมพันธ์ระหว่างเรากับผู้อื่น เป็นสิ่งที่น่าเรียนรู้ น่าศึกษาเป็นอย่างยิ่ง
• เราไม่สามารถอยู่คนเดียวได้ในโลกนี้
• การอยู่ร่วมกันอย่างเหมาะสม จึง ควรจะ
o ไม่ก่อปัญหา ทั้งกับตัวเราและกับผู้อื่น
o เสริมสร้าง เกื้อกูล หนุนใจ
o มีความสุข
• เมื่อรู้จักพระเจ้า พระองค์เข้ามาเปลี่ยนความคิดของเรา ในความสัมพันธ์ และการอยู่ร่วมกับคนอื่น
• ดูจากต้นแบบในชีวิตของพระเยซู ทรงเป็นแบบอย่าง ในการอยู่ร่วมกับผู้อื่น
• ดูแบบอย่างจากพฤติการณ์ ย้อนกลับไปที่ท่าที ความคิดที่ถูกต้องต่อผู้อื่น ทั้งคนที่เรารู้จักและไม่รู้จัก
• เราจะเรียนรู้ประพฤติปฏิบัติตามได้อย่างเป็นพร หากมีพระเยซูคริสต์เป็นศูนย์กลางก่อน มอบถวายชีวิตก่อน แล้วนำมาประพฤติปฏิบัติจริงในชีวิต เหมือนกับที่พระองค์เป็นแบบให้กับเรา

1. เรียนรู้ที่จะรักผู้อื่น
• คนปกติรักตัวเองอยู่แล้ว เรื่องรักตัวเองจึงไม่จำเป็นต้องสอน
• แต่การรู้จักรักผู้อื่น จึงเป็นสิ่งที่ต้องเรียนรู้
• ความรักเป็นพลังขับเคลื่อนแท้ ในความสัมพันธ์กับคนอื่น
• แสดงออกทั้งคำพูดและการกระทำ
• ถ้าทำโดยไม่มีรากที่ความรัก จะทำให้ความสัมพันธ์นั้น
o ทำได้ไม่นาน
o ทำแล้วทุกข์
• ถ้าทำด้วยรักจะทำอย่างมีความสุข
• ความรักเป็นคุณธรรมเบื้องต้น แรกที่สุดในทุกความสัมพันธ์
• บัญญัติใหญ่ที่สุดคือให้รัก
• ท่าทีแห่งรัก จึงเป็นท่าทีที่ชนะอุปสรรค ปัญหาทั้งปวง
• หลายครั้งเพราะรักไม่พอ หรือ ไม่ได้รัก ทำให้ทำไม่ได้
• รักอย่างถูกต้อง ไม่ใช้หลับหูหลับตา รักไม่ได้เริ่มต้นจากตัวเอง หลายครั้งบอกว่ารักคนอื่น แต่แท้ที่จริงรักตัวเอง
• ท่าที่แห่งรัก ต้องถูกต้อง กว้างขวาง ถูกบริบท ไม่ผิดบาป ไม่เอาตัวเองเป็นที่ตั้ง
• คนที่ไม่มีความรัก ไม่ผ่านด่านแรก ไม่ได้มาจากพระเจ้าจริง
1ยอห์น 4:7-16 7 ท่านที่รักทั้งหลาย ขอให้เรารักซึ่งกันและกัน เพราะว่าความรักมาจากพระเจ้า และทุกคนที่รักก็บังเกิดมาจากพระเจ้า และรู้จักพระเจ้า
8 ผู้ที่ไม่รักก็ไม่รู้จักพระเจ้า เพราะว่าพระเจ้าทรงเป็นความรัก
• พระเจ้าเป็นแบบอย่างก่อน
9 โดยข้อนี้ความรักของพระเจ้าก็เป็นที่ประจักษ์แก่เราทั้งหลาย คือพระเจ้าทรงใช้พระบุตรองค์เดียวของพระองค์เข้ามาในโลกเพื่อเราทั้งหลายจะได้ดำรงชีวิตโดยพระบุตร
10 ความรักที่ข้าพเจ้าพูดถึงนี้มิใช่ที่เรารักพระเจ้า แต่ที่พระองค์ทรงรักเรา และทรงใช้พระบุตรของพระองค์มา ทรงเป็นผู้ลบล้างพระอาชญาที่ตกกับเราทั้งหลายเพราะบาปของเรา
• เราควรเรียนแบบพระเจ้า
11 ท่านที่รักทั้งหลาย ถ้าพระเจ้าทรงรักเราทั้งหลายเช่นนั้น เราก็ควรจะรักซึ่งกันและกันด้วย
12 ไม่มีผู้ใดเคยเห็นพระเจ้า ถ้าเราทั้งหลายรักซึ่งกันและกัน พระเจ้าก็ทรงสถิตอยู่ในเราทั้งหลาย และความรักของพระองค์ก็สมบูรณ์อยู่ในเรา
13 ดังนี้แหละเราทั้งหลายจึงรู้ว่า เราอยู่ในพระองค์และพระองค์ทรงสถิตอยู่ในเรา เพราะพระองค์ได้ทรงโปรดประทานพระวิญญาณของพระองค์เองแก่เรา
14 และเราทั้งหลายได้เห็นและเป็นพยานว่า พระบิดาได้ทรงใช้พระบุตรมาเป็นผู้ช่วยมนุษย์โลกให้รอด
• เป็นการยืนยันความเป็นลูกของพระองค์
15 ผู้ใดยอมรับว่า พระเยซูทรงเป็นพระบุตรของพระเจ้า พระเจ้าก็จะทรงสถิตอยู่ในคนนั้น และคนนั้นอยู่ในพระเจ้า
16 ฉะนั้นเราทั้งหลายจึงรู้ และเชื่อในความรักที่พระเจ้าทรงมีต่อเรา พระเจ้าทรงเป็นความรัก และผู้ใดที่อยู่ในความรักก็อยู่ในพระเจ้า และพระเจ้าก็ทรงสถิตอยู่ในผู้นั้น

2. เรียนรู้ที่จะเป็นผู้ให้

• อยากสัมพันธ์กับคนอื่น ต้องเริ่มต้นก่อน ไม่ใช่รอคอยให้เกิดขึ้นเอง จะรอถึงเมื่อไหร่
• สัมพันธ์กับผู้อื่น ต้องให้เขา ไม่ใช่เอาแต่ตัวเอง
• ให้ความช่วยเหลือ เอาใจเขามาใส่ใจเรา
• ในโลกปัจจุบันที่ความช่วยเหลือจากคนนอกกลุ่มหายากเต็มที
• มีแต่แก่งแย่ง หาประโยชน์ใส่ตัว หลอกลวง
• ระวังตัวแจใครจะมาช่วงชิง หลอกเรา ตัดแข้งตัดขาตลอดเวลา
• ต้องเป็นผู้ให้อย่างมีสติปัญญา แต่ไม่เป็นเหตุที่ไม่ให้อะไรเลย
• เราให้อะไรใครบ้าง มากน้อยแค่ไหน
• คนที่เราให้เป็นใคร รู้จักกันหรือไม่ ให้บ่อยแค่ไหน ปีละครั้ง เมื่อวานนี้
• เรียนรู้พระคัมภีร์อย่างถูกต้อง เพื่อให้สามารถให้ได้อย่างถูกต้องไม่ใช่ค้นหาแต่ข้อตำหนิเพื่อจะไม่ให้เขา
• ท่าทีในการให้ต้องปรับ นำมาใช้ให้ถูกต้อง จึงจะเติบโตได้ในความเชื่อ มิเช่นนั้นเป็นอุปสรรคในการเติบโต

• การให้เป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่และทรงพลังมาก
• เริ่มจากมีผู้หนึ่งที่ให้ สร้างบรรยากาศความรักเอื้ออาทรต่อกัน ทำให้ทั้งชุมชนกลายเป็นชุมชนที่มีน้ำใจต่อกัน
• ชีวิต คริสเตียน เกิดขึ้นได้จากการที่พระเยซูคริสต์ทรงให้เราก่อน โดยทรงยอมตายเพื่อเรา
• อย่าให้การให้ของพระองค์หยุดอยู่เพียงชีวิตของเรา

รม5:6-8 6 ขณะเมื่อเรายังขาดกำลัง พระคริสต์ก็ได้ทรงสิ้นพระชนม์เพื่อช่วยคนบาปในเวลาที่เหมาะสม
7 ไม่ใคร่จะมีใครตายเพื่อคนตรง แต่บางทีจะมีคนอาจตายเพื่อคนดีก็ได้
8 แต่พระเจ้าทรงสำแดงความรักของพระองค์แก่เราทั้งหลาย คือขณะที่เรายังเป็นคนบาปอยู่นั้น พระคริสต์ได้ทรงสิ้นพระชนม์เพื่อเรา

1ยน3:16 ดังนี้แหละเราจึงรู้จักความรัก โดยที่พระองค์ได้ทรงยอมสละพระชนม์ของพระองค์เพื่อเราทั้งหลาย และเราทั้งหลายก็ควรจะสละชีวิตของเราเพื่อพี่น้อง

• การให้ที่แท้จริง จะเป็นเหตุให้เกิดสุขทั้งต่อผู้ให้และผู้รับ

กจ20:35 ข้าพเจ้าได้วางแบบอย่างไว้ให้ท่านทุกอย่างแล้ว ให้เห็นว่าโดยทำงานเช่นนี้ควรจะช่วยคนที่มีกำลังน้อย ระลึกถึงพระวาทะของพระเยซูเจ้า ซึ่งพระองค์ตรัสว่า 'การให้เป็นเหตุให้มีความสุขยิ่งกว่าการรับ'



3. เรียนรู้ที่จะปฏิเสธ

• คนส่วนใหญ่ปฏิเสธแต่สิ่งที่ตนไม่ชอบ
• การปฏิเสธที่ถูกต้อง คือ
o ปฏิเสธสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เพราะทำความเสียหาย ทั้งตัวเขา และตัวเราที่มีส่วนร่วม
o ปฏิเสธความสัมพันธ์ที่ไม่ถูกต้อง เพราะจะไม่ยั่งยืนนาน

1คร13:6 ความรักไม่ชื่นชมยินดีเมื่อมีการประพฤติผิด แต่ชื่นชมยินดีเมื่อประพฤติชอบ

• พระเจ้าปรารถนาให้เราปฏิเสธสิ่งที่เป็นภัยต่อตัวเรา ต่อพี่น้อง ต่อคริสจักร
• ปฏิเสธ ลัทธิเทียมเท็จ สอนผิด ทั้งในและนอก คริสจักร ค่านิยมโลกต่างๆ

กิจการของอัครทูต 4:18-20
18 เขาจึงเรียกเปโตรและยอห์นมาแล้วห้ามปรามเด็ดขาดไม่ให้พูด หรือสอนออกพระนามของพระเยซูอีกเลย
19 ฝ่ายเปโตรกับยอห์นตอบเขาว่า "จำเพาะพระพักตร์พระเจ้าข้าพเจ้าควรจะเชื่อฟังท่าน หรือควรจะเชื่อฟังพระเจ้าขอท่านทั้งหลายพิจารณาดู
20 ซึ่งข้าพเจ้าจะไม่พูดตามที่เห็นและได้ยินนั้นก็ไม่ได้"

กาลาเทีย 2:11-14 11 แต่เมื่อเคฟาสมาถึงอันทิโอกแล้ว ข้าพเจ้าก็ได้คัดค้านท่านซึ่งๆหน้า เพราะว่าท่านทำผิดแน่
12 ด้วยว่าก่อนที่คนของยากอบมาถึงนั้น ท่านได้กินอยู่ด้วยกันกับคนต่างชาติ แต่พอคนพวกนั้นมาถึง ท่านก็ปลีกตัวออกไปอยู่เสียต่างหาก เพราะกลัวพวกที่ถือพิธีเข้าสุหนัต
13 และพวกยิวคนอื่นๆก็ได้แสร้งทำตามท่าน แม้แต่บารนาบัสก็หลงแสร้งทำตามคนเหล่านั้นไปด้วย
14 แต่เมื่อข้าพเจ้าเห็นว่า เขาไม่ได้ประพฤติตรงตามความจริงของข่าวประเสริฐนั้น ข้าพเจ้าจึงว่าแก่เคฟาสต่อหน้าคนทั้งปวงว่า "ถ้าท่านเองซึ่งเป็นพวกยิว ประพฤติตามอย่างคนต่างชาติ ไม่ใช่ตามอย่างพวกยิว เหตุไฉนท่านจึงบังคับคนต่างชาติ ให้ประพฤติตามอย่างพวกยิวเล่า"

2ทิโมธี 2:22-25 22 ดังนั้นท่านจงหลีกหนีเสียจากราคะตัณหาของคนหนุ่ม และจงใฝ่ในทางธรรม ในความเชื่อ ความรัก และสันติสุขร่วมกับผู้ที่ออกพระนามขององค์พระผู้เป็นเจ้าด้วยใจบริสุทธิ์
23 อย่าข้องแวะกับปัญหาอันโง่เขลาและไม่เป็นสาระ ด้วยรู้แล้วว่าปัญหาเหล่านั้นก่อให้เกิดการทะเลาะวิวาทกัน
24 ฝ่ายผู้รับใช้ขององค์พระผู้เป็นเจ้าต้องไม่เป็นคนที่ชอบการทะเลาะวิวาท แต่ต้องมีใจเมตตาต่อทุกคน เป็นครูที่เหมาะสมและมีความอดทน
25 ชี้แจงให้ฝ่ายตรงกันข้ามเข้าใจด้วยความสุภาพ ว่าพระเจ้าอาจจะทรงโปรดให้เขากลับใจ และมาถึงซึ่งความจริง

2ทิโมธี 3:1-6 1 แต่จงเข้าใจข้อนี้ คือว่าในสมัยจะสิ้นยุคนั้น จะเกิดเหตุการณ์กลียุค
2 เพราะมนุษย์จะเห็นแก่ตัว เห็นแก่เงิน เย่อหยิ่ง ยโส ชอบด่าว่า ไม่เชื่อฟังคำบิดามารดา อกตัญญู ไร้ศีลธรรม
3 ไร้มนุษยธรรม ไม่ให้อภัยกัน ใส่ร้ายกัน ไม่ยับยั้งชั่งใจ ดุร้าย เกลียดชังความดี
4 ทรยศมุทะลุ หัวสูง รักความสนุกยิ่งกว่ารักพระเจ้า
5 ถือศาสนาแต่เปลือกนอก ส่วนแก่นแท้ของศาสนาเขาไม่ยอมรับ คนเช่นนั้นท่านอย่าคบ
6 เพราะในบรรดาคนเหล่านั้น มีคนที่แอบไปตามบ้าน แล้วลวงหญิงที่เบาปัญญาหนาด้วยบาป และหลงใหลไปด้วยตัณหาต่างๆไปเป็นเชลย

4. เรียนรู้ที่จะขอ

• ไม่มีใครอยู่ได้คนเดียว โดยไม่ต้องพึ่งพาใครเลย ต้องมีคนปลูกข้าว คนสร้างถนน ผลิตไฟฟ้าให้เราใช้
• เราจึงต้องเรียนรู้ที่จะขอ
o ในสิ่งที่ถูกต้อง
o ในทางที่ถูกต้อง ด้วยวิธีการที่ถูกต้อง
o พอเหมาะพอสม
• ไม่ใช่ อยากได้แต่ใช้เวิธีการผิด ๆ เช่น โต้เถียง หาเหตุผล ทำให้อาย แบล็คเมล์ วิจารณ์ ข่มขู่จะแฉ ซึ่งคริสเตียนทำไม่ได้

• พระเจ้าสอนให้เราเรียนรู้ ขอสิ่งที่ถูกต้อง ด้วยท่าทีที่ถูกต้อง ไม่ใช่ด้วยแรงจูงใจอื่น ไม่ใช่ด้วยแรงจูงใจที่ผิด

มัทธิว 6:5-8 5 "เมื่อท่านทั้งหลายอธิษฐาน อย่าเป็นเหมือนคนหน้าซื่อใจคด เพราะเขาชอบยืนอธิษฐานในธรรมศาลาและตามถนน เพื่อจะให้คนทั้งปวงได้เห็น เราบอกความจริงแก่ท่านว่าเขาได้รับบำเหน็จของเขาแล้ว
6 ฝ่ายท่านเมื่ออธิษฐานจงเข้าในห้องชั้นใน และเมื่อปิดประตูแล้ว จงอธิษฐานต่อพระบิดาของท่านผู้ทรงสถิตในที่ลี้ลับ และพระบิดาของท่านผู้ทรงเห็นในที่ลี้ลับจะทรงโปรดประทานบำเหน็จแก่ท่าน
7 "แต่เมื่อท่านอธิษฐานอย่าพูดพล่อยๆซ้ำซาก เหมือนคนต่างชาติกระทำเพราะเขาคิดว่าพูดมากหลายคำ พระจึงจะทรงโปรดฟัง
8 อย่าทำเหมือนเขาเลย เพราะว่าสิ่งไรซึ่งท่านต้องการ พระบิดาของท่านทรงทราบก่อนที่ท่านทูลขอแล้ว

ยก4:3 ท่านขอและไม่ได้รับ เพราะท่านขอผิด หวังได้ไปเพื่อสนองกิเลสตัณหาของท่าน

• ในสัมพันธภาพกับเพื่อน ต้องเรียนรู้จักขออย่างพอเหมะ ไม่ใช่ ขอทุกอย่างที่ขวางหน้า ขอทุกสิ่งที่ต้องการ แม้พระเจ้าให้เราขอแล้วจะได้ แต่เพื่อนของเราไม่ใช่พระเจ้า
• หากจะขอทุกเรื่องให้ขอจากพระเจ้าเอง เป็นบริบทการร้องทูลต่อพระองค์

มัทธิว 7:7 "จงขอแล้วจะได้ จงหาแล้วจะพบ จงเคาะแล้วจะเปิดให้แก่ท่าน
8 เพราะว่าทุกคนที่ขอก็ได้ ทุกคนที่แสวงหาก็พบ ทุกคนที่เคาะก็จะเปิดให้เขา
9 ในพวกท่านมีใครบ้างที่จะเอาก้อนหินให้บุตร เมื่อเขาขอขนมปัง
10 หรือให้งูเมื่อบุตรขอปลา
11 เหตุฉะนั้น ถ้าท่านทั้งหลายเองผู้เป็นคนบาป ยังรู้จักให้ของดีแก่บุตรของตน ยิ่งกว่านั้นสักเท่าใดพระบิดาของท่านผู้ทรงสถิตในสวรรค์ จะประทานของดีแก่ผู้ที่ขอต่อพระองค์
12 จงปฏิบัติต่อผู้อื่นอย่างที่ท่านปรารถนาให้เขาปฏิบัติต่อท่าน นั่นคือธรรมบัญญัติ และคำสั่งสอนของบรรดาผู้เผยพระวจนะ

• บางคนไม่ขอ กลัว หยิ่ง อาย
• ต้องเรียนรู้ในการแก้ปัญหา รู้จักขออย่างเหมาะสม
• เรียนรู้จักรับอย่างเหมาะสม เพื่อคนจะสามารถให้ได้
• หากไม่มีผู้รับ คนให้ก็ไม่สามารถให้ได้
• หากไม่มีผู้ให้ก็ไม่มีผู้รับเช่นกัน
• จึงต้องเรียนรู้ เป็นเรื่องละเอียดอ่อน เริ่มต้นจากท่าทีที่รักปรารถนาดี อยากสร้างมิตรภาพเป็นหลัก
• การขอจึงไม่ใช่เพื่อตอบสนองตัวเอง แต่เพื่อเราจะพออยู่ได้ และสามารถช่วยคนอื่นเหมือนอย่างที่เราได้รับการช่วยเหลือมา

5. เรียนรู้ที่จะขอบคุณ

• เป็นคำสั้นๆที่ช่วยกู้จิตวิญญาณให้พ้นจากความหยิ่ง
• คนที่ไม่ขอบพระคุณ อาจคิดว่าเป็นการเหมาะสมแล้วที่คนอื่นต้องทำดีกับเรา
• หากไม่รู้จักขอบคุณ คนอื่นคงทำดีกับเราได้ไม่นาน
• ต้องมีจิตวิญญาณที่ขอบคุณเสมอ
• พระคัมภีร์สอนเราว่า ในสิบคนที่พระเยซูช่วยให้หายโรคร้าย ที่น่ารังเกียจ มีคนคิดสนองพระคุณเพียงคนเดียว อีกเก้าคนหายหมด

ลูกา 17:15-18 15 ฝ่ายคนหนึ่งในพวกนั้นเมื่อเห็นว่าตัวหายโรคแล้ว จึงกลับมาสรรเสริญพระเจ้าด้วยเสียงดัง
16 และกราบลงที่พระบาทของพระเยซู โมทนาพระคุณของพระองค์ คนนั้นเป็นชาวสะมาเรีย
17 ฝ่ายพระเยซูตรัสว่า “มีสิบคนหายสะอาดมิใช่หรือ แต่เก้าคนนั้นอยู่ที่ไหน
18 ไม่เห็นผู้ใดกลับมาสรรเสริญพระเจ้าเว้นไว้แต่คนต่างชาติคนนี้"

1เธสะโลนิกา 5:18 จงขอบพระคุณในทุกกรณี เพราะนี่แหละเป็นน้ำพระทัยของพระเจ้า ซึ่งปรากฏอยู่ในพระเยซูคริสต์เพื่อท่านทั้งหลาย

6. เรียนรู้ที่จะขอโทษ

• เรื่องที่คนสะดุดมีมากมาย อย่าทำให้กลายเป็นเรื่องที่ไม่เป็นเรื่อง ขอโทษได้รีบขอโทษ
• คนที่บาดเจ็บ ผูกใจเจ็บ ขม ขุ่นเคือง ครุ่นคิด คับแค้น ไม่ดีแต่ โดยเฉพาะคนใกล้ตัว
• ขอโทษไม่ได้ทำให้เสียอะไร ดอกพิกุลไม่ร่วงออกจากปาก
• หลายครั้ง แทนที่จะขอโทษง่ายๆ กลับอ้างเหตุผลร้อยแปดพันประการ ยิ่งเร้าการวิวาทเข้าไปใหญ่

สุภาษิต 15:1 คำตอบอ่อนหวานช่วยละลายความโกรธเกรี้ยวให้หายไป แต่คำกักขฬะเร้าโทสะ

7. เรียนรู้ที่จะให้อภัย

เอเฟซัส 4:32 และท่านจงเมตตาต่อกัน มีใจเอ็นดูต่อกัน และอภัยโทษให้กัน เหมือนดังที่พระเจ้าได้ทรงโปรดอภัยโทษให้แก่ท่านในพระคริสต์นั้น

โคโลสี 3:13 จงผ่อนหนักผ่อนเบาซึ่งกันและกัน และถ้าแม้ว่าผู้ใดมีเรื่องราวต่อกัน ก็จงยกโทษให้กันและกัน องค์พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงโปรดยกโทษให้ท่านฉันใด ท่านจงกระทำอย่างนั้นเหมือนกัน

• หากไม่ให้อภัยก็กลับคืนดีกันไม่ได้ ความสัมพันธ์แตกสลาย
• คนอ่อนแอไม่รู้จักให้อภัย คนเข็มแข็งเท่านั้นที่ให้อภัยเป็น
• การให้อภัยทำให้เราโตเป็นผู้ใหญ่
• เรื่องที่พระเจ้าทดสอบเรา และทำให้เราเติบโตขึ้น จึงเป็นเรื่องที่เราคิดว่าเราจะไม่มีทางให้อภัยได้ เมื่อเราให้อภัย เราจึงจะเติบโตขึ้น

• หากแต่การไม่ให้อภัย กลับจะมีผลร้ายทำลายตนเอง
• จะมีรากขมขื่นงอกขึ้นมาและทำลายชีวิตของเรา

ฮีบรู 12:15 จงระวังให้ดีอย่าให้ใครเพิกเฉยต่อพระคุณของพระเจ้า และอย่าให้มีรากขมขื่นงอกขึ้นมา ทำความยุ่งยากให้ ซึ่งจะเป็นเหตุให้คนเป็นอันมากเสียไป

ยากอบ 3:14 แต่ถ้าท่านรู้สึกขมขื่นเพราะมีใจริษยาและมักใหญ่ใฝ่สูง ก็อย่าโอ้อวดและอย่าทรยศต่อความจริง

• การไม่ให้อภัยเป็นการทำร้ายตัวเอง จะกลายเป็นคนอมทุกข์
• คนอมทุกข์กับคนอมสุข หน้าตาจะบ่งบอก
• เราอาจคิดว่าทำให้คนเห็นใจ แต่บรรยากาศเขม็งเกลียวสู่คนรอบข้าง ทำให้คนหนีไกลจากเรา

• การไม่ให้อภัย จะเป็นต้นกำเนิดของวงจรการแก้แค้น ที่ไม่มีที่สิ้นสุด เหมือนในหนังจีน เลือดต้องล้างด้วยเลือด
• เราอยู่ในยุคพระคุณ ไม่ใช่ตาต่อตา ฟันต่อฟัน
• ตวงให้เขาด้วนทะนานใด ก็จะได้รับอย่างนั้นคืนกลับมาไม่มีที่สิ้นสุด

• เราจะเป็นคนแรกที่เริ่มต้นให้อภัย หรือจะเป็นตนสุดท้ายที่ต่อให้คนให้อภัยกันหมดทั้งโลก เราก็ยังจะเก็บเอาไว้อยู่

ไม่มีความคิดเห็น:

My Blog

  • วินัยของน้องหมา (ข้างถนน) - วันที่ 18/8/2011 เช้านี้ขณะที่รถติดไฟแดงอยู่บริเวณสี่แยกสามย่าน ซึ่งเบื้องหน้าเป็นจามจุรีสแควร์นั้น พลันก็เหลือบเห็นน้องหมาตัวหนึ่งเดินข้ามทางม้าลายด้วยอ...
    12 ปีที่ผ่านมา
  • บทความคริสเตียน - บทความคริสเตียน http://www.gracezone.org/index.php/christian-articles บทความทางด้านจิตวิญญาณ หลักข้อเชื่อ พระเจ้า พระคัมภีร์ พระเจ้า พระคัมภีร์ แนวทางในการ...
    15 ปีที่ผ่านมา
  • คริสเตียนกับการรับใช้พระเยซู - คริสเตียนกับการรับใช้พระเยซู วัน พุธ 08 ต.ค. 08@ 17:47:37 ICT หัวข้อ: สรุปคำเทศนาประจำอาทิตย์ ดร.ทะนุ วงค์ธนานุกุล วัน อาทิตย์ ที่ 21 กันยายน 2008 พระธร...
    15 ปีที่ผ่านมา
  • - แต่วาระนั้นใกล้เข้ามาแล้ว และบัดนี้ก็ถึงแล้ว คือเมื่อผู้ที่นมัสการอย่างถูกต้องจะนมัสการพระบิดา ด้วยจิตวิญญาณและความจริง เพราะว่าพระบิดาทรงแสวงหาคนเช่นนั้...
    15 ปีที่ผ่านมา

Christian Blog

บล็อกวาไรตี้

เทคโนโลยี

ดาวน์โหลดโปรแกรมมาใหม่ล่าสุด |

วาไรตี้

ข่าวประจำวัน

สารบัญเว็บไทย

กินลม ชมทะเล ที่มาร์คเฮ้าส์บังกะโล เกาะกูด จ.ตราด

Thailand Map