Custom Search By Google

Custom Search

วันอังคารที่ 14 เมษายน พ.ศ. 2552

เทศนาฟื้นฟู 3, ค่าย Youth Challenge 2009

การรับใช้พระเจ้า ไม่มีครึ่งเวลา เต็มเวลาเท่านั้น เพราะอาชีพหลักของเราก็คือ "จับคนขึ้นสวรรค์"

พระวจนะ เป็นเหมือน อาหาร ถ้าเราขาด เราจะไม่มีกำลังในการปรนนิบัติรับใช้

การประกาศ เปรียบเหมือนกับ การออกกำลังกาย ถ้าเรากินแล้วไม่ออกกำลังกาย โรคก็จะถามหา

การอธิษฐาน เปรียบเหมือน ลมหายใจ

การถวายตัวอย่างถูกต้อง จะต้องเริ่มต้นโดยการทุ่มกับพระวจนะก่อน

"8 เพราะว่า พระเจ้าทรงเป็นพยานของข้าพเจ้าว่า ข้าพเจ้าเป็นห่วงท่านทั้งหลายเพียงไร ตามพระทัยเมตตาของพระเยซูคริสต์
9 และข้าพเจ้าอธิษฐาน ขอให้ความรักของท่านจำเริญยิ่งๆ ขึ้น พร้อมกับความรู้ และวิจารณญาณทุกอย่าง
10 เพื่อท่านทั้งหลาย จะสังเกตได้ว่าสิ่งใดประเสริฐที่สุด และเพื่อท่านจะได้เป็นคนบริสุทธิ์ และไม่เป็นที่ติได้ในวันแห่งพระคริสต์
11 จะได้เป็นผู้ที่บริบูรณ์ ด้วยผลของความชอบธรรม ซึ่งเกิดขึ้นโดยพระเยซูคริสต์ เพื่อถวายพระเกียรติ และความสรรเสริญแด่พระเจ้า" (ฟิลิปปี 1:8-11)

โดยความรู้ที่เรารู้จักกับพระเจ้า จะทำให้เรารักพระเจ้า ซึ่งความรักแบบนี้จะเป็นความรักที่มั่นคง เพราะเป็นความรักที่มาจากการรู้จักพระเจ้าผ่านทางพระวจนะของพระเจ้า

วันนี้จะเน้นย้ำถึงการอธิษฐาน

"15 เมื่อมาถึงกรุงเยรูซาเล็ม พระองค์ก็เสด็จเข้าไปในบริเวณพระวิหาร แล้วลงมือขับไล่บรรดาผู้ซื้อขายในบริเวณพระวิหารนั้น และคว่ำโต๊ะผู้รับแลกเงิน กับทั้งคว่ำม้านั่งผู้ขายนกพิราบเสีย
16 และทรงห้ามมิให้ผู้ใดขนสิ่งใดๆ เดินลัดบริเวณพระวิหาร
17 พระองค์ตรัสสอนเขาว่า "มีพระวจนะเขียนไว้มิใช่หรือว่า นิเวศของเราเขาจะเรียกว่า เป็นนิเวศอธิษฐานสำหรับประชาชาติทั้งหลาย แต่เจ้าทั้งหลายได้กระทำให้เป็นถ้ำของพวกโจร"
18 เมื่อพวกมหาปุโรหิต และพวกธรรมาจารย์ทราบอย่างนั้น จึงหาช่องที่จะประหารพระองค์เสีย เพราะเขากลัวพระองค์ ด้วยว่าประชาชนประหลาดใจด้วยคำสั่งสอนของพระองค์
19 และเมื่อถึงเวลาเย็น พระองค์ได้เสด็จออกไปจากกรุง (มาระโก 11:15-19)

พี่น้องที่รัก เราเป็นวิหารของพระวิญญาณบริสุทธิ์ ถ้าเราหยุดการอธิษฐานโลกจะมีอิทธิพลเหนือพระวิหาร แต่ถ้าเราอธิษฐาน วิหารจะมีอิทธิพลเหนือโลก

การอธิษฐาน เราสามารถทำได้ทุกที่ เหตุฉะนั้น การอธิษฐานเปรียบเหมือนลมหายใจ เราจำเป็นต้องหายใจ

ถ้าหากเราอธิษฐานได้ไม่นาน ก็อาจเป็นเพราะเราเห็นแก่ตัว เราอธิษฐานเผื่อเฉพาะเรื่องของตัวเอง เรื่องความต้องการของตัวเองเท่านั้น แต่สิ่งที่พระเจ้าต้องการให้เราทำในฐานะปุโรหิต ที่พระองค์ตั้งเราไว้ให้เป็นวิหาร ก็คือ ให้เราอธิษฐานเผื่อผู้อื่น ให้เราอธิษฐานเผื่อประเทศชาติ ซึ่งถ้าเรากระทำในสิ่งนี้ เราจะมีใจที่เป็นห่วง มีใจที่ปรารถนาให้คนทั้งหลายได้รับความรอด ซึ่งสิ่งเหล่านี้ต้องเริ่มต้นโดยการที่เราใช้วิหารอย่างถูกต้อง

วิธีการอธิษฐานมีหลายวิธี แต่ไม่ว่าอธิษฐานท่าใดวิธีใดก็ตาม ก็ขอให้เราอธิษฐานเถิด

การอธิษฐานจะเกิดผลเมื่อเรามีครบ 3 สิ่ง ได้แก่

1. รู้จักพระเจ้า

2. รู้น้ำพระทัย

3. ขอด้วยความเชื่อ

ถ้าเรามีทั้งสามสิ่งนี้ พระเจ้าจะทรงตอบคำอธิษฐานของเราอย่างแน่นอน

คำตอบของพระเจ้า อาจจะเป็น "ไม่" ก็ได้ ถ้าเป็นเช่นนี้ ก็หมายความว่าสิ่งที่เราขอนั้น ถ้าหากเกิดขึ้นจะไม่เกิดผลดีต่อเรา เราจึงควรขอบคุณพระเจ้า

ในมัทธิว 6 ได้พูดถึงคำอธิษฐานพระเยซู ซึ่งเป็นคำอธิษฐานที่ครอบคลุมทั้งหมด

วันนี้อยากให้เราพิจารณาถึงคำอธิษฐานของผู้หนึ่ง ที่ชื่อ ยาเบส

"9 ฝ่ายยาเบส เป็นผู้มีเกียรติกว่าพี่น้องทั้งหลายของเขา มารดาของเขาเรียกชื่อเขาว่า ยาเบส กล่าวว่า 'เพราะเราคลอดเขาด้วยความเจ็บปวด'
10 ยาเบสทูลพระเจ้าของอิสราเอลว่า 'ขอพระองค์ทรงอวยพระพรแก่ข้าพระองค์ และขยายเขตแดนของข้าพระองค์ และขอพระหัตถ์ของพระองค์ อยู่กับข้าพระองค์ และขอพระองค์ทรงรักษาข้าพระองค์ให้พ้นจากเหตุร้าย เพื่อมิให้ข้าพระองค์เจ็บใจปวดกาย' และพระเจ้าทรงประสาทตามที่เขาทูลขอ" (1พงศาวดาร 4:9-10)

ผู้ชายคนนี้ มีลักษณะสำคัญคือ

1. ชายคนนี้มีเกียรติมากกว่าพี่น้องในครอบครัว

2. เขาขอทุกอย่าง และพระเจ้าทรงตอบคำอธิษฐาน

3. ไม่เอาประสบการณ์ในชีวิตของเขามาเป็นอุปสรรคในการเข้าหาพระเจ้า

เมื่อเรามีปัญหาขัดแย้ง ขัดใจกับใคร ซาตานพยายามที่จะทำให้เราออกจากพระวจนะ ออกจากคริสตจักร ไม่เข้าหาพระเจ้าในการอธิษฐาน เพื่อที่เราจะแยกตัวออกจากพระเจ้า นี่จะเป็นภาวะที่อันตราย ซาตานทำลายวิญญาณจิตเราไม่ได้ แต่มันเล่นงานเนื้อหนังเราได้

ถ้าเรามีปัญหาอะไรก็ตาม ไม่ว่าเราจะทำให้ใครเจ็บปวด หรือใครจะทำให้เราเจ็บปวด ขอให้เราเข้าหาพระเจ้า ให้เรามาหาพระเยซู ขอพระเจ้าเมตตาเรา

ยาเบส เกิดมาทำให้แม่เจ็บปวด แต่เขาก็เข้าหาพระเจ้า ก็เป็นคนหนึ่งที่ทำให้แม่ของเขาชื่นชมยินดี เพราะเขามีชื่อเสียงดี ซึ่งเป็นเหตุจากการที่เขาเข้าหาพระเจ้า

ถ้าเราขอไม่ได้ อาจเพราะขอผิด เพื่อสนองกิเลสตัณหา หรือ อาจเพราะขาดความเชื่อ

อะไรคือน้ำพระทัยหรือไม่ รู้ได้โดยการที่เราอ่านพระวจนะคำของพระองค์

"ถ้าท่านทั้งหลายเข้าสนิทอยู่ในเรา และถ้อยคำของเราฝังอยู่ในท่านแล้ว ท่านจะขอสิ่งใด ซึ่งท่านปรารถนาก็จะได้สิ่งนั้น" (ยอห์น 15:7)

เมื่อเรารู้จักพระเจ้าผ่านทางพระวจนะ เราก็จะยิ่งรู้จักพระเจ้า และจะยิ่งเชื่อมากขึ้น ขอให้เริ่มต้นกับพระเจ้า เริ่มต้นกับพระธรรม แล้วคำอธิษฐานของเราจะมีความหมาย เพราะถ้าสิ่งที่เราอธิษฐานสอดคล้องกับน้ำพระทัยของพระองค์ สิ่งที่เราขอจะสำเร็จอย่างแน่นอน

สิ่งที่ท่านยาเบสขอ ได้แก่



1. "ขอพระองค์ทรงอวยพระพรแก่ข้าพระองค์"
นี่เป็นสิ่งที่ถูกต้อง สอดคล้องกับน้ำพระทัยของพระเจ้า เพราะถ้าเราไม่ได้รับพร ชีวิตเราก็ไม่สามารถเป็นพรแก่คนอื่นได้

ยาเบสขอด้วยท่าทีที่เข้าใจ เพราะพรมาทางการเชื่อฟัง ท่านมีความตั้งใจที่จะเชื่อฟังพระเจ้าทุกอย่าง

พร ประกอบด้วย 5 Ps ได้แก่

Peace of God (สันติสุขของพระเจ้า) เราจะได้รับทันทีเมื่อเราต้อนรับพระองค์อย่างถูกต้อง และดำเนินตามพระเยซู ถ้าชีวิตเราเป็นเช่นนี้เราจะมีความสุขอย่างแน่นอน

Power of God (ฤทธิ์อำนาจของพระเจ้า) เราจะได้รับอย่างอัตโนมัติถ้าเราตั้งใจเชื่อฟังพระเจ้าในการประกาศ เป็นพยาน เราจะเห็นการสถิตอยู่ด้วยของพระเจ้า จะได้รับการเปลี่ยนแปลง ได้รับการสร้าง และจะถูกใช้ในการทำลายกิจการของมารซาตานในชีวิตของคน ฤทธิ์อำนาจเหล่านี้เราได้มาโดยผ่านทางกางเขน ข่าวประเสริฐของพระคริสต์ ขอที่เราจะประกาศฤทธิ์เดชเหล่านี้ให้แก่คนทั้งหลายได้ฟัง

Presence of God (การทรงสถิตของพระเจ้า) สิ่งนี้จะได้มาจากการกระทำ 2 สิ่ง ได้แก่ ชุบตัวกับพระวจนะคำของพระเจ้า และ อธิษฐานต่อพระเจ้า ซึ่งเป็นการแสดงออกว่า เราไม่ต้องการพึ่งตัวเอง ต้องการพึ่งพาพระเจ้าตลอด

การทดลอง เป็นเหมือนนก ที่สามารถบินข้ามศีรษะเราได้ตลอด เราห้ามมันไม่ได้ แต่เราห้ามมันไม่ให้ทำรังบนหัวเราได้

ถ้าเราติดกับพระเจ้า ทางพระวจนะของพระเจ้า สิ่งเหล่านี้จะทำให้เรามีกำลัง มีสง่าราศี มีเรี่ยวแรง มีความชื่นชมยินดี เมื่อเป็นเช่นนี้ พระสิริของพระเจ้าจะอยู่กับเรา

Provision of God (การจัดเตรียมของพระเจ้า) พระเจ้าจะทรงจัดเตรียม สิ่งนี้จะได้โดยการที่เราเชื่อฟังพระเจ้า ในการรับใช้ปรนนิบัติพี่น้อง

Protection of God (การพิทักษ์รักษาของพระเจ้า) สิ่งนี้ได้มาโดยการเชื่อฟัง ที่จะสัตย์ซื่อในการรักษาวันสบาโต สัตย์ซื่อในการถวายสิบลด และยิ่งถ้าเราถวายมากกว่าสิบลด พระเ้จ้าจะยิ่งทรงอวยพรชีวิตคุณ

เมื่อเราเชื่อฟัง พระเจ้าทรงสัตย์ซื่อในคำสัญญา และพระองค์ทรงเป็นพระเจ้าที่มือเติบ ทรงพร้อมที่จะประทานพรให้แก่เราอย่างมากมาย

ยาเบสขอพระเจ้าที่จะให้พระองค์อวยพรเขา และเขาก็ตั้งใจที่จะเชื่อฟังพระองค์ทุกอย่าง นี่แหละ พระเจ้าจึงได้ทรงอวยพรชีวิตเขา



2. "ขยายเขตแดนของข้าพระองค์"
สิ่งที่เขาขอนั้น สอดคล้องกับน้ำพระทัยของพระเจ้า เนื่องจาก เขาขอเพื่อ 2 เหตุผล ได้แก่

เพื่อเขาจะมีความรับผิดชอบมากขึ้น และเพื่อที่พระเจ้าจะสำแดงความยิ่งใหญ่ของพระองค์แก่เขาในการรับผิดชอบที่มากขึ้นนั้น

อาณาเขตของเขา เมื่อขยายมากเท่าไหร่ เขาจะยิ่งมีอิทธิพลฝ่ายวิญญาณมากขึ้นเท่านั้น นี่เป็นความจริง

ถ้าเราอยู่เฉย ๆ ไม่ประกาศ ไม่มีส่วนร่วมในการประกาศ ทั้งทางด้านอธิษฐานและถวาย ชีวิตเราจะไม่มีอิทธิพลอะไรเลย แต่ถ้าเราทำตามน้ำพระทัยของพระเจ้้าที่ต้องการให้เราขยายอาณาจักรของพระองค์ออกไป ทำโดยทุกวิถีทาง พระเจ้้าจะทรงร่วมงานกับเรา และจะทรงอวยพรเราอย่างแน่นอน



3. "ขอพระหัตถ์ของพระองค์ อยู่กับข้าพระองค์"
ถ้าพระหัตถ์ของพระเจ้าอยู่เหนือเรา เราทำอะไรก็สำเร็จ ศัตรูก็จะแตะต้องเราไม่ได้ เพราะพระองค์ทรงพิทักษ์รักษา

"9 เพราะในวันที่หนึ่งของเดือนที่หนึ่ง ท่านได้เริ่มขึ้นไปจากบาบิโลน และในวันที่หนึ่งของเดือนที่ห้า ท่านมายังเยรูซาเล็ม เพราะว่าพระหัตถ์ประเสริฐของพระเจ้าของท่านอยู่กับท่าน
10 เพราะเอสราได้ตั้งใจของท่านที่จะศึกษาธรรมบัญญัติของพระเจ้า และกระทำตาม และสอนกฎเกณฑ์ และกฎหมายของพระองค์ในอิสราเอล" (เอสรา 7:9-10)

พระหัตถ์ของพระเจ้าอยู่เหนือเอสรา พระเจ้าปกป้องคุ้มครองเขา จนถึงจุดหมายปลายทางที่เขาตั้งใจ เคล็ดลับ ก็คือ เขาตั้งใจที่จะศึกษาพระวจนะคำของพระเจ้า ตั้งใจที่จะสอนพระวจนะคำของพระองค์ และที่สำคัญ ท่านตั้งใจที่จะปฏิบัติตามพระวจนะของพระเจ้า

การสอนพระวจนะ เป็นการเรียนพระวจนะที่ดียอดเยี่ยม

เคล็ดลับในการฝึกการสอนพระวจนะ คือ เฝ้าเดี่ยว อ่านแล้วได้อะไร ก็แบ่งปันกับคนใกล้ตัว และแลกเปลี่ยนซึ่งกันและกัน

ถ้าหากเราภาวนาพระวจนะคำของพระองค์ทั้งกลางวันและกลางคืน เราจะทำอะไรก็เจริญ

"2 แต่ความปีติยินดีของผู้นั้น อยู่ในพระธรรมของพระเจ้า เขาภาวนาพระธรรมของพระองค์ ทั้งกลางวันและกลางคืน
3 เขาเป็นเช่นต้นไม้ที่ปลูกไว้ริมธารน้ำ ซึ่งเกิดผลตามฤดูกาล และใบก็ไม่เหี่ยวแห้ง การทุกอย่างซึ่งเขากระทำก็จำเริญขึ้น" (สดุดี 1:2-3)



4. "ขอพระองค์ทรงรักษาข้าพระองค์ให้พ้นจากเหตุร้าย เพื่อมิให้ข้าพระองค์เจ็บใจปวดกาย"
ท่าทีของเขาถูกต้อง เพราะเมื่อเขาอยู่ในพระหัตถ์ของพระเจ้า พระเจ้าจะทรงดูแลเขาแน่นอนอยู่แล้ว

แต่ถ้าเราออกจากพระหัตถ์ของพระเยซูคริสต์ เราจะขออย่างไรก็ไม่ได้ เพราะว่าเราไม่ได้อยู่ในพระหัตถ์ของพระเจ้า ไม่ได้อยู่ในศูนย์กลางของน้ำพระทัยของพระเจ้า ซึ่งถ้าหากไม่ได้อยู่ในศูนย์กลางของน้ำพระทัยของพระเจ้าแล้ว ความปลอดภัยย่อมไม่มีเลย

"ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงพิทักษ์ข้าพระองค์ไว้ เพราะข้าพระองค์ลี้ภัยอยู่ในพระองค์" (สดุดี 16:1)

"พระเจ้าทรงเป็นที่ลี้ภัย และเป็นกำลังของข้าพระองค์ทั้งหลาย เป็นความช่วยเหลือที่พร้อมอยู่ในยามยากลำบาก" (สดุดี 46:1)



ถ้าเราไม่เคยขอ ให้ขอ ถ้าไม่เคยอธิษฐาน ให้เริ่มอธิษฐาน

ถ้าหากว่าเราไม่อธิษฐาน เราก็จะยังคงทำสิ่งต่าง ๆ ได้ แต่สิ่งที่เราทำเหล่านั้น จะไม่สามารถถวายเกียรติแด่พระเจ้าได้

มีพระเจ้าองค์นี้องค์เดียว ที่สั่งให้เราขอ เพราะพระองค์ทรงเป็นเจ้าของสรรพสิ่ง และไม่มีอะไรที่พระองค์ทรงกระทำไม่ได้



ศจ. สมศักดิ์ ชูสงฆ์

เทศนาฟื้นฟู 3, ค่าย Youth Challenge 2009

เมื่อวันที่ 05/04/2009

ไม่มีความคิดเห็น:

My Blog

  • วินัยของน้องหมา (ข้างถนน) - วันที่ 18/8/2011 เช้านี้ขณะที่รถติดไฟแดงอยู่บริเวณสี่แยกสามย่าน ซึ่งเบื้องหน้าเป็นจามจุรีสแควร์นั้น พลันก็เหลือบเห็นน้องหมาตัวหนึ่งเดินข้ามทางม้าลายด้วยอ...
    12 ปีที่ผ่านมา
  • บทความคริสเตียน - บทความคริสเตียน http://www.gracezone.org/index.php/christian-articles บทความทางด้านจิตวิญญาณ หลักข้อเชื่อ พระเจ้า พระคัมภีร์ พระเจ้า พระคัมภีร์ แนวทางในการ...
    15 ปีที่ผ่านมา
  • คริสเตียนกับการรับใช้พระเยซู - คริสเตียนกับการรับใช้พระเยซู วัน พุธ 08 ต.ค. 08@ 17:47:37 ICT หัวข้อ: สรุปคำเทศนาประจำอาทิตย์ ดร.ทะนุ วงค์ธนานุกุล วัน อาทิตย์ ที่ 21 กันยายน 2008 พระธร...
    15 ปีที่ผ่านมา
  • - แต่วาระนั้นใกล้เข้ามาแล้ว และบัดนี้ก็ถึงแล้ว คือเมื่อผู้ที่นมัสการอย่างถูกต้องจะนมัสการพระบิดา ด้วยจิตวิญญาณและความจริง เพราะว่าพระบิดาทรงแสวงหาคนเช่นนั้...
    15 ปีที่ผ่านมา

Christian Blog

บล็อกวาไรตี้

เทคโนโลยี

ดาวน์โหลดโปรแกรมมาใหม่ล่าสุด |

วาไรตี้

ข่าวประจำวัน

สารบัญเว็บไทย

กินลม ชมทะเล ที่มาร์คเฮ้าส์บังกะโล เกาะกูด จ.ตราด

Thailand Map