Custom Search By Google

Custom Search

วันเสาร์ที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2552

ผู้อารักขา (4)‏

บทเรียนของหญิงม่าย
"8 และพระวจนะของพระเจ้ามายังท่านว่า
9 'ลุกขึ้นไปยังเมืองศาเรฟัทเถิด ซึ่งขึ้นแก่เมืองไซดอน และอาศัยอยู่ที่นั่น ดูเถิด เราได้บัญชาหญิงม่ายคนหนึ่งที่นั่นให้เลี้ยงเจ้า'
10 ท่านจึงลุกขึ้นไปยังเมืองศาเรฟัท และเมื่อมาถึงประตูเมือง ดูเถิด หญิงม่ายคนหนึ่งที่นั่นกำลังเก็บฟืน ท่านจึงเรียกนางว่า 'ขอน้ำเล็กน้อยใส่ภาชนะมาให้ฉัน เพื่อฉันจะได้ดื่มน้ำ'
11 และขณะเมื่อนางจะไปเอาน้ำมา ท่านก็เรียกนางแล้วบอกว่า 'ขอนำอาหารใส่มือมาให้ฉันสักหน่อยหนึ่ง'
12 และนางตอบว่า 'พระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านทรงพระชนม์อยู่แน่ฉันใด ดิฉันไม่มีอะไรที่ปิ้งเสร็จ มีแต่แป้งสักกำมือหนึ่งในหม้อ และน้ำมันเล็กน้อยที่ในไห บัดนี้ดิฉันกำลังเก็บฟืนเล็กน้อย เพื่อจะเข้าไปทำสำหรับตัวดิฉัน และบุตรชายของดิฉัน เพื่อเราจะได้กินแล้วก็จะตาย'
13 และเอลียาห์บอกนางว่า 'อย่ากลัวเลย จงไปทำตามที่เจ้าพูด แต่จงทำขนมก้อนเล็กให้ฉันก่อน แล้วเอามาให้ฉัน ภายหลังจึงทำสำหรับตัวเจ้า และบุตรของเจ้า
14 เพราะพระเยโฮวาห์พระเจ้าของอิสราเอลตรัสดังนี้ว่า 'แป้งในหม้อนั้นจะไม่หมด และน้ำมันในไหนั้นจะไม่ขาด จนกว่าจะถึงวันที่พระเจ้าทรงส่งฝนลงมายังพื้นดิน'
15 นางก็ไปกระทำตามคำของเอลียาห์ นาง ตัวท่าน และครอบครัวของนางก็รับประทานอยู่หลายวัน
16 แป้งในหม้อก็ไม่หมด น้ำมันในไหก็ไม่ขาด ตามพระวจนะของพระเจ้าซึ่งตรัสทางเอลียาห์
17 และอยู่มาหลังจากนี้ บุตรชายของหญิงคนนั้นผู้เป็นเจ้าของบ้านก็ล้มป่วย อาการป่วยนั้นก็สาหัส จนไม่มีลมหายใจเหลืออยู่แล้ว
18 นางจึงกล่าวแก่เอลียาห์ว่า 'โอ คนของพระเจ้า เจ้าข้า ฉันมีเรื่องอะไรเกี่ยวข้องกับท่าน ท่านได้มาหาฉัน เพื่อฟื้นให้ทรงระลึกถึงความผิดของฉัน และกระทำให้บุตรของฉันตาย'
19 และท่านก็พูดกับนางว่า 'เอาบุตรของเจ้ามาให้ฉันเถิด' ท่านก็นำเขาไปจากอกของนาง อุ้มขึ้นไปที่ห้องชั้นบนที่อาศัยอยู่ และวางเขาไว้บนที่นอนของท่านเอง
20 และท่านร้องทูลพระเจ้าว่า 'ข้าแต่พระเยโฮวาห์พระเจ้าของข้าพระองค์ พระองค์ทรงนำเหตุร้ายมา จนกระทั่งหญิงม่ายนี้ที่ข้าพระองค์อาศัยอยู่ด้วยทีเดียวหรือ โดยที่ทรงประหารบุตรของนางเสีย'
21 แล้วท่านก็เหยียดตัวลงทับเด็กนั้นสามครั้ง และร้องทูลพระเจ้าว่า 'ข้าแต่พระเยโฮวาห์พระเจ้าของข้าพระองค์ ขอชีวิตของเด็กคนนี้มาเข้าในตัวเขาอีก'
22 และพระเจ้าทรงฟังเสียงของเอลียาห์ และชีวิตของเด็กนั้นมาเข้าในตัวเขาอีก และเขาก็ฟื้นขึ้น
23 และเอลียาห์ก็อุ้มเด็กนั้น นำลงมาจากห้องชั้นบนเข้าไปในเรือน และมอบเขาให้แก่มารดาของเด็ก และเอลียาห์บอกว่า 'ดูซิ บุตรของเจ้ายังมีชีวิตอยู่'
24 และหญิงนั้นพูดกับเอลียาห์ว่า 'คราวนี้ ดิฉันทราบแล้วว่า ท่านเป็นคนของพระเจ้า และพระวจนะของพระเจ้าอยู่ในปากของท่านจริงๆ' " (1พงษ์กษัตริย์ 17:8-24)

1 พระเจ้าทรงใช้คนธรรมดา
พระคัมภีร์ตอนนี้ พูดถึงตอนหลังจากที่เอลียาห์สาบแผ่นดินอิสราเอล มีความทุกข์ยากต่าง ๆ มากมายทั่วแผ่นดิน เพราะอิสราเอลทำผิดต่อพระเจ้า

ท่านเอลียาห์หลบไป และพระเจ้าทรงให้อีกาส่งอาหารให้เอลียาห์ทุกวัน

ต่อมา พระเจ้าทรงให้เอลียาห์ไปขอความช่วยเหลือจากคน ๆ หนึ่ง ซึ่งไม่ใช่กษัตริย์ ขุนนาง พ่อค้า หรือร่ำรวยใด ๆ แต่ให้ไปหาหญิงม่าย ไปหาคนที่ยากจนที่สุด

หญิงม่ายในอดีต เกิดจากสามีเสียชีวิต สถานะในสังคมต่ำต้อยที่สุด ไม่มีอาชีพ ไม่มีรายได้ ลำบาก แต่ในเหตุการณ์ครั้งนี้ พระเจ้ากลับทรงส่งเอลียาห์ไปหาหญิงม่ายที่ยากจนที่สุด เพื่อที่จะดูแลท่าน นี่แหละ จึงทำให้เอลียาห์ได้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ของพระเจ้าได้อย่างดี เพราะถ้าหากพระเจ้าให้เอลียาห์ไปหากษัตริย์ ผู้ร่ำรวย ก็คงจะเป็นเรื่องธรรมดา

พระเจ้าทรงใช้คนทั้งหลายที่เป็นคนธรรมดาได้ พระเจ้าทรงใช้หญิงม่ายได้ แน่นอนทีเดียว พระเจ้าก็จะทรงใช้พวกเรา ซึ่งเป็นเยาวชน ที่จะดูแลคริสตจักร ดูแลผู้เชื่ออื่น ๆ ได้

ดังที่พระคัมภีร์กล่าวในเรื่องขนมปังห้าก้อนและปลาสองตัว ถ้าเรามีใจ รักในพระเจ้า เป็นเหมือนอนุชนคนนั้นที่เป็นเจ้าของขนมปัง พระเจ้าก็จะใช้สิ่งที่เรามี ใช้เรา เพื่อให้เกิดผลได้อย่างมากมาย

2 อย่าเห็นแก่ตัว
เอลียาห์เชื่อฟังพระเจ้า และกระทำตามที่พระเจ้าทรงนำ

หญิงม่าย ขณะเก็บฟืน จิตใจคงกำลังว้าวุ่น เครียด เพราะว่าเขากำลังเตรียมทำอาหารมื้อสุดท้าย และเตรียมที่จะตาย เขาคงจะมองอะไรไม่เห็นแล้ว ไม่รู้ว่าชีวิตจะอยู่ได้อย่างไร คิดถึงเรื่องความทุกข์ยากของตนเอง

จนกระทั่งเอลียาห์มาทักเพื่อขอน้ำดื่ม หญิงนั้นจึงตกใจ เพราะว่าก่อนหน้านั้นมัวแต่ก้มหน้า มองแต่ความต้องการของตัวเอง ไม่ได้สนใจคนอื่น

ปัญหาสังคมปัจจุบันก็เป็นเช่นนี้ เพราะคนเราเห็นแก่ตัว มองแต่ปัญหาของตัวเอง ไม่เห็นคนอื่นในสายตา สังคมจึงมีปัญหามากมาย

เมื่อเอลียาห์ขอความช่วยเหลือ หญิงคนนั้นก็ได้ "เงย" หน้าขึ้นมาจากการมองดูตนเอง แล้วหันมามองดูคนอื่นรอบตัวว่าสามารถช่วยอะไรพวกเขาได้บ้าง

ขอพระเจ้าทรงเปิดใจของเรา ชีวิตของเรา ถ้าหากเราดำรงชีวิตเพื่อคนอื่น ชีวิตเราจะมีค่า มีความหมายมาก ท่ามกลางชีวิตที่ดำเนินไป อย่าเห็นแก่ตัว

3 จงถวายอย่างสุดกำลัง

3.1 พระเจ้าไม่เคยขอในสิ่งที่เราไม่มี

ดังเช่นที่เอลียาห์ขอจากหญิงม่ายนี้ เริ่มขอจากน้ำที่เขาเพิ่งตัก ต่อมาก็เริ่มขออาหาร ซึ่งหญิงม่ายนั้นก็ยังมีอยู่ แต่ว่ายากขึ้นมา แต่อย่างไรก็ตาม พระเจ้าทรงขอในสิ่งที่เรามีอยู่แล้ว อยู่ที่ว่าเราจะมอบให้กับพระองค์หรือไม่

เมื่อมีพันธกิจที่ต้องการเงิน คนก็มักจะมองว่า ผู้ที่มีเงินทั้งหลาย ผู้ที่มีฐานะ น่าจะเป็นผู้ที่เป็นแหล่งทุนทรั้พย์ในการถวายเพื่อพันธกิจเหล่านี้ แต่เรามักจะลืมตัวเราเอง เรามักจะคิดว่าเราจน และนี่แหละ จึงเป้นเหตุผลที่คนที่รวย ก็มักจะรวยยิ่งขึ้นไปอีก และคนที่จน ก็ยังคงจนต่อไป เพราะท่าทีที่ไม่ถูกต้อง จึงยังขัดสนอยู่เสมอ ขอพระเจ้าเปิดตาใจ เพราะพระองค์ไม่เคยขอในสิ่งที่เราไม่มี

3.2 จงพิสูจน์ความรักด้วยทั้งหมดที่เรามี

เมื่อเอลียาห์ขออาหารต่อหญิงม่าย ก็คงจะเป็นการยากจริง ๆ เพราะอาหารนั้นจะเป็นสิ่งที่หญิงม่ายเหลืออยู่เพื่อยังชีพ อาจดูเหมือนว่าเอลียาห์ใจร้าย กล้าขอได้อย่างไร แต่ในสายพระเนตรพระเจ้า พระเจ้าทรงสามารถเลี้ยงดูหญิงม่ายคนนี้ได้อย่างแน่นอน ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับพระองค์ที่จะประทานอาหารแก่เขา

พระเจ้าไม่ได้วัดว่าเราให้จำนวนเท่าไหร่ แต่พระเจ้าทรงวัดว่าเราให้พระเจ้าเต็มที่หรือไม่ ทรงวัดว่าเรามีเงินเหลืออยู่เท่าไหร่

พระเจ้าไม่ได้ต้องการเงินจากเรา เพราะทุกสิ่งทุกอย่างเป็นของพระเจ้า พระเจ้าทรงเป็นเจ้าของสรรพสิ่งทั้งปวง แต่ทรงต้องการใจของเราที่มีให้ต่อพระองค์ พระเจ้าทรงต้องการท่าทีที่ถูกต้องของเรา ให้เราเติบโตขึ้นกับพระองค์ มีประสบการณ์ในฤทธิ์เดชของพระเจ้า โดยผ่านทางการถวาย

3.3 การถวายอย่างสุดกำลัง มักจะรู้สึกเสียดาย (เจ็บ)

เราทุกคนเป็นคนบาป ความรู้สึกเสียดายเป็นความรู้สึกปกติ ยิ่งเราเสียดายมาก ก็แสดงว่าเรายังยึดกับสิ่งเหล่านั้นมาก แสดงว่าเราก็ยังไม่เข้าใจบทบาทของผู้อารักขาที่ถูกต้อง เขาคิดว่าสิ่งเหล่านั้นได้มาเพราะเขาหามาเอง ไม่ได้ตระหนักว่าพระเจ้าเป็นผู้จัดเตรียมให้แก่เขา ไม่ได้ตระหนักว่าทุกสิ่งทุกอย่างเป็นของพระองค์

เปรียบเทียบกับการออกกำลังกาย ถ้าเราไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย วิ่งเพียงไม่นานก็เหนื่อย แต่ถ้าเราฝืน มีวินัย ฝึกฝนทุกวัน ร่างกายแข็งแรงขึ้น เราก็จะเหนื่อยน้อยลง และถ้าเราต้องการพัฒนามากว่านี้ เราจะยิ่งต้อนวิ่งไกลขึ้น ทุกครั้งที่เราเพิ่มระยะทาง เราก็จะต้องฝืนทน จนร่างกายเข้มแข็งพอ จึงสามารถทำได้ในที่สุด

เ่ช่นเดียวกัน การถวาย เราจะต้องฝึกฝน ที่จะถวายมอบแด่พระเจ้ามากขึ้น ๆ จนกระทั่งเราจะได้เป็นผู้อารักขาที่ดีของพระเจ้า ขอที่เราจะอธิษฐานขอกำลังจากพระเจ้า

4 จงถวายด้วยความเชื่อ

เอลียาห์มิได้เรียกร้องให้หญิงม่ายให้ถวายเพียงแค่ 10 เปอร์เซ็นต์ แต่ท่านเรียกร้องให้หญิงม่ายถวายทั้งหมดที่เขามี โดยอ้างถึงพระสัญญาของพระเจ้า เอลียาห์ไม่สามารถช่วยหญิงม่ายคนนี้ได้ แต่ท่านรู้ว่าพระเจ้าทรงสามารถช่วยหญิงม่ายคนนี้ได้

จงถวายด้วยความเชื่อ แล้วพระเจ้าจะทรงรับผิดชอบดูแลชีวิตของท่านเอง พระเจ้าจะทรงเปิดหน้าต่างในฟ้าสวรรค์ เทพรอย่างล้นไหล

"10 พระเจ้าจอมโยธาตรัสว่า จงนำทศางค์เต็มขนาดมาไว้ในคลัง เพื่อว่าจะมีอาหารในนิเวศของเรา จงลองดูเราในเรื่องนี้ดูทีหรือว่า เราจะเปิดหน้าต่างในฟ้าสวรรค์ให้เจ้า และเทพรอย่างล้นไหลมาให้เจ้าหรือไม่
11 เราจะขนาบตัวที่ทำลายให้แก่เจ้า เพื่อว่ามันจะไม่ทำลายผลแห่งพื้นดินของเจ้า และผลองุ่นในไร่นาของเจ้าจะไม่ร่วง พระเจ้าจอมโยธาตรัสดังนี้แหละ
12 พระเจ้าจอมโยธาตรัสว่า แล้วประชาชาติทั้งสิ้นจะเรียกเจ้าว่า ผู้ที่ได้รับพระพร ด้วยว่าเจ้าจะเป็นแผ่นดินที่น่าพึงใจ" (มาลาคี 3:10-13)

พระเจ้าประทานของดีทุกสิ่งอย่างเพียงพอ

"และพระเจ้าทรงฤทธิ์อาจประทานของดีทุกสิ่งอย่างอุดมแก่ท่านทั้งหลาย เพื่อให้ท่านมีทุกสิ่งทุกอย่างเพียงพอสำหรับตัวเสมอ ทั้งจะมีสิ่งของบริบูรณ์สำหรับงานที่ดีทุกอย่างด้วย" (2โครินธ์ 9:8)

พันธกิจมานาประจำวัน ไม่ได้รับการสนับสนุนจากเมืองนอก แต่พันธกิจนี้จะอยู่ได้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับการถวาย ขึ้นอยู่กับภาระใจของผู้ที่ได้รับหนังสือเล่มนี้

คืนหนึ่ง ลูกสาวของผมก็เดินมาหาผม บอกว่า "ได้ข่าวว่ามานาประจำวันไม่มีเงินใช่หรือไม่ จะขออนุญาตเอาเงินที่คุณพ่อเก็บไว้ในตู้เซฟไว้ให้เขา ถวายให้มานาประจำวันได้หรือไม่"

ผมได้ยินอย่างนี้แล้วผมน้ำตาไหล รู้สึกว่านอนตายตาหลับ เชื่อว่าชีวิตของเขาจะต้องเจริญขึ้นอย่างแน่นอน

สิ่งที่ผมทำก็คือ ผมเอาเงินของผมเอง ถวายให้มานาประจำวัน 2000 บาท โดยที่ไม่ได้แตะเงินในตู้เซฟนั้นเลย โดยที่ลูกสาวไม่รู้ และเงินก็ยังอยู่ครบในตู่เซฟ

พระเจ้าจะทรงทำเช่นนี้แหละ เมื่อเราถวายให้พระองค์ ให้พระองค์ก่อนเสมอ พระเจ้าจะทรงดูแลเราอย่างอัศจรรย์ อย่างที่เราคาดคิดไม่ถึง

ผู้ก่อตั้งบริษัทคอลเกต เป็นคริสเตียน ได้เติบโตในครอบครัวคริสเตียน และเขาได้รับการปลูกฝังอย่างมากมาย เรื่องการถวายสิบลด และเขาก็ได้ถวายสิบลดตลอดมา

แต่เมื่อเขาอายุมาก เขามิได้เพียงถวายแค่สิบลด แต่เขาได้ถวายถึง 90% และเก็บไว้สำหรับตัวเองเพียงแค่ 10% พี่น้องครับ เขามีเงินอยู่หลายพันล้านทีเดียว

พลังแห่งชีวิต เป็นโครงการที่ได้รับการถวายจากเศรษฐีผู้หนึ่ง เขาได้มอบเงินเหล่านี้เพื่อที่จะใช้ในการพิมพ์หนังสือ เพื่อประกาศพระคริสต์ จนเป็นพรอย่างมากมาย



อ. นิติเชษฐ์ สดุดีวงศ์

Bible Study 2, Youth Challenge 2009

เมื่อวันที่ 05/04/2009

เรื่อง ผู้อารักขา

ไม่มีความคิดเห็น:

My Blog

  • วินัยของน้องหมา (ข้างถนน) - วันที่ 18/8/2011 เช้านี้ขณะที่รถติดไฟแดงอยู่บริเวณสี่แยกสามย่าน ซึ่งเบื้องหน้าเป็นจามจุรีสแควร์นั้น พลันก็เหลือบเห็นน้องหมาตัวหนึ่งเดินข้ามทางม้าลายด้วยอ...
    12 ปีที่ผ่านมา
  • บทความคริสเตียน - บทความคริสเตียน http://www.gracezone.org/index.php/christian-articles บทความทางด้านจิตวิญญาณ หลักข้อเชื่อ พระเจ้า พระคัมภีร์ พระเจ้า พระคัมภีร์ แนวทางในการ...
    15 ปีที่ผ่านมา
  • คริสเตียนกับการรับใช้พระเยซู - คริสเตียนกับการรับใช้พระเยซู วัน พุธ 08 ต.ค. 08@ 17:47:37 ICT หัวข้อ: สรุปคำเทศนาประจำอาทิตย์ ดร.ทะนุ วงค์ธนานุกุล วัน อาทิตย์ ที่ 21 กันยายน 2008 พระธร...
    15 ปีที่ผ่านมา
  • - แต่วาระนั้นใกล้เข้ามาแล้ว และบัดนี้ก็ถึงแล้ว คือเมื่อผู้ที่นมัสการอย่างถูกต้องจะนมัสการพระบิดา ด้วยจิตวิญญาณและความจริง เพราะว่าพระบิดาทรงแสวงหาคนเช่นนั้...
    15 ปีที่ผ่านมา

Christian Blog

บล็อกวาไรตี้

เทคโนโลยี

ดาวน์โหลดโปรแกรมมาใหม่ล่าสุด |

วาไรตี้

ข่าวประจำวัน

สารบัญเว็บไทย

กินลม ชมทะเล ที่มาร์คเฮ้าส์บังกะโล เกาะกูด จ.ตราด

Thailand Map