Custom Search By Google

Custom Search

วันพุธที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2552

คำอธิษฐานของเซนต์ ฟรังซิส อัสซีซี

ชีวิตเป็นพระพรจากพระเจ้า

เราต้องรู้จักเลือกสิ่งที่เสริมสร้างชีวิต เลือกความดีมากกว่าเลือกสิ่งที่ทำร้าย และทำลายชีวิตของตนเองและผู้อื่น

มีบางคนนอกจากไม่มีชีวิตที่ไม่ประกาศและถวายเกียรติพระเจ้าแล้ว แถมยังชอบบ่นว่าพระเป็นเจ้าและผู้นำอยู่เป็นประจำ ดังเช่นชนชาติอิสราเอลที่พระเจ้าทรงช่วยกู้จากการเป็นทาสในอียิปต์ และทรงนำพวกเขาทั้งกลางวันและกลางคืนด้วยเสาเมฆและเสาเพลิง ทั้งๆ ที่พระองค์ไม่เคยอยู่ห่างจากชนชาติที่พระองค์ทรงเลือกและทรงรัก แต่ชนอิสราเอลนั้นกลับมีชีวิตดังว่าพระเจ้าไม่ได้ทรงประทับอยู่ด้วย

และประชาชนมาหาโมเสสกล่าวว่า "เราทั้งหลายได้กระทำบาปเพราะเราทั้งหลายได้บ่นว่าพระเยโฮวาห์และบ่นว่าท่าน ขอทูลแด่พระเยโฮวาห์ ขอพระองค์ทรงนำงูไปจากเราเสีย" ดังนั้นโมเสสจึงอธิษฐานเพื่อประชาชน
และพระเยโฮวาห์ตรัสกับโมเสสว่า "จงทำงูแมวเซาตัวหนึ่งติดไว้ที่เสา และต่อมาทุกคนที่ถูกงูกัดเมื่อเขามองดู เขาจะยังมีชีวิต (กันดารวิถี 21: 7-8)
และพระวจนะสอนเราว่า "โมเสสได้ยกงูขึ้นในถิ่นทุรกันดารฉันใด บุตรมนุษย์จะต้องถูกยกขึ้นฉันนั้น เพื่อผู้ใดที่เชื่อในพระองค์จะไม่พินาศ แต่มีชีวิตนิรันดร์" (ยอห์น3:14-15)

แต่มีบุคคลท่านหนึ่งที่ได้รับการทรงเรียกจากพระเจ้าให้ดำเนินชีวิตตามแบบอย่างของพระเยซู ท่านสัมผัสได้ถึงการที่มีพระเยซูประทับอยู่ในหัวใจของท่าน และน้อมรับพระเยซูให้เป็นผู้นำชีวิต บุคคลท่านนี้ใช้ชีวิตเป็นนักการฑูตของพระเจ้าบอกเล่าความรักของพระองค์และประกาศข่าวดีของพระเยซูต่อเพื่อนเพื่อนมนุษย์ ท่านคือ "ฟรันซิส ชาวอัสซีซี"

ฟรันซิส ชาวอัสซีซี เกิดที่ประเทศอิตาลีเกิดค.ศ.1182 เป็นบุตรชายพ่อค้าที่ร่ำรวย ขณะยังหนุ่ม เป็นคนชอบสนุกสนาน ไม่จริงจังกับชีวิต ครั้งหนึ่งท่านป่วยหนักและได้ยินพระเยซู ตรัสเรียกท่านใน ค.ศ. 1205 ให้สละความสุขฝ่ายโลก แล้วติดตามพระองค์ ท่านจึงกลับใจเปลี่ยนแปลงชีวิตใหม่ โดยยึดพระวจนะที่ว่า "สิ่งที่ท่านได้ปฎิบัติ ต่อพี่น้อง แม้ที่ต่ำต้อยของเรา นั่นแหละเท่ากับได้ปฎิบัติต่อเรา" ท่านได้พยายามปดำเนินชีวิตตามคำสั่งสอนของพระเยซู โดยละความเห็นแก่ตัว และมอบตนเองแด่พระเจ้า เจริญชีวิตเรียบง่าย ช่วยเหลือคนจน จากนั้นท่านก็ได้สละทรัพย์สมบัติ อันเป็นมรดกทั้งหมด ต้องเที่ยวขอทานและทำงานรับใช้คนโรคเรื้อน ต่อมาท่านได้ตั้งคณะนักบวช ท่านสอนความรักของพระเยซูและประกาศข่าวดีของพระเยซูต่อเพื่อนมนุษย์ และเสียชีวิตใน วันที่ 3 ตุลาคม ค.ศ.1226

"ท่านถือความยากจนเป็นที่สุด
ท่านแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าหยาบ
และขออาหารเพื่อประทังชีวิต
จนมีคนเรียกท่านว่า คนจนแห่งอัสซีซี
หรือ ขอทานผู้มีความสุข The Joyful Beggar
ท่ายอยู่กับธรรมชาติ อย่างมีความสุข
เมื่อไม่มีการสะสมทรัพย์สมบัติ ไม่มีความโลภ
ย่อมไม่มีการแข่งขัน มีแต่สันติสุขเท่านั้น"

"คำอธิษฐานของเซนต์ ฟรังซิส อัสซีซี"

ข้าแต่พระบิดา ขอพระองค์ทรงกระทำให้ข้าพเจ้าเป็นเครื่องมือของพระองค์ เพื่อสร้างสันติ
- ที่ใดมีความเกลียดชัง ให้ข้าพเจ้าเป็นผู้นำความรัก
- ที่ใดมีความเจ็บแค้น ให้ข้าพเจ้าเป็นผู้นำการอภัย
- ที่ใดมีความแตกแยก ให้ข้าพเจ้าเป็นผู้นำความสามัคคี
- ที่ใดมีความเท็จ ให้ข้าพเจ้าเป็นผู้นำความจริง
- ที่ใดมีความสงสัย ให้ข้าพเจ้าเป็นผู้นำความเชื่อ
- ที่ใดมีความสิ้นหวัง ให้ข้าพเจ้าเป็นผู้นำความหวัง
- ที่ใดมีความมืด ให้ข้าพเจ้าเป็นผู้นำความสว่าง
- ที่ใดมีความเศร้าโศก ให้ข้าพเจ้าเป็นผู้นำ ความยินดีเบิกบานใจ
ข้าแต่พระเป็นเจ้า โปรดให้ข้าพเจ้าเป็นผู้บรรเทา มากกว่าจะเป็นผู้รับการบรรเทา
- เห็นใจผู้อื่นมากกว่าจะรับความเห็นใจ
- รักผู้อื่นก่อน และมากว่าที่จะให้คนอื่นรักข้าพเจ้า
- ผู้ที่ให้เท่านั้น จะได้รับความอิ่มเอิบยินดี
- ผู้ที่ลืมตนเองเท่านั้น จะพบตนเองในทางสันติ
- ผู้ที่ยกโทษให้เท่านั้น จะได้รับการอภัยโทษ
ดังนี้เมื่อเราตาย จะได้ไปสู่พระราชัย ของพระองค์ชั่วนิรันดร


พี่น้องที่รัก การที่เรารักพระเจ้าและรักเพื่อนบ้านของเรานั้นเป็นการทำตามพระบัญญัติของพระเจ้า และเป็นรากฐานของการดำเนินชีวิตคริสเตียน (มัทธิว 22:36-40, โรม 13:8-10, ยากอบ 2:8)

36 'อาจารย์เจ้าข้า ในธรรมบัญญัตินั้นข้อใดสำคัญที่สุด'
37 พระเยซูทรงตอบเขาว่า 'จงรักพระองค์ผู้เป็นพระเจ้าของเจ้า ด้วยสุดใจสุดจิตของเจ้า และด้วยสิ้นสุดความคิดของเจ้า
38 นั่นแหละเป็นพระบัญญัติข้อใหญ่ และข้อต้น
39 ข้อที่สองก็เหมือนกัน คือ จงรักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง
40 ธรรมบัญญัติ และคำของผู้เผยพระวจนะทั้งสิ้น ก็ขึ้นอยู่กับพระบัญญัติสองข้อนี้' " (มัทธิว 22:36-40)

8 อย่าเป็นหนี้อะไรใคร นอกจากความรักซึ่งมีต่อกัน เพราะว่าผู้ที่รักคนอื่นก็ทำให้พระราชบัญญัติสำเร็จแล้ว
9 พระบัญญัติกล่าวว่า `อย่าล่วงประเวณีผัวเมียเขา อย่ากระทำการฆาตกรรม อย่าลักทรัพย์ อย่าเป็นพยานเท็จ อย่าโลภ' ทั้งพระบัญญัติอื่นๆก็รวมอยู่ในข้อนี้คือ `ท่านจงรักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง'
10 ความรักไม่ทำอันตรายเพื่อนบ้านเลย เหตุฉะนั้นความรักจึงเป็นที่ให้พระราชบัญญัติสำเร็จแล้ว (โรม 13:8-10)

8 ถ้าท่านทั้งหลายดำรงตนตามพระราชบัญญัติแห่งพระมหากษัตริย์ตามพระคัมภีร์ที่ว่า `จงรักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง' แล้ว ท่านทั้งหลายก็ประพฤติดีอยู่ (ยากอบ 2:8)

โดยข้อนี้ เราจึงรู้ว่าเรารักคนทั้งหลายที่เป็นบุตรของพระเจ้า เมื่อเราทั้งหลายรักพระเจ้า และประพฤติตามพระบัญญัติของพระองค์" (1ยอห์น 5:2)
เราจะรักพระเจ้าได้อย่างไร? ก็โดยการเชื่อฟังพระมหาบัญญัติของพระเจ้า ที่เราจะรักพระเจ้า และรักพี่น้อง

ข้อคิด
เราซึ่งเป็นผู้ที่เรียกตัวเองว่าคริสเตียนและเป็นผู้ติดตามพระเยซูคริสต์ ได้ดำเนินชีวิตตามแบบอย่างของพระเยซูที่ทรงทำเป็นตัวอย่างให้เราดูหรือเปล่า....
และเช่นเดียวกัน ถ้าเราบอกว่า เรารักพระเจ้าที่มองไม่เห็น แล้วพี่น้องของเราที่เราที่เราแลเห็นล่ะ เรารักหรือเปล่า?

Lambkin
9 เม.ย.2552

ไม่มีความคิดเห็น:

My Blog

  • วินัยของน้องหมา (ข้างถนน) - วันที่ 18/8/2011 เช้านี้ขณะที่รถติดไฟแดงอยู่บริเวณสี่แยกสามย่าน ซึ่งเบื้องหน้าเป็นจามจุรีสแควร์นั้น พลันก็เหลือบเห็นน้องหมาตัวหนึ่งเดินข้ามทางม้าลายด้วยอ...
    12 ปีที่ผ่านมา
  • บทความคริสเตียน - บทความคริสเตียน http://www.gracezone.org/index.php/christian-articles บทความทางด้านจิตวิญญาณ หลักข้อเชื่อ พระเจ้า พระคัมภีร์ พระเจ้า พระคัมภีร์ แนวทางในการ...
    15 ปีที่ผ่านมา
  • คริสเตียนกับการรับใช้พระเยซู - คริสเตียนกับการรับใช้พระเยซู วัน พุธ 08 ต.ค. 08@ 17:47:37 ICT หัวข้อ: สรุปคำเทศนาประจำอาทิตย์ ดร.ทะนุ วงค์ธนานุกุล วัน อาทิตย์ ที่ 21 กันยายน 2008 พระธร...
    15 ปีที่ผ่านมา
  • - แต่วาระนั้นใกล้เข้ามาแล้ว และบัดนี้ก็ถึงแล้ว คือเมื่อผู้ที่นมัสการอย่างถูกต้องจะนมัสการพระบิดา ด้วยจิตวิญญาณและความจริง เพราะว่าพระบิดาทรงแสวงหาคนเช่นนั้...
    15 ปีที่ผ่านมา

Christian Blog

บล็อกวาไรตี้

เทคโนโลยี

ดาวน์โหลดโปรแกรมมาใหม่ล่าสุด |

วาไรตี้

ข่าวประจำวัน

สารบัญเว็บไทย

กินลม ชมทะเล ที่มาร์คเฮ้าส์บังกะโล เกาะกูด จ.ตราด

Thailand Map