Custom Search By Google

Custom Search

วันเสาร์ที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2552

ประกาศเชิงรุกเต็มพิกัด

การที่เรารุกเข้าไปหาคน และดึงเขา จะได้เปรียบมาก แต่ถ้าหากเราเป็นฝ่ายตั้งรับ เราจะไม่คิดอะไรนอกกรอบ รับมืออย่างเดียว แล้วเราจะรับมือไม่ไหว แทนที่คริสตจักรจะเคลื่อนไป ก็กลับอ่อนแรงลง ต่อให้เข้มแข็งอย่างไร ก็ถูกโจมตีด้วย

มารฉลาดขึ้นได้เช่นเดียวกัน มารโจมตีเราทุกรูปแบบ มีสิ่งล่อลวงต่าง ๆ มากมาย ถ้าหากคริสตจักรเราเฝ้าตั้งรับเพียงอย่างเดียว สักวันหนึ่งก็จะถดถอยลง

ถึงเวลาที่เราจะหยุดและคิด ว่าเราจะตั้งรับอย่างเดียว หรือเราจะรุก ถ้าเราตั้งรับ จะไม่เห็นการประกาศที่เกิดผล แม้จะมีบ้างที่มีคนเดินเข้ามาโบสถ์ และบอกว่าจะขอเชื่อพระเยซู แต่น้อยมากทีเดียว

มีคนหนึ่ง ชีวิตมีปัญหามากมาย แต่เขานั่งรถผ่านคริสตจักรใจสมาน พบข้อพระคัมภีร์ มัทธิว 6:33 แล้ว ตัดสินใจเดินมาที่โบสถ์ และในที่สุดก็นำครอบครัวมารับเชื่อ แต่นี่เป็นเพียงตัวอย่างที่น่าตื่นเต้น ไม่ใช่พบได้ทั่วไป

ดังนั้น เราจะต้องเปลี่ยนเป็นพันธกิจเชิงรุก เพื่อให้ข่าวประเสริฐได้ถูกประกาศออกไป และจะมีผู้คนมารู้จักกับพระเจ้ามากขึ้น



POWER

P = People center

คนเป็นเรื่องสำคัญ ถ้าเราอยากได้คน เราก็ต้องรุกเข้าหาเช่น ดังสุภาษิต "ไม่เข้าถ้ำเสือ ก็ไม่สามารถได้ลูกเสือ"

1. ต้องตอบสนองความต้องการฝ่ายร่างกายของเขา

ฝ่ายร่างกายเป็นเรื่องสำคัญเช่นกัน ไม่ใช่เพียงหยิบยื่นแค่เรื่องกิตติคุณเท่านั้น แม้ว่าชีวิตนิรันดร์สำคัญ แต่เราต้องให้ความสำคัญกับความต้ัองการของเขาด้วย ว่าเขาต้องการอะไร

"พระเยซูก็ได้จำเริญขึ้น ในด้านสติปัญญา ในด้านร่างกาย และเป็นที่ชอบจำเพาะพระเจ้า และต่อหน้าคนทั้งปวงด้วย" (ลูกา 2:52)

พระเยซูคริสต์ทรงครบถ้วนในทุก ๆ ด้านของชีวิต และเราก็ต้องให้ความสำคัญกับทุก ๆ ด้านของชีวิตด้วยเช่นเดียวกัน

ถ้าหากว่าผู้ที่เราจะประกาศ เขายังไม่มีอะไรรับประทาน เขาก็คงจะยังไม่สนใจกับข่าวประเสริฐ แต่เรามักจะหยิบยื่นเพียงแค่ข่าวประเสริฐให้แก่เขา จึงทำให้การประกาศไม่ประสบผลสำเร็จ

2. ตอบสนองความต้องการด้านจิตใจ

คนเราในปัจจุบัน มีปัญหาทางด้านจิตใจมากมาย และเมื่อคนหนึ่งมีปัญหา ลูกของเขาที่เกิดมาก็จะมีปัญหาด้วยเช่นเดียวกัน ปัญหาครอบครัวมีมาก ดังนั้นความต้องการด้านจิตใจจึงเป็นเรื่องที่เราจะต้องคำนึงถึง

เรื่องของจิตใจเป็นเรื่องสำคัญที่เราจะต้องทำความเข้าใจ เพื่อที่จะชนะใจเขาได้ เพื่อที่เขาจะพร้อมที่จะรับฟังข่าวประเสริฐ แล้วข่าวประเสริฐจะเป็นฤทธิ์เดชในชีวิตของเขาเหล่านั้น นี่แหละเป็นเหตุผลหนึ่งที่พระเจ้าทรงใช้มนุษย์ที่มีความจำกัดในการทำหน้าที่ที่พระองค์ทรงมอบหมายให้ เพราะมนุษย์มีจิตใจ

"ประสงค์จะให้เทพผู้ปกครอง และศักดิเทพในสวรรคสถาน รู้จักปัญญาอันซับซ้อนของพระเจ้าทางคริสตจักร ณ บัดนี้" (เอเฟซัส 3:10)

3. ต้องเข้าถึงวัฒนธรรม

เราต้องเรียนรู้โลกของเขา ถ้าเราจะประกาศกับวัยรุ่น เราก็ต้องศึกษาภาษาของวัยรุ่น ต้องรู้วัฒนธรรมของเขา ต้องรู้ว่าเขาฟังเพลงอย่างไร เพื่อที่จะสื่อสารแก่เขาด้วยภาษาที่เขาเข้าใจได้

4. ต้องเข้าสู่จิตใจ หรือความรู้สึก

เป็นเรื่องที่ต้องทำความเข้าใจอย่างมาก เป็นเรื่องเกี่ยวกับ EQ

คนมากมาย มีชีวิตที่ไม่เต็ม เขาเลยต้องพยายามกลบสิ่งเหล่านี้ กลบความว่างเปล่าที่เขาต้องการการเติมเต็ม โดยอาจแสดงออกด้วยการก้าวร้าว ทับถมผู้อื่น

เราจึงจำเป็นต้องพยายามฝึกฝน EQ ของเรา ที่จะไม่โต้ตอบ

พระเยซูคริสต์ทรรงเป็นตัวอย่างที่ดี

เรื่องหญิงสะมาเรีย เมื่อพระเยซูเสด็จไปหาเขา และขอน้ำเขาดื่ม หญิงคนนั้นก็คงจะมิได้ตอบพระเยซูอย่างดีเท่าไรนัก เพราะว่าตามธรรมชาติของหญิงโสเภณี และการที่เขาเป็นชาวสะมาเรีย ไม่ถูกกับชาวยิว อาจจะสบประมาทพระเยซูมากทีเดียว แต่เมื่อคุยไป เขาคงสังเกตได้ถึงความมี EQ ที่ดีเยี่ยมของพระองค์ ในที่สุด ผู้หญิงคนนี้คงจะรู้สึกบางอย่าง เขาจึงยอมเปิดใจ

เมื่อเราประกาศ เราจำเป็นต้องสำแดงชีวิตเช่นนี้ เราต้องเข้าใจว่าชีวิตของคนเหล่านั้นยังต้องการการเติมเต็ม แล้วเราจะเข้าใจ เราจะควบคุม EQ ของเราได้ดียิ่งขึ้น

O = Out of Box

เรามีกล่องของเรา โดยเฉพาะคริสเตียนมักจะมีกล่องความคิดของเรา เมื่อเราคิดถึงการประกาศพระกิตติคุณ เราก็มีกรอบความคิดของเรา

- ต้องออกไป

"เหตุฉะนั้น เจ้าทั้งหลายจงออกไปสั่งสอนชนทุกชาติ ให้เป็นสาวกของเรา ให้รับบัพติศมาในพระนามแห่งพระบิดา พระบุตร และพระวิญญาณบริสุทธิ์" (มัทธิว 28:19)

สังเกตว่า พระองค์ทรงให้เราออกไป มิได้ให้นั่งรอให้คนมาเพื่อที่เราจะประกาศ เราจำเป็นต้องออกไปเพื่อประกาศพระกิตติคุณ

เช่นเดียวกับผู้ที่่ทำอาชีพขายตรง ไม่มีใครที่จะนั่งรอที่บ้าน ให้คนมาซื้อที่บ้าน แต่ทุกคนจะต้องออกไปเพื่อหาลูกค้า

"Comfort zone": เมื่อเราออกจากโบสถ์ เราอาจจะรู้สึกว่าเราไม่คุ้นเคย เพราะได้ออกจากเขตปลอดภัยของเราแล้ว แต่การประกาศ เราจำเป็นต้องเข้าไปสู่ชุมชน เข้าไปแสดงตัวให้คนในชุมชนได้เห็น ให้เขาเห็นถึงความจริงใจของเรา

คริสเตียนไทยมีอยู่แค่ 1 เปอร์เซ็นต์ อาจรู้สึกว่าคงจะไม่สามารถทำอะไรได้ แต่แท้จริงแล้ว ขอที่เราจะอย่ากลัว เพราะเราสามารถทำอะไรเยอะมาก ขอที่เราจะกล้าทำสิ่งใหญ่

- ต้องสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ

ขอท้าทายที่เราจะลองคิดรูปแบบการประกาศแบบใหม่ ๆ เพราะเราสามารถทำอะไรได้อย่างมากมาย

คริสเตียนชาวสิงคโปร์ มีรูปแบบการประกาศทีน่าสนใจมาก โดยการที่บินมาประเทศไทย ปีนเขาเพื่อการประกาศ แล้วประกาศกับคนปีนเขาทั้งหลาย เพราะคนทุกคน เมื่อขณะปีนเขา เขาจะรู้สึกว่า ชีวิตแขวนอยู่บนเชือกเส้นเดียว และคงจะมีความรู้สึกกลัวว่าจะตกลงไป นั่นแหละ ก็จะมีโอกาสประกาศแก่เขา

เช่นเดียวกัน เราสามารถที่จะหาโอกาส สร้างโอกาส เพื่อที่จะประกาศแก่เขา ด้วยรูปแบบที่แตกต่างกันไปได้

W = Witness: Life-style evangelism

- ชีวิตต้องสำแดง

พระเยซูคริสต์ทรงใช้วิธีนี้ในการที่จะเรียกสาวกของพระองค์ โดยทรงเริ่มเรียกแอนดรูว์และยอห์น และทั้งคู่ก็ไปพักร่วมกับพระองค์ที่บ้านที่พระองค์ทรงพักอยู่ และพระคัมภีร์บันทึกว่า แอนดรูกลับไปหาเปโตรว่า "ฉันเจอพระเมสสิยาห์แล้ว"

"35 รุ่งขึ้นอีกวันหนึ่ง ยอห์นกำลังยืนอยู่กับสาวกของท่านสองคน
36 และท่านมองดูพระเยซูขณะที่พระองค์ทรงดำเนิน และกล่าวว่า 'จงดูพระเมษโปดกของพระเจ้า'
37 สาวกสองคนนั้นได้ยินท่านพูดเช่นนี้ เขาจึงติดตามพระเยซูไป
38 พระเยซูทรงเหลียวกลับมา และเห็นเขาตามพระองค์ไป จึงตรัสถามเขาว่า 'ท่านหาอะไร' และเขาทั้งสองทูลพระองค์ว่า 'รับบี (ซึ่งแปลว่าอาจารย์) ท่านอยู่ไหน'
39 พระองค์ตรัสตอบเขาว่า 'มาดูเถิด' เขาก็ไป และเห็นที่ซึ่งพระองค์ทรงพำนัก และวันนั้นเขาก็ได้พักอยู่กับพระองค์ เพราะขณะนั้นประมาณสี่โมงเย็นแล้ว
40 คนหนึ่งในสองคนที่ได้ยินยอห์นพูด และได้ติดตามพระองค์ไปนั้นคือ อันดรูว์น้องชายของซีโมนเปโตร
41 แล้วอันดรูว์ก็ไปหาซีโมนพี่ชายของตนก่อน และบอกเขาว่า 'เราได้พบพระเมสสิยาห์ {คำภาษาฮีบรู และคำภาษากรีก หมายความว่า ผู้ที่พระเจ้าทรงเจิม} แล้ว' (ซึ่งแปลว่าพระคริสต์)
42 อันดรูว์จึงพาซีโมนไปเฝ้าพระเยซู พระเยซูทรงทอดพระเนตรเขาแล้วจึงตรัสว่า 'ท่านคือซีโมนบุตรยอห์นซีนะ เขาจะเรียกท่านเคฟาส' (ซึ่งแปลว่าศิลา)" (ยอห์น 1:35-42)

อะไรที่ทำให้แอนดรูเห็นแล้ว สรุปได้เลย ว่าพระเยซูคริสต์ทรงเป้นพระเมสสิยาห์? สิ่งที่เขาเห็นก็คือ ชีวิตของพระเยซู ได้เห็นการดูแลบ้านของพระองค์ ได้เห็นเตียงนอนของพระองค์ นี่แหละ เป็นแบบอย่างแก่เรา เพราะการประกาศที่ดี ชีวิตต้องสำแดง สิ่งที่เราพูดและชีวิตเราจะต้องตรงกัน ถ้าเราจะเป็นพยาน ชีวิตเราจะต้องดี

- ชีวิตที่สวนกระแส

เราจะต้องเป็นปลาที่ว่ายทวนน้ำ เราจะต้องสวนค่านิยมของโลก

พระเยซูไม่ทรงอะลุ่มอล่วยกับความบาป สิ่งใดที่เป็นบาป เราจะต้องกำชับให้เขาหยุดสิ่งนั้น เราต้องกล้ายืนยันสวนกระแสความคิดที่ผิดของสังคม แม้ว่าเขาอาจจะคิดว่ามันถูก แต่ถ้าผิด เราก็ต้องยืนยันต่อต้าน อย่ากลัว เช่น เรื่องเกย์ เรื่องการพูดตลกลามก

E = Estimate

1. การวางแผน

นี่เป็นเรื่องใหญ่มาก คือ เรื่องการวางแผนที่ชัดเจน

การจัดงานประกาศก็เช่นกัน ควรจะมีการวางแผนการอย่างแนบเนียน ทั้งแผนการเตรียมการ และแผนการติดตามผล โดยให้ความร่วมมือกับนักเทศน์ ในการช่วยทำหน้าที่ในส่วนที่ทำได้ ไม่ควรให้นักเทศน์ทำทุกส่วน

มีตัวอย่างที่ดีโบสถ์นึง เมื่อจะจัดงานประกาศ จะมีการเตรียมตัวอย่างดี มีการสนับสนุนให้คริสเตียนเราได้มีโอกาสสร้างสัมพันธ์กับผู้ที่จะประกาศ มีเพื่อนที่ไม่เป็นคริสเตียน เพื่อที่ในที่สุด ก็จะชวนเขามายังงานประกาศได้

2. การแก้ปัญหา

ควรจะฝึกที่จะคิดปัญหา และจะต้องฝึกที่จะตอบโจทย์ แก้ปัญหาต่าง ๆ ได้ เตรียมพร้อมที่จะออกไปประกาศในที่สุด

เมื่อมีงานประกาศขึ้น เราจะต้องประเมินผลทุกครั้ง ว่ามีอะไรที่ต้องแก้ปรับปรุงได้ เพราะครั้งต่อไปควรจะดีขึ้น และไม่ควรที่จะพลาดซ้ำเก่าอีก

R = Relation

มีผู้ที่มีอำนาจหลายคน ที่ใช้หลักการนี้ในการขับเคลื่อนสิ่งต่าง ๆ คือ ใช้ความสัมพันธ์

ความสัมพันธ์เหมือนน้ำมันหล่อลื่นชีวิต เป็นพลังในการขับเคลื่อน

ขอให้เราใช้ความสัมพันธ์เป็นเครื่องมือที่สำคัญในการประกาศ



อ. ประวิทย์ ศรีวิไลฤทธิ์

Workshop G, Youth Challenge 2009

เมื่อวันที่ 05/04/2009

เรื่อง ประกาศเชิงรุกเต็มพิกัด

ไม่มีความคิดเห็น:

My Blog

  • วินัยของน้องหมา (ข้างถนน) - วันที่ 18/8/2011 เช้านี้ขณะที่รถติดไฟแดงอยู่บริเวณสี่แยกสามย่าน ซึ่งเบื้องหน้าเป็นจามจุรีสแควร์นั้น พลันก็เหลือบเห็นน้องหมาตัวหนึ่งเดินข้ามทางม้าลายด้วยอ...
    12 ปีที่ผ่านมา
  • บทความคริสเตียน - บทความคริสเตียน http://www.gracezone.org/index.php/christian-articles บทความทางด้านจิตวิญญาณ หลักข้อเชื่อ พระเจ้า พระคัมภีร์ พระเจ้า พระคัมภีร์ แนวทางในการ...
    15 ปีที่ผ่านมา
  • คริสเตียนกับการรับใช้พระเยซู - คริสเตียนกับการรับใช้พระเยซู วัน พุธ 08 ต.ค. 08@ 17:47:37 ICT หัวข้อ: สรุปคำเทศนาประจำอาทิตย์ ดร.ทะนุ วงค์ธนานุกุล วัน อาทิตย์ ที่ 21 กันยายน 2008 พระธร...
    15 ปีที่ผ่านมา
  • - แต่วาระนั้นใกล้เข้ามาแล้ว และบัดนี้ก็ถึงแล้ว คือเมื่อผู้ที่นมัสการอย่างถูกต้องจะนมัสการพระบิดา ด้วยจิตวิญญาณและความจริง เพราะว่าพระบิดาทรงแสวงหาคนเช่นนั้...
    15 ปีที่ผ่านมา

Christian Blog

บล็อกวาไรตี้

เทคโนโลยี

ดาวน์โหลดโปรแกรมมาใหม่ล่าสุด |

วาไรตี้

ข่าวประจำวัน

สารบัญเว็บไทย

กินลม ชมทะเล ที่มาร์คเฮ้าส์บังกะโล เกาะกูด จ.ตราด

Thailand Map